บันทึกเยี่ยม “บัสบาส”: จิตใจยังเข้มแข็ง สู้ต่อชั้นฎีกา ร่วมสื่อสารถึงสิทธิของผู้ต้องขังในเรือนจำ

วันที่ 21 ก.พ. 2567 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเดินทางเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ศาลเห็นว่ามีความผิดจำนวน 25 ข้อความ และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2567 โดยกรณีของบัสบาส นับเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2567 ทนายความได้ยื่นประกันตัวบัสบาสเป็นครั้งที่ 2 และศาลจังหวัดเชียงรายได้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ก่อนศาลฎีกาจะมีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 ว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ก่อนหน้าการยื่นประกันครั้งนี้ ทนายความได้เข้าเยี่ยมบัสบาสที่เรือนจำ การเยี่ยมดำเนินการผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ 2 นาย คอยยืนอยู่ด้านหลังของผู้ต้องขังโดยตลอด

บัสบาสเล่าในครั้งนั้นว่า เขาถูกย้ายไปอยู่ที่แดน 1 ซึ่งเป็นแดนพิเศษ ใช้คุมขังผู้ต้องขังที่ถูกลงโทษในอัตราสูง หลังเข้าไปพักหนึ่ง ได้ถูกโกนผมสั้นแล้ว และเขาได้เริ่มปรับตัวกับสถานที่ แดนที่เขาถูกย้ายมาไม่ใหญ่มาก คนไม่ได้เยอะมาก ผู้ต้องขังหลายคนได้ฟังถึงคดีเขาก็ตกใจ ที่ถูกลงโทษจำคุกถึง 50 ปี

ในส่วนเรื่องทางคดี เขายังประสงค์จะฎีกาคำพิพากษาต่อไป เพื่อให้ทบทวนคำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษสูงเช่นนี้ แม้จะต้องสู้คดีต่อระหว่างการถูกคุมขัง ในส่วนการต้องต่อสู้ในเรือนจำ เขาก็เตรียมใจไว้แล้ว ไม่ถึงกับกังวลอะไร ส่วนเรื่องภายนอก เขาเพียงแต่เป็นห่วงพ่อกับแม่ที่อายุมากแล้ว จึงฝากให้เพื่อนสนิทของเขาช่วยดูแล

ทั้งนี้ ทนายความพบว่าเรือนจำกลางเชียงราย มีรูปแบบการเยี่ยมที่กำหนดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง และเยี่ยมทางไลน์ได้อีกเดือนละ 1 ครั้ง แตกต่างจากอีกหลายเรือนจำในต่างจังหวัด ที่กำหนดให้เยี่ยมได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ผลัดเปลี่ยนไปกันตามแดนในแต่ละวันในรอบสัปดาห์ ทำให้กรณีของบัสบาส ญาติหรือเพื่อนต้องรอการเยี่ยมในแต่ละครั้งค่อนข้างนาน

.

ส่วนการเยี่ยมในวันนี้ บัสบาสบอกว่า เขาสบายดี ร่างกายจิตใจค่อนข้างเข้มแข็ง

เขาบอกเล่าถึงสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ โดยมีกิจวัตรประจำวัน คือ ตื่นเช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า-อาหารกลางวัน หลังจากนั้นก็จะมีการเปิดคลิปให้ฟังเพลง อาบน้ำ และเวลาประมาณ 16.00 น. ก็จะขึ้นเรือนนอน

บัสบาสบอกว่า ในห้องขังที่เขานอนนั้น มีผู้ต้องขังประมาณ 15 คน โดยทั่วไปแล้ว ในห้อง ๆ หนึ่ง จะมีผู้ต้องขังได้เต็มสุดประมาณ 40 คน ในแดน 1 นั้น เขาคิดว่าน่าจะมีผู้ต้องขังประมาณ 200 คน บัสบาสบอกว่าสภาพการนอน เขาได้รับผ้าห่มจำนวน 4 ผืน ใช้ทำเป็นหมอนไป 1 ผืน และอีกสามผืนใช้สำหรับห่มตัว ทั้งเขามีเสื้อแขนยาวใช้สวมใส่ได้อยู่ ช่วงนี้ที่อากาศตอนเช้ายังเย็น ๆ อยู่ จึงยังพอไหว

ส่วนปัญหาที่เขาเจอ คือในเรื่องอาหารของผู้ต้องขังที่ไม่ค่อยดีนัก เขาบอกว่าเคยสอบถามทางเรือนจำ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าว่างบประมาณไม่เพียงพอ

ประเด็นถัดมาในเรื่องของการไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสถานการณ์ภายนอกเรือนจำเท่าไร โดยทางเรือนจำมีโทรทัศน์ที่เปิดเรื่องแนวบันเทิงหรือเปิดเพลงให้ฟังเป็นหลัก สำหรับคนสนใจสถานการณ์ทางสังคมการเมือง จึงแทบไม่ได้รับรู้ข่าวสารที่เกิดขึ้นเลย

บัสบาสสนใจการรณรงค์ล่ารายชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาอยากรู้ว่าทิศทางว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป จะสามารถเข้าสภาได้เมื่อไร โดยเขาสนใจจะอ่านร่างกฎหมายของภาคประชาชนเพิ่มเติมด้วย

ในแดน 1 นี้ บัสบาสยังบอกว่าไม่มีสถานที่ให้ออกกำลังกาย และยังถูกห้ามไม่ให้ส่งอาหาร, หนังสือ หรือรองเท้ากีฬา จากนอกเรือนจำเข้ามาด้วย เขามองว่าสิทธิในการได้รับหนังสือหรือรองเท้า ไม่ควรถูกลิดรอนแบบนี้

สำหรับหนังสือที่มีให้ผู้ต้องขังอ่านนั้น บัสบาสบอกว่าส่วนใหญ่เป็นหนังสือนิยาย มีเล็กน้อยที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติ แต่ก็ส่งหนังสือจากภายนอกเข้าไปไม่ได้ในตอนนี้

บัสบาสนำเสนอว่า เขาอยากช่วยเรียกร้องเรื่องสิทธิของผู้ต้องขังในเรือนจำ ได้แก่ สิทธิในการได้รับอาหารการกินที่มีประโยชน์, สิทธิในการติดต่อสื่อสาร เช่น ผู้ต้องขังบางคนต้องการขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความฯ ในเรื่องเกี่ยวกับการเขียนคำร้องต่าง ๆ แต่ก็ไม่รู้จะติดต่ออย่างไร, สิทธิในการรับรู้ข่าวสาร โดยภายในเรือนจำ ผู้ต้องขังแทบไม่รู้สถานการณ์ ไม่รู้ความเป็นไปของโลก เมื่อพวกเขาพ้นโทษไปแล้ว จึงไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ อาจนำไปสู่การต้องกลับเข้ามาเรือนจำซ้ำอีก  

ในส่วนเรื่องสิทธิในการรักษาพยาบาลนั้น บัสบาสบอกว่าทางเรือนจำเชียงรายค่อนข้างเอาใจใส่เป็นอย่างดี หากใครเจ็บป่วย สามารถติดต่อขอรับยาจากเจ้าหน้าที่ได้ ตัวเขาเองได้ลงชื่อเพื่อขอรับการตรวจช่องปากไว้ กำลังรอการประกาศเรียกคิวต่อไป ทั้งเขายังได้รับยารักษาโรคซึมเศร้าที่เขาต้องกินต่อเนื่องแล้ว

บัสบาสทิ้งท้ายฝากให้กำลังใจเพื่อน ๆ ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองทุกคน ที่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำไม่ว่าที่ไหน เขาหวังว่าทุกคนจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน และเพื่อน ๆ ข้างนอก หากใครคิดถึงกัน ก็สามารถเขียนจดหมายมาหาเขาได้ เขาหวังว่าจะได้รับจดหมายเหล่านั้น

.

ย้อนอ่านเรื่องราวชีวิตของบัสบาส เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112

.

X