วันที่ 25 เม.ย. 2567 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ศาลเห็นว่ามีความผิดจำนวน 25 ข้อความ และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2567 โดยกรณีของบัสบาสนับเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
บัสบาสแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2567 เขาได้ยุติการอดอาหารแล้ว เนื่องจากมีสภาพร่างกายอ่อนเพลียมาก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ รวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2567 บัสบาสอดอาหารมา 58 วัน เพื่อร่วมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน
บัสบาสทราบว่ากระแสความสนใจเรื่องนี้ไม่ได้มีมากนัก แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ยังยืนยันจะแสดงออกด้วยปฏิบัติการนี้ เท่าที่ร่างกายตัวเองจะไหว เพราะเป็นสิ่งที่พอทำได้จากในเรือนจำ และเขายังต่อสู้ต่อไป
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. พ่อของบัสบาสยังเพิ่งเดินทางมาเยี่ยมที่เรือนจำ เขาเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของพ่อที่ไม่ค่อยแข็งแรงและอายุมากแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นห่วงในเรื่องการคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะทราบว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มชายประมาณ 4-5 คน ที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปติดตามหาพ่อที่บ้าน แต่พ่อไม่อยู่ จึงไปสอบถามกับเพื่อนบ้าน ถึงความเป็นอยู่ต่าง ๆ ของบ้านบัสบาสแทน
ก่อนหน้านี้เพื่อนของบัสบาสได้ขอคำปรึกษาปัญหาเรื่องระบบการเยี่ยมของเรือนจำเชียงราย ที่อนุญาตให้ญาติเยี่ยมได้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง และลงทะเบียนเยี่ยมทางออนไลน์ได้อีก 1 ครั้ง ซึ่งกำหนดเวลาประมาณ 10 นาที ทำให้พ่อกับแม่ของบัสบาสแทบจะไม่ได้มาเยี่ยม หลังจากลูกถูกคุมขัง แตกต่างจากเรือนจำที่อื่น ๆ อาทิที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ญาติยังเยี่ยมได้อาทิตย์ละครั้ง ซึ่งเพื่อนบัสบาสอยากหาทางร้องเรียนในเรื่องนี้ต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นการจำกัดสิทธิเกินไป
บัสบาสยังพูดถึงปัญหาการส่งจดหมาย หลังเขาได้รับจดหมายที่คนภายนอกส่งเข้ามาบางส่วน โดยเป็นจดหมายที่ส่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับอีกเลย ตัวเขาเองได้ส่งจดหมายสั้น ๆ ไปถึงพ่อกับแม่ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แต่จากการสอบถาม ก็พบว่าที่บ้านก็ยังไม่เคยได้รับจดหมาย แม้จะเป็นการส่งถึงบุคคลที่อยู่ภายในรายชื่อที่เยี่ยมญาติได้ก็ตาม
บัสบาสจึงอยากให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะไม่ทราบว่ามีการปิดกั้นจดหมาย ไม่ส่งจดหมายออก หรือไม่นำจดหมายมาให้หรือไม่ แม้จะเขียนเรื่องชีวิตประจำวันทั่วไปก็ตาม ตอนนี้เขาอยากทราบรายละเอียดทั้งตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องการส่งจดหมาย และการติตด่อสื่อสารของผู้ต้องขัง ว่ากำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อย่างไรกันแน่
บัสบาสอยากฝากเชิญชวนเพื่อน ๆ ภายนอก ร่วมกันบริจาคหนังสือที่ดี ๆ เข้าไปภายในเรือนจำได้ โดยไม่สามารถส่งให้ผู้ต้องขังส่วนตัวได้ แต่มีห้องสมุดในเรือนจำแดน 1 ที่เขาอยู่ ผู้ต้องขังสามารถไปยืมมาได้ ซึ่งตอนนี้พบว่าส่วนใหญ่มีเป็นหนังสือแนวศาสนา และนวนิยายอีกนิดหน่อย ส่วนหนังสือแนวปรัชญา แนวการเมือง หรือแนวที่น่าสนใจอื่น ๆ มีน้อยมาก โดยเขาคิดว่าหนังสือแนวปรัชญาการเมืองน่าจะสามารถส่งเข้ามาได้
สามารถส่งจดหมายไปที่ มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ที่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000
.