ปี 2567 ของ “แม็กกี้”: เป็นปีที่ไม่มีความสุข คิดถึงข้างนอกตลอดเวลา การปรับตัวเพื่อมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2567 ทนายความเข้าเยี่ยม “แม็กกี้” ผู้ต้องขังคดีตามมาตรา 112 วัย 29 ปี ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ผู้ต้องรับโทษตามคำพิพากษาจำคุก 25 ปี ในโอกาสส่งท้ายปีเก่าที่กำลังจะผ่านไป

แม็กกี้เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต หลังถูกย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังเรือนจำกลางคลองเปรม แม้กฎระเบียบจะไม่เข้มงวดเท่า แต่บรรยากาศที่เงียบเหงา กลับสร้างความวังเวงและความเหงามากกว่าเดิม กิจวัตรประจำวันถูกจำกัดอยู่เพียงการตื่นนอน ลงมารับประทานอาหาร และกลับขึ้นห้องขัง วนเวียนเช่นนี้ทุกวัน โดยการปรับตัวเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับแม็กกี้

เมื่อถามถึงความปรารถนาในช่วงปีใหม่ แม็กกี้กล่าวว่าอยากได้รับการปล่อยตัวหรือลดโทษลง พร้อมฝากขอบคุณถึงหลาย ๆ คน ที่มีความหวังดีคอยช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมืองมาโดยตลอดทั้งปี

_____________

แม็กกี้มาพบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่งหน้าด้วยลิปสติกสีส้มพีช มีพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ สังเกตพบตุ่มแดงเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า แม็กกี้เชื่อว่าอาจเกิดจากการแพ้น้ำในเรือนจำ แต่ไม่มีอาการคันหรือแสบ

บทสนทนาเริ่มด้วยการตามเรื่องยาฮอร์โมนที่คุยไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ฝากให้แม็กกี้ลองติดตามกับผู้คุมข้างใน และแจ้งไปด้วยเพราะยาของแม็กกี้เหลือใช้ไม่ถึงเดือนแล้ว หากไม่สั่งไว้แม็กกี้อาจได้รับยาขาดช่วงไป ซึ่งอาจมีผลต่อระบบฮอร์โมน และอาจจะลามไม่ถึงเรื่องอารมณ์ที่จะสวิงได้ แม็กกี้รับปากว่าจะไปตามให้ แล้วจะส่ง DomiMail แจ้งอีกที

ก่อนจะเล่าเพิ่มถึงเรื่องความล่าช้าบางประการในเรื่องทางการแพทย์ แต่ละแดนจะมีรอบการตรวจ แล้ววนไปจนครบแดน และตัวผู้ต้องขังก็ทำอะไรมากไม่ได้ มากสุดคือเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้ความชัดเจนเพิ่มขึ้น

แม็กกี้บอกว่าปี 2567 เป็นปีที่ไม่มีความสุขเลย เต็มไปด้วยเรื่องราวทุกข์ใจ คิดถึงข้างนอกตลอดเวลา ถึงจะเห็นว่ายิ้มแย้ม เวลาออกมาเจอทนาย แต่งหน้าออกมาได้ ก็ดีใจที่ได้เจอหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่ามีความสุขกับการต้องอยู่ที่นี่ “คือมันอยู่ได้ แต่หนูไม่อยากอยู่ หนูแค่พยายามปรับตัวเพื่อให้ชีวิตมันมีกำลังใจอยู่ต่อไปเท่านั้น ถ้าจะให้คำนิยาม คงบอกว่าเป็นปีโคตรซวย”

ส่วนบทเรียนสำคัญคือเรื่องปรับตัว เธอได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัวเยอะมากที่สุดในชีวิตแล้ว จากเข้ามาครั้งแรกอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พอกำลังจะอยู่ตัว กลับถูกย้ายมาที่เรือนจำคลองเปรม มาเจอกฎใหม่ ๆ สภาพแวดล้อมต่างจากที่เดิม เป็นสภาพแวดล้อมในความเงียบที่ทำให้วังเวง

“มันเหงา หนูพูดไม่ถูก มันไม่ได้มีกิจกรรมอะไร กฎระเบียบอาจจะไม่เข้มงวดเท่าพิเศษกรุงเทพฯ แต่หนูรู้สึกว่ามันทำให้เหงา ยิ่งกว่าตอนที่อยู่พิเศษกรุงเทพฯ เสียอีก”

ในภาพรวมกิจวัตรประจำวันที่เรือนจำกลางคลองเปรม คือตื่นนอน ลงมาข้างล่าง กินข้าว อยู่ข้างล่างได้ไม่นานก็ต้องขึ้นบนห้อง “แล้วต้องอยู่บนห้องยาวนานกว่าจะถึงอีกวัน แล้วก็เวียนกิจกรรมเช่นเดิม มันเป็นอะไรที่อึดอัดมาก การปรับตัวเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปเลยกลายเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในปีที่ผ่านมา”

หากจะขอพรได้สักข้อ “ขอให้พรุ่งนี้มีเอกสารเข้ามาหาที่แดน 1 มีชื่อหนู แล้วบอกว่าหนูได้ปล่อยตัว หนูหวังแบบนี้ตลอดเลย เพราะเวลาจะมีคนได้ปล่อยก็จะมีเจ้าหน้าที่ถือเอกสารเข้ามาแล้วมาขานชื่อเพื่อนำผู้ต้องขังออกไป” แล้วถ้าเผื่อพรข้อนี้ไม่ได้ “หนูก็ขอให้หนูได้ลดโทษ และก็ขอให้หนูเจอรักแท้ เจอผู้ชายดี ๆ ที่รักหนูจริง ดูแลหนูได้” พอพูดถึงประโยคนี้แม็กกี้มีท่าทางเขินอาย

แม็กกี้ยังฝากข้อความขอให้ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองยังมีกำลังใจอยู่ มีชีวิตอยู่ต่อ “ขอให้พวกเราได้รับอิสระในเร็ววัน ขอให้มีนิรโทษกรรม ขอให้ได้กลับไปอยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่เรารัก ขอให้ทุกคนสู้ ๆ”

จากนั้นแม็กกี้กล่าวขอบคุณสำหรับกำลังใจ ความช่วยเหลือจากผู้หวังดีหลาย ๆ คน “ไม่มีทุกคน หนูยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าวันนั้นพี่ผู้ต้องขังคดีการเมืองคนนั้นไม่เข้าไปที่แดน 8 แล้วถามว่าใครโดนคดีทางการเมืองมา หนูไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นยังไง”

เธอย้ำอีกว่า “หนูเป็นคนไม่ค่อยซึ้ง แต่หนูขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงมีเงินทอง มีความสุขกันในวันปีใหม่ค่ะ”

ก่อนจากกันทนายความให้แม็กกี้ดูรูปที่ขอภาพไฟล์ใหญ่ที่เป็นภาพวาดแม็กกี้มาจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ แม็กกี้ดีใจ บอกว่าน่ารักมาก ขอบคุณที่ทำรูปให้ ทั้งที่ไม่ใช่คนดังอะไร ก่อนบอกว่าทางกลุ่มน่าจะเติมดอกไม้ให้ในรูปด้วย พลางบอกขอให้แม็กกี้เข้มแข็ง เพราะมีคนที่เป็นห่วงและเป็นกำลังใจให้เสมอ

แม็กกี้แจ้งก่อนจบบทสนทนาว่า ช่วงปีใหม่จะมีการเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิด ปีหนึ่งจะมี 1-2 ครั้ง อยากให้ทนายช่วยแจ้งแม่และคนที่อยู่ในรายชื่อมีสิทธิ์เยี่ยมไว้ ใครมาได้ก็ดี แต่ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

ปัจจุบัน (25 ธ.ค. 2567) แม็กกี้ถูกคุมขังทั้งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำกลางคลองเปรมมาแล้ว 430 วัน หรือ 1 ปี 2 เดือน กับ 8 วัน จากโทษจำคุกของศาลอาญากรุงเทพใต้เป็นเวลา 25 ปี จากเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าทวีต 18 ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ โดยคดีของแม็กกี้สิ้นสุดลงแล้ว

อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บันทึกเยี่ยม “แม็กกี้”: ในห้วงเวลาแห่งความเบื่อหน่าย จดหมายจากภายนอกช่วยปลอบประโลมใจให้ความหวัง

จำคุก “แม็กกี้” 50 ปี คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ กรณีทวีต 18 ข้อความเมื่อปี 65-66 รับสารภาพ ลดเหลือจำคุก 25 ปี