ระหว่างวันที่ 14-21 พ.ค. 2567 ทนายความเดินทางไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยม 3 ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวข้องกับการครอบครองวัตถุระเบิด ได้แก่ ‘มาย ชัยพร’, ‘ธี’ ถิรนัย และ ‘มาร์ค’ ท่ามกลางข่าวความสูญเสียของ ‘บุ้ง’ เนติพร นักกิจกรรมทางการเมืองที่เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง ก็นำมาซึ่งความเสียใจของผู้คุมขังทางการเมืองทั้งหมด
เช่นกันกับที่เกิดกับทั้ง ‘มาย’ ที่เป็นห่วงครอบครัวบุ้ง ก่อนเล่าถึงการได้ย้ายที่อยู่ชั่วคราวเพราะเปลี่ยนกองงาน ‘ธี’ ที่ตัดสินใจร่วมโกนหัวเพื่อไว้อาลัยให้บุ้ง และเล่าถึงชีวิตในเรือนจำที่ยังต้องต่อสู้ต่อไป ในขณะที่ ‘มาร์ค’ เป็นอีกคนที่โกนหัวไว้อาลัยให้บุ้ง บอกว่าใช้ชีวิตข้างในให้ผ่านไปวัน ๆ เพื่อรอจะกลับออกมามีอิสรภาพอีก หลังคดีของเขาสิ้นสุดแล้ว
มาย ชัยพร: ย้ายงานไปกองโยธา – เป็นห่วงครอบครัวบุ้ง
วันที่ 14 พ.ค. 2567 มายและเพื่อน ๆ อยู่ในห้องเยี่ยมห้องที่ 3 นั่งคุยกันด้วยท่าทางซึม ๆ หมดพลัง หน้าตาเคร่งเครียด ก่อนเข้ามาถามเรื่องบุ้ง และบอกว่าเป็นห่วงครอบครัวบุ้ง ทนายสังเกตเห็นว่า มายตัดผมใหม่ ทรงรองทรงสูง ข้างเกรียน ด้านหลังตัดสั้น
มายเล่าถึงตัวเองว่า “ผมก็ยังสบายดี” ตอนนี้ออกจากงานร้านค้าแล้ว เรือนจำเลยให้ย้ายไปนอนห้องข้างบน ต้องแยกกันกับเพื่อน ๆ 2-3 วันแรกนอนไม่หลับเลย เพราะห้องข้างบนมันแออัดกว่า คนแน่น ตัวชิดกัน ร้อนกว่าด้วยเพราะกลางวันห้องมันตากแดด “ผมเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้วก็เลยนอนยาก แต่ช่วงนี้เริ่มชินแล้ว ปรับตัวได้”
งานใหม่ของมายเป็นงานกองโยธา ซึ่งก็คืองานทำความสะอาด แล้วก็เล่นดนตรีด้วย เสร็จงานก็จะไปเล่นดนตรี “ผมเฉย ๆ นะ เรื่องโดนย้ายห้อง ยังไงก็ได้ ผมพยายามทำให้ตัวเองเหมือนคนอื่น ๆ ตลอด ไม่อยากใช้สิทธิของการเป็นนักกิจกรรมไปต่อรองนัก อยากสู้ด้วยตัวเองแบบผู้ต้องขังคนอื่น มันจะลำบากกว่าก็ไม่เป็นไร”
การย้ายห้องทำให้มายรู้สึกว่าใช้ชีวิตปลีกวิเวกมากขึ้น ของใช้ก็ต้องซื้อใหม่ “แต่ก็ไหวอยู่ไม่อะไรมาก อยู่ในนี้ผมก็ช่วยซื้อของให้ผู้ต้องขังคนอื่นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว คนที่เขาไม่มีเงิน คนที่เขาไม่มีญาติ ก็ดูแลกันไป”
วันที่ 21 พ.ค. 2567 ทนายสังเกตว่ามายไม่ได้โกนหัวเช่นเดียวกับเพื่อน มายเล่าว่า ตอนเพื่อน ๆ ชวนกันโกนหัวเพื่อไว้อาลัยให้บุ้ง ตัวเขาเองไม่รู้ข่าวเลย เพราะเข้ากองงานแยกกันกับเพื่อน นอนก็แยกกัน แต่ตอนนี้ได้ย้ายกลับลงมานอนห้องข้างล่างกับเพื่อน ๆ คดีการเมืองเหมือนเดิมแล้ว
มายอัพเดตเรื่องสุขภาพว่า ช่วงนี้ก็โอเค แข็งแรงดี มีเพียงผดร้อนขึ้นที่แขน แม้ว่าฝนจะตกแล้ว ผดขึ้นเยอะ เพิ่งลดไปเมื่อวาน แต่ยังมีรอยจุดสีดำจาง ๆ กระจายอยู่เต็มแขน ส่วนอาการผื่นแพ้นี่แทบจะไม่มีแล้ว น่าจะเพราะอากาศไม่ร้อนเท่าช่วงก่อน
มายยังเล่าว่า “ช่วงนี้ก็ว่าง ก็เลยไปจับแมงมุมมาเลี้ยง เห็นคนอื่นเขาเลี้ยงกัน มันว่างอะเนาะ” นอกจากนั้นก็อ่านหนังสือแนวธุรกิจเป็นหลัก พวกการลงทุน “อยู่ข้างนอกผมชอบอ่านอยู่แล้ว พวกชีวประวัติคนต่าง ๆ กับพวกหนังสือเศรษฐกิจ กับกองงานทำความสะอาดมันก็เรื่อย ๆ พอคนเขาเห็นผมเข็นขยะก็ตกใจกันนะ เพราะแต่ก่อนผมอยู่ร้านค้า ส่วนใหญ่คนทำงานร้านค้าเขาไม่ค่อยออกจากงานกันหรอก ไม่ต้องมาอยู่ข้างนอกแบบนี้ด้วย สบายกว่า แต่ผมเบื่อ”
จนถึงปัจจุบัน (23 พ.ค. 2567) มายถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 464 วัน หรือกว่า 1 ปี 3 เดือน หลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ก่อนลดเหลือ 3 ปี เพราะให้การรับสารภาพ ในคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ซึ่งถูกค้นพบก่อนมีการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64
.
ธี ถิรนัย: พยายามก้าวข้ามความรู้สึกหดหู่เรื่องบุ้ง เริ่มมีกำลังใจที่สิทธิประกันตัวถูกพูดถึงอีกครั้ง
วันที่ 14 พ.ค. 2567 ธียืนรอทนายอยู่ด้วยหน้าตาเคร่งเครียด เนื่องจากก่อนออกมาได้ยินข่าวของบุ้งมาบ้าง “ผมนั่งกินข้าวเที่ยงกันอยู่ มีคนเดินมาบอกพวกผมว่าคนที่อดอาหารคดี 112 เสียชีวิต พวกผม พี่อานนท์ พี่เก็ทก็ตกใจ วิ่งออกไปดูทีวีกันแต่ไม่ทัน ไปเช็คกับหลายคนก็ไม่มีใครทราบ มีแค่คนที่มาบอกว่าเห็นข่าวในทีวี สภาพข้างใน พอรู้ข่าวก็ช็อคกันหมด ก่อนออกมายังรอการคอนเฟิร์มข่าวอยู่ คืนนี้พวกผมคงเขียนอะไรกันซักอย่างเพื่อสื่อสารออกไป”
วันที่ 21 พ.ค. 2567 วันนี้ธีนั่งรออยู่กับเพื่อน ๆ ที่ถูกเบิกตัวมาพร้อมกัน ท่าทางทุกคนดูคึกคักกว่าสัปดาห์ก่อนมาก ธีมานั่งลงหน้าโทรศัพท์เป็นคนแรก ดูผอมลง ผมเริ่มยาวมาเล็กน้อย หลังจากที่โกนหัวเพื่อไว้อาลัยให้บุ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธีถอดแว่นสายตาออกก่อนจะเริ่มพูดคุย เขาเล่าว่า ก้าวข้ามความรู้สึกหดหู่จากการที่เพื่อนเสียชีวิตไปได้บ้างแล้ว โอเคขึ้น เพราะเพื่อน ๆ ช่วยกันดูแล ให้กำลังใจกันและกัน ตอนนี้ข้างในก็พอจะมีกำลังใจกันขึ้น จากการที่เรื่องสิทธิประกันตัวถูกพูดถึงอีกครั้ง เห็นข่าวทุกช่องมีการหยิบเรื่องนิรโทษกรรมไปพูด แม้เสียใจที่มันมาจากการที่เราต้องเสียบุ้งไป
ธีเล่าต่อว่า ข้างในนี้มีคนโดนคดีทางการเมืองเข้ามาอีกคน เป็นคนไร้บ้าน ชื่อลุงหนึ่ง โดนข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ อยากให้ทนายมาเยี่ยม ถ้ามีทนายมาเยี่ยมลุงหนึ่ง อยากให้เบิกธีออกมาด้วย อยากออกมาเป็นเพื่อนแก
“ผมพยายามบอกทุกคนว่าเราไม่ใช่นักโทษนะ เป็นผู้ต่อสู้ทางความคิด การที่เขาเอาเรามาขังไว้ในแดน 6 ซึ่งเป็นแดนวินัย สำหรับขังคนที่ทำผิดระเบียบวินัยของเรือนจำ มันเกินไป อย่างน้อยก็ปฏิบัติกับเราดีกว่านี้หน่อยก็ได้”
ถิรนัยระบายอีกว่า แม้ว่าตอนนี้คนจะกลับมาพูดถึงเรื่องผู้ต้องขังมากขึ้น แต่มันยังไม่จบง่าย ๆ เพราะถ้ามันจบ คงไม่ต้องอยู่ในนี้ การนิรโทษกรรมยังต้องไปต่ออีก “ที่เราเข้ามาในนี้ เพราะคู่กรณีเราคือรัฐบาล ตอนนั้นเราเรียกร้อง เราแสดงความคิดเห็น เรียกร้องสิ่งที่เราควรจะได้ ตอนนั้นประเทศมันแย่มาก และมันมาแย่มาก ๆ ในยุคที่เรากำลังโต กำลังเรียนรู้ชีวิต และมันยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้”
ก่อนกล่าวทิ้งท้าย “ผมอยากให้ทุกคนข้างนอกรู้ว่า ในปี 63-64 เราสู้อยู่ด้วยกัน เพียงแต่เรื่องของพวกผมมันยังไม่จบ ผมยังสู้อยู่ในนี้ ผมเชื่อว่าคนเหล่านั้นเขาแค่ยังไม่รู้ ไม่รู้ว่ามีพวกเราอยู่ในนี้ขนาดไหน ยังไม่รู้ว่าทำไมต้องเรียกร้องการนิรโทษกรรม ยังไม่รู้ว่าทำไมเราติดคุกแบบนี้ ยังไม่รู้ว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมขนาดไหน แค่ยังไม่รู้ว่าทุกวันนี้เราต้องตื่นมาใช้ชีวิตยังไง”
จนถึงปัจจุบัน (23 พ.ค. 2567) ธีถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 464 วัน เช่นเดียวกับมาย ชัยพร ที่หลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ก่อนลดเหลือ 3 ปี เพราะให้การรับสารภาพ ในคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ซึ่งถูกค้นพบก่อนมีการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64
.
มาร์ค: แดน 4 โกนหัวไว้อาลัยบุ้งกันทั้งแดน
วันที่ 17 พ.ค. 2567 มาร์คนั่งรอด้วยท่าทางนิ่ง ๆ พอเห็นทนายก็ยกมือไม้ทักทายกัน วันนี้คิวเยอะเป็นพิเศษ จึงต้องรอโทรศัพท์ว่างอยู่ครู่หนึ่ง มาร์คโกนหัวเพื่อไว้อาลัยให้กับบุ้ง ทั้งยังบอกว่า แดน 4 โกนหัวกันทั้งแดน ตอนนี้เหลือแค่อานนท์กับหนุ่ม สมบัติ ที่ยังไม่ได้โกน แต่ยังไม่มีกิจกรรมอะไรนอกจากนี้ เพราะตอนกลางวันก็จะเข้ากองงานช่าง ทำงานเป็นหลัก
มาร์คเล่าย้อนไปถึงตอนที่ได้ข่าวบุ้ง “มันก็ไม่ดี เวลาเรานึกถึงมันก็แย่ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับใครมากนัก นั่งคิดอยู่คนเดียว ก็มีวงคุยบ้าง แต่ผมไม่ได้เข้าไปคุย หรือถ้าไปก็จะนั่งเงียบ ๆ”
ก่อนจะพูดเรื่องใบเด็ดขาด มาร์คแสดงความดีใจที่ได้ใบเด็ดขาดมาแล้ว “ผมติดมาตั้งแต่ 15 มี.ค. 2566 ตอนนี้ก็ 1 ปี 2 เดือนแล้ว ยังกังวลว่าเอกสารจะมีปัญหา ถ้าเอกสารมีปัญหามันก็ต้องไปเสียเวลาแก้ไขกันอีก กลัวจะได้ใบเด็ดขาดช้า ถ้าช้าเกินก็กลัวว่าจะไม่ทันกรกฎาคม ที่มีข่าวว่าจะมีอภัยโทษชุดใหญ่”
มาร์คบอกเรื่องสุขภาพ “ผมสบายดี ปกติมาก เหมือนเดิมเลย ตั้งแต่เข้ามายังไม่เคยป่วย ชีวิตข้างในนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษ ไปกองงานก็ทำงานไปเรื่อย ๆ พอวันเสาร์อาทิตย์ก็จะมีเล่นกีฬา พวกเพื่อน ๆ ก็เล่นฟุตบอล เล่นตะกร้อกัน แต่ผมก็ไม่ค่อยไปเล่นนะ จะนั่งดูเงียบ ๆ นั่งให้เวลามันผ่านไป จริง ๆ” ก่อนจบประโยคพูดคุยว่า
“ผมชอบวันธรรมดามากกว่า รู้สึกวันหนึ่งมันจบไวกว่า แล้ววันหยุดมันก็จะเงียบเกินไปด้วย ไม่มีเสียงประกาศเยี่ยมญาติ”
จนถึงปัจจุบัน (23 พ.ค. 2567) มาร์คถูกคุมขังมาแล้ว 436 วัน หรือราว 1 ปี 2 เดือน จากโทษจำคุก 2 ปี 1 เดือน จากคดีถูกฟ้อง ‘ครอบครองระเบิดปิงปอง-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ’ เหตุชุมนุมดินแดง 20 ส.ค. 2564 โดยคดีถึงที่สุดแล้ว
ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม