หลังจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษาในคดีของ “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการโพสต์ในเฟซบุ๊ก 2 ข้อความ ลงโทษจำคุกรวม 4 ปี 6 เดือน และมีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิจารณา ทำให้ “บัสบาส” ถูกส่งเข้าเรือนจำกลางเชียงรายเป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ในวันถัดมา
หลังออกจากเรือนจำ “บัสบาส” ได้บอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ในคืนที่ถูกคุมขัง ถึงการละเมิดสิทธิในเรือนจำ การข่มขู่ รวมถึงการทำลายทรัพย์สินของผู้ต้องขังในระหว่างถูกส่งเข้าเรือนจำ แม้จะมีการขอร้องจากเจ้าหน้าที่เรือนจำบางคนให้ไม่เผยแพร่ข้อมูลนี้ แต่บัสบาสเห็นว่าไม่ควรมีผู้ต้องขังคนไหนต้องถูกกระทำอย่างที่เขาโดน และการเผยแพร่นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาสิทธิในเรือนจำด้วย
.
เมื่อย่างก้าวเข้าเรือนจำ ผู้คุมสั่งให้นั่งลง – ข่มขู่จะใช้ไม้ฟาด บอกว่า “หน้าตามึงนี่กวนส้นตีนดีว่ะ”
บัสบาสเล่าว่า สภาพตั้งแต่เดินเข้าไปในประตูเรือนจำ มีเจ้าหน้าที่เรือนจำ-ผู้คุมอยู่ที่บริเวณประตูประมาณ 7-8 คน โดยมีหนึ่งในผู้คุมเรือนจำเดินมาพูดกับเขาว่า “หน้าตามึงนี่กวนส้นตีนดีว่ะ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่คนเดิมได้ออกคำสั่งให้ตนและผู้ถูกส่งเข้าเรือนจำคนอื่น ๆ นั่งลง พร้อมเดินเข้ามาชี้หน้าบัสบาสย้ำให้นั่งลง ก่อนถือไม้ทำท่าจะฟาดใส่และบอกว่า “กูสั่งให้มึงนั่งลง” ในขณะที่เขานั่งอยู่ก่อนแล้ว บัสบาสจึงตอบกลับไปว่า “ผมก็นั่งอยู่นี่ไงครับ” ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแสดงความไม่พอใจ ตะคอกตอบกลับมาว่า “มึงกวนตีนกูเหรอ มึงเก่งเหรอ” และง้างไม้ที่อยู่ในมือทำท่าจะฟาดอีก
“บาสไม่รู้เขาเป็นอะไร มาสั่งให้เรานั่ง ทั้งๆ ที่เรานั่งอยู่แล้ว”
.
เจ้าหน้าที่เรือนจำสั่งให้ถอดเสื้อผ้า ก่อนนำไปใช้มีดกรีดเสื้อเชิ้ต-รองเท้า จนขาดหลุดรุ่ย
บัสบาสเล่าต่อไปว่า หลังจากนั่งลงแล้วเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ออกคำสั่งให้ผู้ถูกส่งเข้าเรือนจำคนอื่น ๆ ถอดเสื้อผ้าออก ตอนนั้นคิดว่าคงจะเตรียมการตรวจร่างกายตามปกติ เขาจึงถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกลายขาวดำ ถุงเท้าและรองเท้าออกก่อน เมื่อวางไว้ ได้มีเจ้าหน้าที่คนเดิมหยิบไปและใช้มีดกรีดเสื้อและรองเท้าของเขาซ้ำ ๆ จนขาดหลุดรุ่ย และไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก
ในขณะนั้นบัสบาสไม่พอใจ โกรธอย่างมากที่เกิดการทำลายทรัพย์สินของเขา จึงบอกไปว่า “คุณทำได้ไงมันเป็นเสื้อผ้า ทรัพย์สินของผมนะ” และเริ่มโวยวายต่อว่าผู้คุม ทำให้มีผู้คุมอีกคนหนึ่งเข้ามาถามว่า “มึงโดนคดีอะไรวะ” ซึ่งบัสบาสก็ตอบไปว่า “คดี ม.112 ครับ” จนมีการเรียกผู้คุมทุกคนในบริเวณนั้นไปคุยกันเป็นกลุ่มห่างออกไปไม่ไกลนัก
.
หลังจากเจ้าหน้าที่คุยประชุมกันอยู่พักหนึ่ง ท่าทีก็เปลี่ยนไปหลังรู้ว่าเป็นผู้ต้องขังคดี ม.112
“สักพักมีผู้คุมคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ‘บาสใจเย็น ๆ นะ’ อยู่ดี ๆ ก็รู้จักชื่อผม เขาก็อ้างว่าเป็นระเบียบของทางเรือนจำ เขาก็พูดไป จากนั้นน้ำเสียงเปลี่ยนกันหมดทุกคน ไอ้คนที่พูดไม่ดีกับเราก็หลบหายไปข้างหลังเลย เขาก็พยายามบอกว่ามันเสียไปแล้ว อย่าไปบอกใครนะ เดี๋ยวพวกผู้คุมจะโดนกันหมด ผมก็โมโหและโวยวายว่ามากรีดเสื้อผ้าผมแบบนี้ได้ไง”
หลังจากที่ผู้คุมคุยประชุมกันเสร็จ พวกเขาต่างก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปและพยายามเกลี้ยกล่อมให้บัสบาสถอดเสื้อยืดตัวที่ใส่ไว้ด้านในกับกางเกงยีนส์ออก และสัญญาว่าจะไม่นำไปกรีดอีกแล้ว แต่ขณะนั้นบัสบาสไม่พอใจอย่างมากเขาจึงไม่ยอมถอด
ขณะนั้นบัสบาสรู้สึกโกรธและเริ่มคิดว่าจะต้องทำใจเรื่องเสื้อผ้าของเขาที่ถูกทำลายไป กระทั่งเขาก็ถูกพาไปจุดทำประวัติ ก็มีหนึ่งในผู้คุมเดินกลุ่มเดิมตามมา และพยายามพูดคุยกับเขาด้วยดี
.
หลังผู้คุมเรือนจำรู้ว่าอาจถูกนำเรื่องไปเผยแพร่ได้ ก็ปฏิบัติด้วยอย่างดี – พยายามคุยไม่ให้นำเรื่องไปเผยแพร่
หลังจากที่ผ่านห้องแรกรับมาแล้ว ผู้คุมก็พยายามถามไถ่ถึงความต้องการของเขา และเตรียมสบู่ ยาสีฟัน อุปกรณ์อื่นๆ มาให้ เมื่อบัสบาสแจ้งกับผู้คุมว่าตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและต้องทานยาทุกวัน ไม่นานนักผู้คุมก็จัดการให้หมอมาซักประวัติ และจ่ายยาให้เขา
“หลังกลับมาที่ห้องขัง ผู้คุมก็พยายามเข้ามาถามไถ่ว่าอยู่ได้ไหม อาหารกินได้ไหม นอนหลับไหม เดินมาคุยด้วยเรื่องการเมือง จนตอนกลางคืนผมได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่า ‘ไอ้ห่าเอ้ย ส่งคนที่เป็นข่าว คนดังเข้ามาแบบนี้ทำไมไม่บอกก่อนวะ จะซวยกันหมดเพราะเรื่องพวกนี้’ เราได้ยินเราก็อ๋อ… เขาคงกลัวเรื่องพวกนี้ หลังจากนั้นเขาก็คอยเช็คตลอด มีหมอมาเช็คอาการ ถามสารทุกข์สุกดิบ พยายามคุยไม่ให้เราเครียดละมั้ง”
วันรุ่งขึ้นผู้คุมก็นำเสื้อผ้าของเขาไปให้นักโทษคนอื่น ๆ ซักให้ จากนั้นก็แจ้งว่าจะได้ประกันแล้ว พร้อมกับนำคำร้องขอปล่อยชั่วคราวที่ทนายความนำมาให้ลงชื่อ หลังจากนั้นผู้คุมคนเดิมก็พยายามพูดย้ำ ๆ ว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ขอให้จบแค่ในนี้นะ อย่าบอกข้างนอกเลยเดี๋ยวพี่จะซวยกันหมด พี่ก็พยายามให้บาสอยู่ดี ๆ แล้ว อย่าบอกข้างนอกเลย”
ในช่วงใกล้ ๆ จะได้ออกจากเรือนจำ บาสก็ได้รับแจ้งว่าผู้อำนวยการเรือนจำเรียกตนเข้าพบ เมื่อพูดคุยก็ผู้อำนวยการก็ถามเรื่องสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ บอกว่าเรือนจำนี้อยู่กันแบบพี่น้อง แบบครอบครัว อยู่กันแบบสบาย ๆ และแจ้งว่าหากมีอะไรขัดข้องให้สามารถเข้ามาพบและพูดคุยกันได้ตลอด
“แต่ตอนที่คุยกับ ผอ.เรือนจำ บาสไม่ได้บอกว่าถูกทำอะไรมาบ้าง เพราะผู้คุมที่คอยมาจี้ นั่งประกบข้าง ๆ เลย เพราะเขาคงกลัวว่าเราจะบอก ไม่ไปไหนเลย บาสเองก็ไม่ได้บอก”
.
ถึงเวลาออกจากเรือนจำจึงได้รู้ว่าเสื้อผ้าที่เสียหายของตน ถูกนำไปทิ้งแล้ว – ผู้คุมซื้อรองเท้าแตะใหม่มาให้ทดแทน
เมื่อถึงเวลาปล่อยชั่วคราว ผู้คุมก็นำเสื้อกับกางเกงยีนส์มาให้ และนำรองเท้าแตะคู่ใหม่มาให้ จากนั้นก็ย้ำอีกว่าอย่าบอกใครถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนจำนี้ บัสบาสจึงทวงถามว่าเสื้อผ้าที่ถูกกรีดของเขาหายไปไหนแล้ว ผู้คุมแจ้งว่าได้นำไปทิ้งเรียบร้อยแล้ว
บัสบาสทักท้วงอีกว่า “พี่ก็รู้ใช่ไหมว่านั่นเป็นเสื้อผ้า ทรัพย์สินของผม” จากนั้นผู้คุมก็กระอักกระอ่วนบอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าบัสบาสจะได้ประกัน บัสบาสก็ถามเขาไปว่าตามระเบียบไม่ได้เป็นแบบนี้ใช่ไหม เขาก็ตอบมาว่าโดยปกติมีผู้ต้องหามาเขาก็ทำแบบนี้ทุกคน
.
ความรู้สึกโกรธจากความไม่เป็นธรรม ถูกละเมิดอย่างร้ายแรงในเรือนจำ และการถูกเลือกปฏิบัติจากคนอื่น
“เริ่มต้นมาเขาก็จะมองว่าเราเป็นคนเลวหมด แล้วก็จะสามารถกระทำอะไรกับเราก็ได้ แต่ในความจริงเขาไม่สามารถจะมาทำอะไรกับเราได้ ไม่สามารถมาตี ฟาด ด่า หรือเหยียดหยามใครก็ได้”
“หลาย ๆ คนไม่รู้สิทธิ์ ว่าเราสามารถโต้ตอบกับผู้คุมได้ หลายคนจะกลัวผู้คุม ดุอย่างไรเหตุผล ด่าเราอย่างไรเหตุผล ไม่ชอบหน้าเราอย่างไรเหตุผล”
บัสบาสพูดทิ้งท้ายว่า เขาเห็นว่าผู้ถูกส่งเข้าเรือนจำมักจะเกิดความกลัวผู้คุม ประหม่า และไม่รู้ว่าตนมีสิทธิอะไร ไม่รู้ว่าผู้คุมไม่มีสิทธิเหยียดหยามพวกเขา บัสบาสอยากให้ใครก็ตาม ไม่ควรเกิดความหวาดกลัวที่จะตอบโต้ด้วยเหตุผล หากตนเองถูกละเมิดสิทธิในเรือนจำ ทั้ง ๆ ที่คนเราทุกคนมีสิทธิ ใครก็ไม่สามารถมาแตะเนื้อต้องตัวร่างกาย หรือแม้กระทั่งเหยียดหยาม และสิทธิการรักษาโรคก็ควรเป็นสิทธิที่ได้รับการรักษากันทุกคน
“ถ้าผู้คุมคนนั้นทำอะไรก็ควรต้องถูกลงโทษทางวินัยของเขาเอง”
บัสบาสอยากให้คนที่วันหนึ่งอาจต้องเข้าเรือนจำตระหนักถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ของตนเอง หากถูกละเมิดเราก็สามารถแจ้งให้ญาติทราบได้ รวมถึงร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการเรือนจำต่อไป
.
อ่านเรื่องราวชีวิตของบัสบาส
เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112
อ่านฐานข้อมูล คดี 112 “บัสบาส” นักกิจกรรมเชียงราย คดีที่ 3 โพสต์ 2 ข้อความ เมื่อ ก.ค. 65
.