อดีตผู้สมัคร สส. ก้าวไกล และนักกิจกรรมในเพชรบูรณ์-อุตรดิตถ์ ถูกตำรวจไปถามข้อมูลถึงบ้าน ไม่ต่ำกว่า 5 ราย

ศูนยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีอดีตผู้สมัคร สส. พรรคก้าวไกล และอดีตนักเรียนที่เคยทำกิจกรรมทางการเมืองช่วงปี 2563-64 ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปถามข้อมูลถึงบ้านในวันเดียวกันถึง 4 ราย นอกจากนั้นยังมีรายงานการไปติดตามนักกิจกรรมในจังหวัดอุตรดิตถ์อีก 1 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

.

ตำรวจไปบ้านอดีตผู้สมัคร สส. ก้าวไกล 2 คน ไปบ้านอดีตนักเรียนที่เคลื่อนไหวการเมืองอีก 2 คน

ศิริวิชช์ ทองคำ อดีตผู้สมัครเลือกตั้ง สส. พรรคก้าวไกล ในเขตที่ 3 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 4 นาย ไม่ทราบสังกัด เดินทางไปที่บ้านของเขา โดยเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามกับพ่อของเขาว่าตัวเขาอยู่หรือไม่ และเดินทางไปที่ไหน พร้อมกับขอเบอร์ติดต่อของพ่อไป ทั้งยังถ่ายรูปพ่อและบริเวณบ้านของเขาไว้ โดยไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจนในการมาติดตามหาตัว 

ศิริวิชช์ยังระบุว่าวันเดียวกันนี้ ยังได้รับแจ้งว่ามีตำรวจไปที่บ้านของอดีตผู้สมัคร สส. พรรคก้าวไกลในเขตที่ 5 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ในลักษณะเดียวกับเขาด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปกับอดีตผู้สมัครรายดังกล่าวไว้

อีกทั้ง ยังทราบว่ามีอดีตนักเรียนที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองในจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วงการชุมนุมปี 2563-64 ถูกตำรวจไปหาที่บ้านอีกอย่างน้อย 2 ราย รวมมีผู้ถูกคุกคามอย่างน้อย 4 คนในวันเดียวกัน โดยในกรณีของอดีตนักเรียนทราบว่าตำรวจไปสอบถามในลักษณะว่ายังเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอยู่หรือไม่ แต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์แน่ชัดเช่นกัน

ศิริวิชช์ ระบุว่าจากการสอบถามข้อมูล ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตำรวจที่ดำเนินการเช่นนี้เป็นหน่วยงานใด อาจไม่ใช่หน่วยงานในจังหวัด แต่เป็นระดับตำรวจภูธรภาค และไม่ทราบว่าดำเนินการไปทำไม เพราะในช่วงนี้ก็ไม่ได้มีรายงานการเสด็จหรือการเดินทางมาของบุคคลสำคัญอื่น ๆ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการเปลี่ยนทีมของตำรวจ เลยมีคำสั่งให้ติดตามตรวจเช็คบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองในรายชื่อของตำรวจ และอาจมีผู้ถูกติดตามมากกว่าจำนวนที่ทราบนี้ด้วย

.

ตำรวจจากพิษณุโลกไปบ้านนักกิจกรรมอุตรดิตถ์ เจ้าตัวสะท้อนเปลี่ยนรัฐบาลแล้วทำไมเจ้าหน้าที่ยังคุกคามเหมือนเดิม

ส่วนกรณีที่จังหวัดอุตรดิตถ์นั้น ทองแสง ไชยแก้ว นักกิจกรรมด้านการเรียนรู้ของเยาวชน และเคยถูกดำเนินคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีกิจกรรมคาร์ม็อบอุตรดิตถ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้วนั้น เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 เช่นเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบจำนวน 2 นาย เดินทางไปที่บ้านของเขา ขณะที่เขาไม่อยู่บ้าน 

เจ้าหน้าที่ได้พบกับยายของเขา และแจ้งว่าเป็นตำรวจมาจากพิษณุโลก จึงเข้าใจว่าเป็นตำรวจจากภูธรภาค 6 ตำรวจได้สอบถามถึงทองแสง และไม่ได้บอกชัดเจนว่าเดินทางมาด้วยเหตุใด เพียงอ้างว่ามาเยี่ยม มาเที่ยวหา พร้อมขอถ่ายรูปกับยายของเขา แล้วก็เดินทางกลับไป

ทองแสงระบุว่าเขาไม่ทราบแน่ชัดช่วงนี้มีเหตุอะไรให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติการแบบนี้ เขาลองตรวจสอบข่าวว่ามีใครเดินทางมาที่อุตรดิตถ์หรือไม่ ก็ไม่น่าจะมี และเขาไม่ทราบว่ามีประชาชนคนอื่น ๆ ในจังหวัดโดนในลักษณะนี้อีกหรือไม่

“ไม่รู้ว่ามีอะไรกันแน่ แต่คิดว่าเขามอนิเตอร์เราอยู่ตลอด แม้เปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังมาคุกคามเหมือนเดิม 

“ผมอยากส่งเสียงในฐานะประชาชนว่ารัฐบาลเพื่อไทยช่วยยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐมาติดตามประชาชนหรือนักกิจกรรมได้แล้ว ประเด็นไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่มาแบบเป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตร แต่ประเด็นคือเจ้าหน้าที่รัฐยังคอยติดตามมอนิเตอร์สอดแนมประชาชนอยู่เหมือนเดิม การเข้ามารุกล้ำในพื้นที่ส่วนตัว มันทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกกระทบต่อเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนอยู่ดี ทำให้คนกลัวเมื่อเห็นว่ายังมีคนโดนแบบนี้ เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ทหารปกครองแล้วไม่ใช่เหรอ” ทองแสงสะท้อนความคิดเห็น 

ก่อนหน้านี้ ทองแสงเคยถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไปหาถึงบ้านหลายครั้ง ตั้งแต่ไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอก ในช่วงปี 2563-64 โดยหลังจากนั้น เมื่อมีบุคคลสำคัญลงพื้นที่ ก็มักมีเจ้าหน้าที่มาติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของเขาด้วย 

.

ย้อนอ่านสรุปสถานการณ์การติดตามของเจ้าหน้าที่รัฐหลังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ช่วงสองเดือนก่อนหน้านี้

สถานการณ์ติดตามคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐรอบสองเดือน พบไม่น้อยกว่า 23 กรณี แม้เปลี่ยนรัฐบาล แต่ตำรวจยังไปบ้านนักกิจกรรม

.

X