“บัสบาส” อดอาหารเข้าวันที่ 15 เริ่มอดน้ำได้ 3 วัน น้ำหนักลด กำลังใจยังดี หวังได้จดหมายจากนอกเรือนจำ

วันที่ 12 มี.ค. 2567 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเดินทางเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ศาลเห็นว่ามีความผิดจำนวน 25 ข้อความ และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2567 โดยกรณีของบัสบาสนับเป็นคดี มาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

บัสบาส ได้เริ่มอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2567 โดยเขาระบุว่าเพื่อประท้วงความอยุติธรรมและเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทั้งหมด ร่วมกับบุ้ง, ตะวัน และแฟรงค์ ที่อดอาหารอยู่ในกรุงเทพฯ

บัสบาสดูร่างกายสูบผอม โดยเขาอดอาหารเข้าวันที่ 15 แล้ว และล่าสุดเขาแจ้งว่าได้เริ่มอดน้ำมาได้ประมาณ 3 วันแล้ว ตอนนี้ในการพูดคุย บัสบาสบอกว่าอาจจะเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยถูก พูดวกไปวนมานิดหน่อย แต่เขายังทรงตัวได้อยู่ และพอรู้ขีดจำกัดของตนเอง เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยไปอดอาหารที่หน้าศาลอาญามาก่อน และได้เตรียมตัวที่จะอดอาหารในครั้งนี้ไว้บ้างแล้ว

บัสบาสบอกว่าตอนนี้น้ำหนักเริ่มลดลง จากก่อนเข้าไปในเรือนจำอยู่ที่ประมาณ 70 กิโลกรัม เช้านี้ น้ำหนักลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 63 กิโลกรัม ตอนนี้ยังไหวอยู่ และยังมีกำลังใจดี เขายังยืนยันเจตจำนงจะอดอาหารและอดน้ำต่อไป

ก่อนหน้าการเริ่มอดอาหาร บัสบาสบอกว่าทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ให้กรอกเอกสารว่าจะอดอาหาร และมีช่องให้ลงลายมือชื่อแจ้งความจำนงต่าง ๆ หากต้องรับการรักษา ในช่วงแรกเขารับประทานน้ำเปล่าและกาแฟเป็นหลัก จนราวอาทิตย์เศษผ่านไป จึงได้เริ่มไม่รับประทานทั้งสองอย่างนี้ จนผ่านมาแล้ว 3 วัน

บัสบาสแจ้งว่าภายในเรือนจำไม่ค่อยได้รับรู้ข่าวสารภายนอกมากนัก ทำให้เขาไม่รู้สถานการณ์ทางการเมืองเท่าไร ในช่วงเข้าเรือนนอน ก็จะมีเพียงการเปิดภาพยนตร์หรือคลิปสันทนาการต่าง ๆ ให้ชมเท่านั้น ผู้ต้องขังการเมืองแบบเขาจึงหวังจะได้รับรู้ข่าวสารอื่น ๆ ด้วย เพราะอยากทราบความเป็นไปภายนอกในด้านต่าง ๆ

นอกจากนั้นบัสบาสยังเล่าสั้น ๆ ถึงเรือนจำเชียงราย ว่ามีผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ถูกคุมขังอยู่ค่อนข้างมาก หลายคนไม่รู้กฎหมาย ทำให้เขาสนใจเรื่องการผลักดันสิทธิของผู้ต้องขังกลุ่มนี้ รวมทั้งประเด็นการกระจายอำนาจ ทำให้กลุ่มเหล่านี้เข้าถึงสิทธิต่าง ๆ มากขึ้น สนใจอยากหาหนังสือเรื่องพวกนี้มาอ่านด้วย

บัสบาสทราบว่าวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) ครอบครัวของเขาน่าจะมาเยี่ยม เนื่องจากเรือนจำเชียงรายมีข้อกำหนดให้ญาติมาเยี่ยมได้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง และเยี่ยมทางไลน์ได้อีก 1 ครั้ง ทำให้ครอบครัวหรือเพื่อนของเขามาเยี่ยมได้ไม่บ่อยนัก เรื่องข้างนอกที่เขาเป็นห่วงก็คือเรื่องครอบครัวของตัวเอง เนื่องจากคุณพ่อมีโรคประจำตัวอยู่ ทำให้สุขภาพไม่ค่อยดี

บัสบาสฝากข้อความถึงทุกคนภายนอกว่า “ผมเข้าใจว่าทุกอย่างมันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง อยากจะให้กำลังใจทุกคนที่สู้อยู่ ทุกอย่างมันมีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นธรรมดา อยากให้ทุกคนจดจำความรู้สึกครั้งที่เราสู้ด้วยกัน ที่เราตาสว่าง เข้าใจว่าการที่จะเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันยาก แต่มันจะมาแน่นอน สู้เพื่อประชาธิปไตยเต็มใบ”

บัสบาส ยังหวังว่าจะได้จดหมายจากเพื่อน ๆ หรือผู้คนภายนอก ที่เขียนมาพูดคุย หรือบอกเล่าเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่คงไม่ให้เขียนเรื่องการเมืองเข้ามา แต่ก็สามารถเขียนเล่าเรื่องสารทุกข์สุขดิบมาคุยกันได้

สำหรับผู้ที่สนใจส่งจดหมายไปที่ มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ที่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000

.

ย้อนอ่านเรื่องราวชีวิตของบัสบาส เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112

.

X