วันเยาวชนแห่งชาติ ท่ามกลางเด็ก-เยาวชนถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองไม่น้อยกว่า 283 คน

เป็นเวลาสองปีเศษนับตั้งแต่การชุมนุม #เยาวชนปลดแอก ที่จัดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ได้จุดประกายความหวังและความฝันให้คนจำนวนมาก ทำให้ต่อมาเกิดการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพกระจายไปสู่หลายพื้นที่ และหลากหลายประเด็น ปรากฎการณ์ที่น่าจับตาคงหนีไม่พ้น “ตัวแสดง” ในการขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมเหล่านี้มีอายุน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นอย่างปฎิเสธไม่ได้

ทว่ารัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของประชาชน และตอบโต้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับทุกมาตรา ส่งผลให้มีผู้ถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่การชุมนุมตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไปแล้วอย่างน้อย 1,853 คน ในจำนวน 1,120 คดี

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กและเยาวชนจำนวนมากที่ออกมาเป็น “ตัวแสดง” ในปรากฎการณ์ดังกล่าวก็ตกเป็นเป้าหมายทั้งการดำเนินคดีโดยใช้กฎหมายและการคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

.

สถานการณ์คดีเยาวชนและความคืบหน้าคดีปี 2565

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ถึง 15 กันยายน 2565 มีเด็กและเยาวชนถูกดำเนินคดีสะสมจากสถานการณ์ชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไปแล้วอย่างน้อย 283 คน ในจำนวน 211 คดี (บางรายถูกดำเนินคดีหลายคดี) หรือเทียบเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 19 ของจำนวนคดีทั้งหมดเท่าที่ทราบข้อมูล หรือเท่ากับมีคดีของเด็กและเยาวชนเกือบ 1 ใน 5 เมื่อเทียบกับสัดส่วนคดีทางการเมืองทั้งหมด

ในจำนวนนี้เป็นคดีที่ยังดำเนินอยู่อย่างน้อย 172 คดี และคดีที่สิ้นสุดแล้ว 39 คดี โดยเด็กอายุต่ำที่สุดที่พบว่าถูกดำเนินคดี ได้แก่ เด็กอายุ 12 ปี

หากทบทวนจำนวนเยาวชนถูกดำเนินคดีสะสมตั้งแต่ปี 2563 พบว่าในปี 2563 มีเยาวชนถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 8 คน ในจำนวน 13 คดี ในปี 2564 มีเยาวชนถูกดำเนินคดีสะสมอย่างน้อย 272 คน ในจำนวน 189 คดี และล่าสุดในปี 2565 ยอดรวมเป็นจำนวนอย่างน้อย 283 คน ในจำนวน 211 คดี

.

แผนภูมิแสดงจำนวนเยาวชนถูกดำเนินคดีสะสมตั้งแต่ปี 2563 – 2565

.

หากจำแนกตามข้อหา จะพบว่าข้อกล่าวหาที่ถูกใช้มากที่สุด ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีเยาวชนถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 241 คน ในจำนวน 157 คดี ด้านข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีเยาวชนถูกกล่าวหา 17 คน ในจำนวน 20 คดี

จำแนกคดีเยาวชนตามข้อกล่าวหาหลัก สามารถจำแนกได้ดังนี้

ข้อกล่าวหาจำนวนคนจำนวนคดี
ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ241157
ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ84
หมิ่นประมาทกษัตริย์ กฎหมายอาญา ม.1121720
ยุยงปลุกปั่น กฎหมายอาญา ม.11633
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ77
มั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย กฎหมายอาญา ม.21513677
ไม่เลิกตามคำสั่งเจ้าพนักงาน กฎหมายอาญา ม.2168739
ข้อกล่าวหา ทำให้เสียทรัพย์ กฎหมายอาญา ม.3582123
วางเพลิงเผาทรัพย์ กฎหมายอาญา ม.2171819

.

ในจำนวนเยาวชนที่ถูกดำเนินคดี 283 คน ในจำนวน 211 คดี จำแนกเป็นคดียังดำเนินอยู่อย่างน้อย 172 คดี และเป็นคดีที่สิ้นสุดแล้วอย่างน้อย 39 คดี โดยคดีที่ยังดำเนินอยู่ส่วนใหญ่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ 138 คดี และอยู่ในศาลชั้นต้น 34 คดี

ในช่วงปลายปี 2565 กำลังทยอยมีคดีเยาวชนที่ต่อสู้คดี และศาลกำหนดนัดฟังคำพิพากษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ คดีของ “มีมี่” ถูกกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 ที่แยกราชประสงค์ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ก.ย. นี้, คดีของ “แซน” เยาวชนในอำเภอภูเขียว กรณีชุมนุมหน้า สภ.ภูเขียว ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 ต.ค. นี้ 

รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่ “เพชร ธนกร” ถูกกล่าวหาจากการปราศรัยในการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2563 ที่วงเวียนใหญ่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 พ.ย. นี้

.

แผนภูมิแสดงความคืบหน้าคดีเยาวชนในปี 2565

.

ด้านคดีที่สิ้นสุดแล้วจำแนกผลทางคดีได้ดังนี้

ผลของคดีในคดีที่สิ้นสุดแล้วจำนวนคนจำนวนคดี
ปรับในชั้นตำรวจ2716
รับสารภาพ ศาลลงโทษปรับ32
รอการกำหนดโทษ34
เข้าสู่มาตรการพิเศษก่อนฟ้องคดีอาญา129
เข้าสู่มาตรการพิเศษก่อนมีคำพิพากษา97
Dismissed (จำหน่ายคดี)11

.

ความคืบหน้าคดีเยาวชนที่ถูกกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์”

นับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2563 ถึง 15 กันยายน 2565 มีเยาวชนถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 17 คน ในจำนวน 20 คดี 

ในจำนวนนี้เป็นคดีที่อยู่ในศาลชั้นต้นจำนวน 8 คดี และสิ้นสุดแล้ว 3 คดี โดยคดีที่สิ้นสุดแล้วทั้งหมดนั้นเยาวชนยอมเข้ากระบวนการใช้มาตรการพิเศษแทนการฟ้องคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มาตรา 90

.

แผนภูมิแสดงความคืบหน้าคดีเยาวชนถูกกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2565

.

การคุกคามด้วยมาตรการนอกกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ

เยาวชนหลายรายที่ออกมาขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม หรือเพียงแค่แสดงออกในโลกออนไลน์ กลายเป็นเป้าหมายการคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐโดยวิธีการที่ไม่ชัดเจนว่าใช้อำนาจตามกฎหมายใด เช่น การควบคุมตัวโดยมิชอบ เข้าติตดามถึงบ้าน การไปพบผู้ปกครอง หรือการสอดแนมติดตาม เป็นต้น โดยสถานการณ์เหล่านี้ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าการถูกคุกคามด้วยกฎหมายที่ดำเนินอยู่

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าในช่วงปี 2564 มีเยาวชนถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 19 คน ส่วนในปี 2565 (ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กันยายน 2565) มีเยาวชนถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 35 คน โดยตัวเลขนี้เป็นข้อมูลเท่าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนทราบข้อมูลเท่านั้น

ประเด็นที่น่ากังวลคือการคุกคามในปี 2565 เจ้าหน้าที่รัฐมีแนวโน้มคุกคามเยาวชนที่ตกเป็นเป้าหมายซ้ำๆ และต่อเนื่องหลายครั้ง มีรายงานว่าเยาวชนหญิง อายุ 13 ปี รายหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่คอยติดตามคุกคามซ้ำๆ ต่อเนื่องอย่างน้อย 12 ครั้ง โดยใช้วิธีการคุกคามหลายรูปแบบ 

นอกจากนั้นยังมีเยาวชนอีกอย่างน้อย 2 รายถูกคุกคามซ้ำมากกว่ากว่าหนึ่งครั้ง แนวโน้มดังกล่าวน่ากังวลกว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา

.

แผนภูมิแสดงจำนวนการคุกคามนอกกฎหมาย ปี 2564-2565

.

สองปีเศษผ่านนับแต่ปรากฎการณ์ #เยาวชนปลดแอก ผู้ใหญ่หลายคนคงเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่กันแล้ว แต่สำหรับเยาวชนที่ออกมาช่วยผู้ใหญ่ปลดแอก จนตกเป็นเป้าหมายของรัฐ ถูกดำเนินคดี หรือถูกคุกคามด้วยวิธีการนอกกฎหมาย หลายคนไม่มีแม้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับกระบวนการคุกคามเหล่านี้โดยรัฐต่อไป จนกว่า “ผู้ใหญ่” จะตระหนักเสียทีว่าการใช้วิธีการเหล่านี้ควบคุมปราบปรามการแสดงออกทางการเมือง ไม่ใช่สิ่งตอบแทนที่พวกเขาสมควรได้รับและไม่ใช่หนทางในการแก้ไขสถานการณ์ความตื่นตัวทางการเมืองของเยาวชนเหล่านี้

.

ดูตารางสถิติคดี

สถิติเยาวชนถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุม ปี 2563-65

.

X