เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2568 ทนายความเข้าเยี่ยม “แม็กกี้” ผู้ต้องขังผู้มีความหลากหลายทางเพศ วัย 28 ปี ซึ่งถูกขังในคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
ครั้งนี้แม็กกี้ดูมีสีหน้าที่สดใสขึ้นกว่าก่อน แม้จะอยู่ในเรือนจำมา 1 ปี 8 เดือนแล้ว เธอเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ ผ่านการใช้ฮอร์โมน ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับผลข้างเคียงของยาจิตเวชที่ทำให้รูปแบบการนอนหลับเปลี่ยนไป และความท้าทายในการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัดมากมาย
ส่งท้าย Pride Month ปี 2568 ท่ามกลางความร้อนอบอ้าวของฤดูร้อนที่แทรกซึมเข้ามาในห้องขังอับทึบ และกฎระเบียบที่เข้มงวดต่อผู้ต้องขัง LGBTQ แม็กกี้ยังคงหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการคุยกับเพื่อน การทำส้มตำกิน และการรอคอยที่จะได้ดูทีวีในโดมใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ความหวังในการปรับยาและการรักษาต่อเนื่องยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่พาเธอผ่านวันเวลาที่ยากลำบากไป
_____________________________
เวลาผ่านไปสามสิบนาทีในห้องเยี่ยมที่เงียบงัน แม็กกี้เดินผ่านช่องทางแคบ ๆ เข้ามาในห้องเยี่ยมเรือนจำกลางคลองเปรมแววตาดูสดใสขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว แม้ว่าจะยังคงมีความปรือ ๆ ง่วง ๆ อยู่บ้าง บนใบหน้าที่ขาวขึ้นกว่าเดิม รูปร่างดูดีขึ้นจากครั้งก่อน
“วันนี้แต่งหน้าแน่นเชียว” แม็กกี้หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบว่า “เหมือนรู้สึกว่าวันนี้จะมีทนายมาเยี่ยม และก็มาเยี่ยมจริง ๆ” แม็กกี้เริ่มเล่าว่า “ช่วงนี้เหมือนจะโอเคขึ้นมาก ๆ แล้ว เพราะได้รับยาฮอร์โมน”
ก่อนจะอัปเดตเรื่องการรักษาที่ค่อย ๆ มีความคืบหน้า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางเรือนจำให้ออกไปเจาะเลือด น่าจะเอาไปตรวจค่าฮอร์โมน และสัปดาห์หน้า คงนัดไปฟังว่าค่าฮอร์โมนอยู่ที่ระดับไหน เพราะการให้ยาจะให้ตามระดับฮอร์โมน ถ้าฮอร์โมนยังไม่มาก ก็ต้องเพิ่มโดสยา แต่ถ้าฮอร์โมนสูงแล้วยาก็จะลดลง
“ครั้งก่อนค่าฮอร์โมนหนูอยู่ที่ 50 ครั้งนี้อาจจะเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าฮอร์โมนเพิ่มขึ้น ยาก็จะลดลง ค่ายาก็จะถูกลงไปด้วย”
เธอพูดถึงยาสิ่งสำคัญที่จะนำกลับสู่ตัวตนที่แท้จริง แต่ก็มีเรื่องยุ่งยากของการรักษาที่ต้องผ่านระบบที่ล่าช้า “ตอนนี้กินยาเกี่ยวกับจิตเวชอยู่ด้วย กินทั้งหมด 7 เม็ด แต่ไม่รู้ชื่อยา เพราะอาสาสมัครในเรือนจำจะบดแล้วเอามาให้ตามเวลาที่ต้องกิน หนูไม่รู้ว่าชื่อยาอะไรบ้าง พอไปถามพยาบาลในแดน พยาบาลก็บอกให้รอถามหมอตอนที่ออกไปพบ”
ยาเหล่านั้นทำให้เธอหลับลึก แต่ก็มาพร้อมกับผลข้างเคียงน่าปวดหัว “ยาพวกนี้พอกินแล้วทำให้หลับเร็วมาก เขาให้กินตอนจะขึ้นห้อง พอกินไปแปบนึง ตื่นมาอีกทีตอน 5 โมงเย็น มานับยอด พอนับยอดเสร็จไม่เท่าไหร่ก็หลับอีก มาตื่นอีกที 2-3 ทุ่ม แล้วก็พลอยหลับอีก แล้วมาตื่นอีกช่วงตี 3 ตี 4 ซึ่งเราตื่นมาตอนที่ทุกคนนอนหมดแล้ว มันก็รู้สึกวังเวงอยู่” แม็กกี้หัวเราะเบา ๆ ขณะเล่าถึงจังหวะชีวิตที่วุ่นวายไปกับยา
“หลังจากนั้นก็คือไม่หลับอีกเลย เช้ามาหนูเลยจะรู้สึกง่วง ๆ ตลอดเวลา ช่วงนี้เลยไม่ได้ดูข่าว ดูละครเลยเพราะหลับไปก่อน มีซีรีย์ช่องวันมาใหม่ เพื่อนบอกสนุกมากก็ไม่ได้ดู หนูคิดว่าเจอหมอครั้งหน้าหนูจะปรึกษาว่าจะขอกินยาช่วง 2 ทุ่ม เพื่อจะได้ไม่ต้องตื่นกลางดึก และจะได้นอนไปเหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น นอนและตื่นพร้อมกัน ที่สำคัญตอนเช้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกง่วง ๆ แบบนี้”
แม้จะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ แต่จิตใจของเธอดูเข้มแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “สภาพจิตใจหนูโอเคขึ้น ไม่มีอาการอยากทำร้ายตัวเองเหมือนแต่ก่อน ควบคุมอารมณ์ได้ คือหนูก็ไม่ได้มีวิธีการอะไร แต่เหมือนอารมณ์มันไม่สวิงเหมือนเดิม ช่วงนี้ความรักก็โอเคด้วย”
ขณะที่อยู่ในนั้นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น “ช่วงนี้สังเกตร่างกายตัวเองมากกว่าเพราะเรารู้สึกว่าเวลาเดินจะเจ็บหน้าอก รู้สึกว่าหน้าอกขยายขึ้นกว่าช่วงที่ผ่าน ๆ มา มันเจ็บ ๆ บอกไม่ถูก แต่คิดว่าเป็นเพราะฮอร์โมนที่ทำให้มีหน้าอก” ความเจ็บปวดนั้นเป็นเหมือนสัญญาณของการเติบโต ค่อย ๆ ก่อรูปร่าง เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นทีละนิด
ในชีวิตอีกด้านกิจกรรมภายในเรือนจำพยายามสร้างสีสันให้กับชีวิตที่จำกัด “ช่วงนี้ข้างในจะมีการประกวดดาว-เดือน to be number one เป็นการจัดทุกแดน ดูน่าสนุก ตอนแรกหนูจะลงสมัครเดินแบบกับเขาด้วย แต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา เลยไปถอนชื่อออก”
ความเป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศในเรือนจำมีความซับซ้อนและข้อจำกัดมากมาย แม็กกี้ฉายภาพถึงเหตุการณ์มีจู่โจมมาตรวจ แล้วไปเห็นของใช้ของ LGBTQ ที่อาบน้ำบนห้องเยอะ มีการเรียกของพวกนี้ว่า ‘สรรพรก’ หมายถึงของที่เป็นของสวย ๆ งาม ๆ เรือนจำเลยออกกฎจำกัดที่เอาของขึ้นห้องได้มีเสื้อ 2 ตัว คือ ตัวหนึ่งเป็นเสื้อนักโทษ อีกตัวเป็นเสื้อกล้าม ไม่อนุญาตให้เอาผ้าขนหนูขึ้นห้อง
“แล้วบางทีที่อาบน้ำข้างบนไม่มีผ้าขนหนู แล้วต้องใช้เสื้อเช็ด ซึ่งเสื้อเนื้อผ้ามันไม่เหมือนผ้าขนหนูเช็ดไปมันก็ไม่แห้ง แล้วทำให้หงุดหงิดด้วย”
ขณะที่สภาพแวดล้อมภายในเรือนจำท่ามกลางความร้อนระอุยังเป็นปัญหา “ช่วงนี้อาการอบอ้าว ร้อน ๆ ถึงบางทีจะมีฝนแต่ก็ร้อนอยู่ดี เพราะห้องในนี้มันทึบ ไม่โล่ง ด้วยความที่อยู่ห้องเฉพาะ LGBTQ ทำให้เวลานอนก็ถอดเสื้อนอนกันเวลา เว้นแต่คนที่ทำหน้าอกมาแล้ว ส่วนนั้นเขาก็ใส่เสื้อนอนกัน”
ก่อนแม็กกี้บอกเล่าเรื่องความปลอดภัยและการอยู่ร่วมกันในเรือนจำ “เท่าที่อยู่มาไม่มีผู้ชายมาคุกคามอะไร คือตอนนี้คงไม่เหมือนสมัยก่อน ตอนนี้ถ้าเราไม่เล่นด้วย เขาก็ไม่มายุ่งกับเราเลยนะ ตอนที่หนูได้ไปนอนแดน 10 แดนพยาบาลแล้วมันมามีห้องพักผู้ป่วย เลยต้องให้หนูไปนอนรวมกับผู้ช่วย ตอนนั้นดูเจ้าหน้าที่ค่อนข้างซีเรียสเลย เพราะผู้ช่วยไม่ได้อยู่รวมกับ LGBT มาก่อน”
ถึงที่สุดแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำกัด แต่ชีวิตยังคงมีความหวังและกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ “โดมข้างในแดนเสร็จแล้ว เร็ว ๆ นี้จะมีการติดตั้ง TV บางวันก็ชวนเพื้อนทำส้มตำกิน ถึงจู่โจมจะเข้าบ่อย แต่คนข้างในประดิษฐ์ของกันเก่งมากนะแม่ มีครกมีสากพร้อม ยึดไปก็ทำใหม่ ช่วงนี้คุยกับเพื่อนบ้าง คุยเรื่องซีรีย์ เรื่องละคร”
.
จนถึงปัจจุบัน (30 มิ.ย. 2568) แม็กกี้ถูกคุมขังมาแล้ว 618 วัน หรือ 1 ปี 8 เดือน 13 วัน จากโทษตามคำพิพากษาคือจำคุกถึง 25 ปี จากเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าทวีต 18 ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
ร่วมเขียนจดหมายออนไลน์ถึงแม็กกี้ และผู้ต้องขังทางการเมือง ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล
.
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
การต่อสู้ภายในจิตใจของ “แม็กกี้” เมื่อถูกส่งตัวจาก รพ.ราชทัณฑ์ กลับเรือนจำคลองเปรม