บัสบาส อดอาหารเข้าวันที่ 17 ยังเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง และทวนเรื่องสิทธิของนักโทษในเรือนจำอีก

วันที่ 14 มี.ค. 2567 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเดินทางเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ศาลเห็นว่ามีความผิดจำนวน 25 ข้อความ และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2567 โดยกรณีของบัสบาสนับเป็นคดี มาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

บัสบาส เริ่มอดอาหารในเรือนจำเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทั้งหมด มาตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2567 รวมเป็นระยะเวลา 17 วันแล้ว และเริ่มอดน้ำมาได้ 5 วัน

บัสบาสทบทวนว่าหลังจากเขาเริ่มอดอาหารมาได้ 2-3 วัน ได้มีหนังสือของกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับการอดอาหารของผู้ต้องขังมาให้เขาลงชื่อ โดยเบื้องต้น เขาได้ให้ความยินยอมให้มีการให้น้ำ นม กาแฟ หรือผลไม้ และให้มีการกระตุ้นหัวใจที่โรงพยาบาล หากมีอาการช็อค แต่ปฏิเสธไม่รับสารอาหารทางสายยาง ต่อมาเขาได้รับการตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจวัดความดัน ในทุกวัน

ข้อเรียกร้องของเขามีประการเดียว คือให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข  บัสบาสระบุว่า ไม่อยากให้มีใครต้องถูกจำคุกเหมือนเขา ระยะเวลา 50 ปี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกเขา คือ ความหวังที่เขาจะอยู่ต่อไปเพื่อรอดูและได้เห็นความเสมอภาค เสรีภาพ และภราดรภาพ ที่ดีขึ้นในสังคมไทย แต่หากร่างกายเขาสู้ไม่ไหว เขาก็จะแจ้งให้ทราบ

บัสบาสยังพูดคุยถึงความสนใจ ในเรื่องการเรียกร้องสิทธิผู้ต้องขังในเรือนจำเหมือนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสิทธิในการได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หาใช่เป็นเพียงผัก กับน้ำแกง เขาอยากให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมปรับปรุงในเรื่องนี้ที่สุด

ในเรื่องสิทธิในการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยเขาเห็นว่าหากเรือนจำไม่อยากให้ผู้ต้องขังดูข่าวสารบ้านเมืองทั้งหมด อาจจะทำเป็นคลิปคัดสรรข่าวสารสำคัญให้ผู้ต้องขังได้รับชมรับฟังในเบื้องต้นก็ได้

ในเรือนจำเชียงราย ยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการออกกำลังกาย เพราะในแดน 1 มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ แต่มีจำนวนผู้ต้องขังประมาณ 200 คน โดยไม่มีสถานที่สำหรับออกกำลังกายให้เลย

นอกจากนั้นผู้ต้องขังยังควรมีสิทธิในการติดต่อกับหน่วยงานยุติธรรม เช่น สภาทนายความฯ โดยพบว่าเคยมีผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีบางคนเขียนคำร้อง คำขอต่าง ๆ ออกไป แต่ถูกเก็บไว้ที่เรือนจำ โดยไม่มีการส่งคำร้องออกไป ทำให้เข้าไม่ถึงความยุติธรรม หากไม่มีคนภายนอกช่วยประสานงานให้เลย ก็เป็นเรื่องยากลำบากในทางคดี จึงอยากให้เรือนจำมีช่องทางดูแลเรื่องเหล่านี้

ในเรื่องการส่งจดหมาย บัสบาสบอกว่าหลังจากครอบครัวและเพื่อนของเขามาเยี่ยมที่เรือนจำเมื่อวานนี้ ทราบว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งส่งโปสการ์ดมาให้เขาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว แต่บัสบาสพบว่าเขายังไม่ได้รับ จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โปสการ์ดมาถึงเรือนจำแล้ว แต่ไม่ได้ถูกส่งต่อมาให้เขาหรือไม่อย่างไร ถ้าติดตามไม่ได้ ก็น่าจะต้องให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ลองช่วยกันส่งจดหมายหรือโปสการ์ดเข้ามาอีกครั้ง

ในส่วนเรื่องคดี บัสบาสยังยืนยันในการฎีกาคำพิพากษาต่อ โดยอยู่ระหว่างการจัดทำฎีกา ทั้งเขายังสอบถามเรื่องสถานการณ์การนิรโทษกรรมทางการเมือง และข่าวสารอื่น ๆ โดยเขาฝากให้กำลังใจทุก ๆ คนที่ช่วยกันผลักดันในเรื่องนี้

สำหรับผู้ที่สนใจส่งจดหมายไปที่ มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ที่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000

.

X