บันทึกเยี่ยม 2 ผู้ต้องขังคดี 112: ภูมิยังรอคิวผ่าตัด ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก – นารารู้สึกว่ากระเทยได้รับความเท่าเทียม หลังเรือนจำอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์

ก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทนายได้เข้าเยี่ยม “นารา” อนิวัต ประทุมถิ่น ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังได้เข้าเยี่ยม “ภูมิ” ที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตา

นาราเล่าให้ทนายฟังว่า ได้รับอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์แล้ว หลังจากมีการเรียกร้องให้ LGBTQ กว่า 30 คน ในแดน 4 ได้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทำการแสดงช่วงสงกรานต์ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคนเหล่านี้ยังมีตัวตนอยู่ในเรือนจำ ขณะที่ภูมิซึ่งมีอาการไหล่หลุดมาหลายเดือน ยังคงใช้ชีวิตโดยมีผ้าคล้องแขนอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับมีอาการป่วยอีกอย่างคือ ปัสสาวะไม่ออก จนต้องไปโรงพยาบาลอีกครั้ง จนถึงปัจจุบันภูมิยังคงรอการประสานงานเพื่อให้ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดหัวไหล่

.

หลังจากช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ภูมิต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จากอาการหัวไหล่หลุด ซึ่งหมอแนะนำว่าภูมิต้องได้รับการผ่าตัด แต่เนื่องจากโรงพยาบาลคิวผ่าตัดเต็มและเตียงไม่ว่าง ทำให้ภูมิยังคงอยู่ที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตาต่อไป และต้องรักษาตามอาการ โดยทุกครั้งที่ไหล่หลุด เจ้าหน้าที่ก็นำตัวภูมิส่งโรงพยาบาล 

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567 ภูมิมีอาการปัสสาวะไม่ออกจนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสิรินธร เจ้าหน้าที่บ้านเมตตาระบุว่า ภูมิไม่ทานน้ำ แต่ภูมิบอกว่า เขากินยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาแก้ปวด แล้วมีอาการฉี่ไม่ออกเอง พอฉี่ไม่ออกก็ไม่อยากทานน้ำเพราะจะทำให้ปวดท้องมากขึ้นไปอีก 

ทนายได้พบกับภูมิเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2567 โดยภูมิมีสีหน้านิ่ง ๆ อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีส้ม สวมกางเกงขาสั้นสีดำเหมือนกางเกงนักเรียนมัธยมชาย โดยมีสายสวนปัสสาวะและถุงปัสสาวะห้อยข้าง ๆ ตัว แขนด้านขวาถูกพะยุงด้วยที่คล้องแขนสีน้ำเงินเพื่อป้องกันไม่ให้แขนเคลื่อนไหวหรือขยับ 

วันดังกล่าวเป็นวันที่ศาลนัดภูมิเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟู แม่กับอาม่าและน้องสาวโผเข้าไปกอดภูมิ ทำให้ภูมิยิ้มได้เล็กน้อย แต่เมื่อเขาได้เห็นรายงานของสถานพินิจฯ ก็เกิดอาการกังวล ภูมิบอกว่า มีข้อเท็จจริงที่ต้องการอธิบายต่อศาล 

ภูมิอยากให้ทนายจองเข้าเยี่ยมไว้เลย เพื่อที่จะได้พูดคุยเรื่องสถานการณ์และการดำเนินการทางคดีที่เกี่ยวข้อง และยังมีคดีอื่นอีกที่ภูมิตกเป็นจำเลย ทนายแจ้งว่า เนื่องจากทุกครั้งที่ภูมิออกศาลหรือออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ภูมิจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างนั้นทั้งทนายและผู้ปกครองไม่สามารถเข้าเยี่ยมออนไลน์หรือเยี่ยมใกล้ชิดได้เลย แต่อย่างไรก็ตามทนายจะทำหนังสือสอบถามเรื่องการเข้าเยี่ยมกับสถานพินิจฯ อีกครั้ง เพราะมีอุปสรรคในการปรึกษาคดีพอสมควร

วันที่ 2 เม.ย. 2567 ภูมิได้ออกไปพบหมอที่โรงพยาบาลจุฬาฯ อีกครั้ง ในนัดตรวจอาการไหล่หลุด โดยมีแม่และอาม่าไปรอพบภูมิด้วย ภูมิเล่าว่า นอกจากความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันจากอาการไหล่หลุดแล้ว สุขภาพทั่วไปปกติดี กินข้าวได้ แม่สังเกตว่า ภูมิไม่ได้ใส่สายสวนปัสสาวะพร้อมถุงปัสสาวะแล้ว

แม่ของภูมิได้แจ้งกับทนายว่า หมอที่โรงพยาบาลจุฬาฯ บอกว่า ต้องรีบผ่าให้เร็วที่สุด แต่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ขณะนี้คิวผ่าตัดเต็ม ไม่มีห้องผ่าตัดว่าง หมอจึงได้ทำบันทึกไปถึงโรงพยาบาลสิรินธรซึ่งเป็นโรงพยาบาลต้นสังกัด เพื่อให้จัดเตรียมห้องผ่าตัด โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาฯ จะไปทำการผ่าตัดให้ภูมิที่นั่น 

ทั้งนี้ ทนายจองเยี่ยมภูมิแบบใกล้ชิดในวันที่ 10 เม.ย. 2567 แต่ทางบ้านเมตตาแจ้งว่า ตอนนี้มีคนติดโควิด-19 ทำให้เยาวชนทั้งหมดต้องกักตัวอยู่บนหอนอน จึงจำเป็นต้องยกเลิกการเยี่ยมญาติทั้งในระบบออนไลน์และแบบใกล้ชิดทั้งหมดไปจนกว่าจะมีประกาศให้เยี่ยมได้ปกติ 

ปัจจุบัน (15 เม.ย. 2567) ภูมิถูกควบคุมตัวตามคำพิพากษาของศาลเยาวชนฯ ในคดีมาตรา 112 มาแล้ว 181 วัน 

.

11 เม.ย. 2567 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แดน 4 นาราอยู่ในเสื้อแขนสั้นสีฟ้าอ่อน แววตาสดใส เธอยิ้มทักทายทนายก่อนกล่าวทักทายกันเล็กน้อย ทนายสอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดงานสงกรานต์ นาราบอกว่าเรือนจำยินยอมให้เอาอุปกรณ์แต่งตัววันสงกรานต์เข้ามาได้แล้ว 

“หนูรู้สึกว่ากระเทยได้รับความเท่าเทียม หนูดีใจค่ะ ขอบคุณทนายสิทธิที่เป็นกระบอกเสียงให้สาวประเภทสอง ตอนนี้คือได้รับการสนับสนุนเรียบร้อยค่ะ ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมาบังคับอะไร”

นาราอัพเดตความเป็นอยู่ข้างในว่า “ตื่นเช้ามาก็มาจัดการเรื่องทำกับข้าวแบ่งขาย คือเอากับข้าวที่ได้มา มาแบ่งใส่ถุงขาย บางคนไม่มีเงินจ่าย ก็เอาสิ่งของมาแลก พวกน้ำ พวกกาแฟ อะไรแบบนี้ค่ะ หนูก็หาขายนั่นขายนี่ให้มีรายได้ หนูต้องอยู่ให้ได้ค่ะแม่

“อากาศข้างในร้อนมาก จำได้ว่าปีที่แล้วไม่ร้อนขนาดนี้ ไม่มีเรื่องน้ำแข็งอะไรเลย สิ่งที่ทำได้คือต้องอาบน้ำบ่อย ๆ แล้วเอาแป้งเย็นสาดเข้าไป ตอนกลางคืน หนูต้องเอาผ้าไปชุบน้ำแล้วเอามาห่มนอน สาดแป้งเย็นอีกที ไม่อย่างนั้นนอนไม่ได้ บางคนก็อาบน้ำทั้งชุดแล้วมานอนทั้งที่ชุดยังเปียก คือต้องหาวิธีให้อยู่ให้ได้ค่ะ”

นาราบอกอีกว่า ตอนนี้ใจจดจ่ออยู่กับเรื่องการจัดงานสงกรานต์และคดีส่วนตัวที่จะมีการสืบพยาน 

“คือมันต้องออกศาลติดต่อกัน คงเหนื่อยมากแน่ ๆ พี่อานนท์ก็ไปเชียงใหม่ กลับมาก็ต้องออกศาลอีก หนูสงสารแกมากเลย 

“ช่วงนี้สุขภาพแข็งแรง กินอิ่มนอนหลับ ไม่ค่อยมีอะไรหนักใจ กังวลอยู่เรื่องเดียวคืออาการของยาย ที่ทราบจากครอบครัวว่าผ่าตัดแล้ว วันนี้จะได้เยี่ยมไลน์ ก็เดี๋ยวจะได้คุยกับยาย”

สำหรับของที่ฝากซื้อ นาราบอกว่า ได้รับครบทุกอย่าง และดีใจที่มีคนมาช่วยเหลือ 

“ฝากขอบคุณที่ช่วยจัดการมาก ๆ ถ้าของหมดยังไงจะขอรบกวนอีกครั้ง ออกไปนะ จะอวยยศให้หนัก”

ก่อนแยกกัน นาราพูดสีหน้าจริงจังว่า “ขอบคุณที่ดูแลสาวประเภทสอง การที่ทนายสิทธิหรือคนเข้ามาช่วย ดูมันทำให้หนูรู้สึกถึงความเท่าเทียม คนที่นี่เข้าใจเรามากขึ้น ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ”

ปัจจุบัน (15 เม.ย.  2567) นาราถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 คดีที่ 2 หลังอัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญามาแล้ว 32 วัน 

X