ฟ้อง ม.112 คดีที่ 2 “อาย กันต์ฤทัย” ผู้ต้องขังทางการเมืองเหตุถูกกล่าวหาโพสต์รูปและข้อความบนเฟซบุ๊ก 2 โพสต์ เมื่อปี 2565

16 ธ.ค. 2567 “อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ประชาชนวัย 33 ปี และผู้ต้องขังทางการเมือง ถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางไปศาลอาญาเพื่อสอบคำให้การ หลังจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องเธอ ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เหตุจากถูกกล่าวหาว่าโพสต์รูปและข้อความบนเฟซบุ๊กรวม 2 โพสต์ เมื่อปี 2565

คดีนี้มี “อานนท์ กลิ่นแก้ว” แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 อายเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

ในชั้นตำรวจ อายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนยังขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของอาย โดยไม่ได้มีหมายศาลในการเข้าถึงข้อมูลตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่อายได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าเคยถูกตรวจยึดโทรศัพท์มือถือโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ในคดีมาตรา 112 อีกคดีหนึ่งตั้งแต่ปี 2565 แล้ว

เช้าวันนี้ (16 ธ.ค. 2567) ศูนย์ทนายความฯ ได้รับแจ้งว่าอายถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางไปศาลอาญาเพื่อสอบคำให้การ ต่อมาจึงทราบในภายหลังว่าเป็นคดีมาตรา 112 ดังกล่าว ซึ่งพนักงานอัยการเพิ่งมีคำสั่งฟ้องต่อศาลเข้ามาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567

พรทิพย์ บุตรภักดิ์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นผู้เรียงฟ้องในคดีนี้ โดยแยกเป็น 2 กรรม

ข้อความแรก โพสต์เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2565 มีข้อความประกอบภาพถ่ายรัชกาลที่ 10 บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า ภาพและข้อความดังกล่าว ทำให้เข้าใจได้ว่า คนที่ตายไปแล้วมาหลอกหลอนประกอบกับข้อความเป็นการกล่าวหาว่าเป็นผีหรือบุคคลที่ตายไปแล้ว ดุด่าว่าเป็นสัตว์และสาปแช่ง ให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน อันเป็นการกระทำมิบังควร จาบจ้วง ล่วงเกิน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย รัชกาลที่ 10 โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธา
ข้อความที่สอง โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2565 บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า ข้อความเป็นการล่วงละเมิด จาบจ้วง ล่วงเกิน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธา

อัยการโจทก์ยังคัดค้านการประกันตัวจำเลย โดยระบุว่าเนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูง ทั้งยังขอให้ศาลนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีมาตรา 112 อีกคดีหนึ่ง ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้

ในการสอบคำให้การ อายยืนยันให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และไม่ได้ยื่นประกันตัวในคดีนี้ โดยศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 24 มี.ค. 2568 เวลา 9.00 น.

คดีนี้นับว่าเป็นคดีข้อหามาตรา 112 คดีที่สองที่อายถูกกล่าวหา โดยอีกคดีหนึ่งเธอถูกดำเนินคดีจากเหตุจากการโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความ ในช่วงระหว่างวันที่ 8 ก.พ. ถึง 1 เม.ย. 2565 ซึ่งมี พ.ต.ท.แทน ไชยแสง ตำรวจสันติบาล เป็นผู้กล่าวหา และต่อมาในวันที่ 27 ส.ค. 2567 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 8 ปี 48 เดือน และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวอายระหว่างอุทธรณ์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 112 วันแล้ว

อ่านบทสัมภาษณ์ของอาย >>> “สุดท้ายต้องบอกลูก จะมาหายไปดื้อ ๆ ไม่ได้”คุยกับ “อาย กันต์ฤทัย” ก่อนเข้าเรือนจำ: ความในใจของ ‘แม่’ คนหนึ่งที่ต้องโทษ ‘112’