“ภูมิ” เบื่ออาหาร หูแว่ว นอนไม่หลับ คาดเป็นผลจากยาจิตเวชที่แพทย์จ่ายให้ ขณะบ้านเมตตาสั่งเด็กให้ออกห่างภูมิ อ้างชอบก่อกวน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่ปรึกษากฎหมายเดินทางไปที่สถานแรกรับเด็กและเยาวชนชายบ้านเมตตา สถานพินิจฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “ภูมิ หัวลำโพง” นักกิจกรรมและอาสากู้ภัย วัย 20 ปี ซึ่งปัจจุบัน (7 ธ.ค.) ถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตาเข้าสู่วันที่ 51 แล้ว 

ภูมิถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตา มาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของศาลเยาวชนฯ ที่กำหนดมาตรการพิเศษให้อยู่ที่สถานพินิจฯ เป็นเวลา 1 ปี แทนการพิพากษาในคดีมาตรา 112 ที่เขาตกเป็นจำเลย  กรณีร่วมกิจกรรมเรียกร้องให้ปล่อยตัว “นิว” สิริชัย นาถึง ซึ่งถูกจับกุมไปยัง สภ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 

บันทึกจากทนายความ

  • ภูมิดูซูบผอม ตาไม่ค่อยโฟกัส ทั้งยังมีแผลคันที่ขาเป็นวงกว้างหลังถูกยุงกัด

เราเข้าเยี่ยมภูมิแบบใกล้ชิดที่บ้านเมตตา ภูมิดูผมยาว เนื้อตัวมอมแมม ช่วงแขนข้างขวาใส่เฝือกเพื่อรักษาภาวะไหล่หลุดอยู่ เขาสวมเสื้อสีฟ้าแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ที่กางเกงมีรอยเปื้อนเป็นวง ๆ ด่าง ๆ และมีตัวเลข ‘3’ กับ ‘12’ อยู่ตรงมุมด้านซ้ายของขากางเกง ภูมิบอกว่าเลข 3 เป็นรหัสของหอนอน ส่วน 12 เป็นเลขประจำตัวของภูมิ 

สังเกตว่าภูมิดูโทรม ซูบผอม ใบหน้าดูกังวล ตลอดการคุยกันเขาดูไม่ค่อยมีสติ ตาไม่ค่อยโฟกัส และมีอาการง่วงนอนแทบจะตลอดเวลา

ภูมิมาเจอเราโดยที่ไม่ได้สวมรองเท้าด้วยซ้ำ เขาเดินเท้าเปล่าออกมา ฝ่าเท้ามีรอยเปื้อนฝุ่นจนเป็นสีดำ ภูมิเล่าว่าเป็นเพราะรองเท้าหายไป แต่บอกให้เราไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่บ้านเมตตามีรองเท้าแจกให้อยู่แล้ว 

ภูมิเดินขาซ้ายกะเผลก ที่ขาด้านซ้ายมีแผลคล้ายแผลสด บางบริเวณของแผลตกสะเก็ดแล้วเป็นปื้นกว้าง จนเราตกใจ ภูมิบอกว่าเป็นเพราะ ‘ถูกยุงกัด’ จากนั้นก็กลายเป็นตุ่มขึ้นและเขาก็เกาจนเป็นแผลในที่สุด ภูมิบอกว่ารู้สึกแสบที่แผลมาก โดยผู้คุมบอกว่า หลังเยี่ยมภูมิเสร็จแล้ว จะพาไปรักษาแผลที่ห้องพยาบาล

ทนายสังเกตว่าตรงข้อพับแขนด้านซ้ายของภูมิมีรอยจุดเล็ก ๆ แดง ๆ ภูมิบอกว่าก่อนหน้านี้มีรอยจุดแดงเยอะกว่านี้ ตอนนี้ลดลงกว่าเดิมมากแล้ว คาดว่าน่าจะเกิดจาก ‘อาการแพ้น้ำ’ ในบ้านเมตตา

  • ชีวิตหลังครบกักตัว

ก่อนหน้านี้ภูมิถูกเบิกตัวไปศาลจึงต้องกักกันโรคอีกครั้ง และเพิ่งครบกำหนดกักตัวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นต้องกลับมาอยู่รวมกับเด็กคนอื่น ๆ ตามปกติ ภูมิเล่าถึงบรรยากาศการอยู่รวมกับคนอื่นว่า วันจันทร์ – ศุกร์ จะต้องขึ้นหอนอนประมาณ 2 ทุ่ม ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ จะต้องขึ้นหอนอนประมาณ 6 โมงเย็น 

เมื่อขึ้นหอนอนแล้วจะมีกิจกรรมให้ความรู้ ให้วาดรูป ดูภาพยนต์ ถอดบทเรียน ให้ออกกำลังกาย และสวดมนต์ในช่วงเช้า ในบ้านเมตตาสามารถดูทีวีได้ทุกช่อง ติดตามข่าวสารได้ “ช่วงนี้ผมตามข่าวเสี่ยแป้งอยู่” ภูมิบอกพร้อมยิ้มเล็กน้อย

ภูมิเล่าต่อถึงลักษณะเรือนนอนของบ้านเมตตาว่าเป็นแนวยาว มีห้องน้ำในเรือนนอนคล้ายกับห้องขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่กำแพงกั้นโซนห้องน้ำจะสูงกว่า ที่เรือนจำจะสูงประมาณเอวได้ ส่วนเวลาอาบน้ำก็ต้องอาบน้ำรวมกัน ทุกคนต้องใช้ยาสีฟัน สบู่ แชมพูเหมือนกัน 

  • ความคืบหน้าหลังพบจิตแพทย์ : ภูมิเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หูแว่ว คาดเป็นผลจากยาจิตเวช

เราถามความคืบหน้าหลังภูมิต้องไปพบจิตแพทย์ ที่โรงพยาบาลสิรินธร เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ภูมิตอบว่า “หมอบอกว่าผมมีอาการเครียดรุนแรง หมอจ่าย ‘ยานอนหลับ’กับ ‘ยาคลายเครียด’ ให้ ตัวยานอนหลับไม่มีปัญหา เพราะเป็นยาที่ผมเคยกินจากตอนที่ติดอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

“แต่กับยาคลายเครียดผมทานแล้วรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติไป เอฟเฟคจากยาทำให้ ‘ไม่รู้สึกหิว’ เบื่ออาหาร ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากกินอะไรเลย รู้สึกว่าตัวเองมีอาการหูแว่ว แปลกไปจากเดิม รู้สึกว่ากินแล้วมีอาการแย่กว่าเดิม 

“มีสะดุ้งตื่นกลางดึก ไม่รู้สึกถึงรสชาติอาหาร ปกติผมจะใจเย็นกว่านี้ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองใจร้อนมาก ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ผมไม่เคยเหงื่อออกเยอะแบบนี้มาก่อนด้วย” ภูมิเล่าให้เราฟัง ด้วยอาการตาปรือ ตลอดเวลาที่คุยกันเขาเหงื่อออกเยอะมาก ออกเป็นเม็ด ๆ จนเราต้องยื่นทิชชู่ให้เพื่อซับเหงื่อ ทั้งที่อากาศตอนนั้นก็ไม่ได้ร้อนมากเลย 

เราบอกภูมิว่า ปรึกษาแพทย์เพื่อหยุดยาคลายกังวลดีหรือไม่ ภูมิบอกว่าขอดูก่อน ยังไม่ได้อยากหยุดยาตอนนี้ แต่อยากเลื่อนนัดไปพบจิตแพทย์ให้เร็วขึ้น ซึ่งนัดเดิมเป็นวันที่ 28 ธ.ค. นี้ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมตตารับทราบความประสงค์ของภูมิแล้ว และรับปากว่าจะติดต่อโรงพยาบาลให้

  • ภูมิรู้มาว่า จนท.กำชับให้เด็กบ้านเมตตาออกห่างตัวเอง อ้างว่าเขาเข้ามาก่อกวน ยุยงเด็ก

เราถามเหตุผลที่ช่วงนี้ภูมิค่อนข้างดูกังวลมากเกี่ยวกับกรณีมีเด็กที่บ้านเมตตาคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย ภูมิบอกว่า คิดว่า ผอ.สถานพินิจฯ ยังไม่รู้เรื่องที่มีเด็กในบ้านเมตตาถูกทำร้ายร่างกาย อีกเรื่องเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมตตาบอกกับเด็กบางคนว่า ‘ให้อยู่ห่าง ๆ ภูมิ’ เพราะเข้ามาก่อกวน ยุยงเด็ก ให้จับตาดูไว้ 

นอกจากนี้ ภูมิยังตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่บางคนไม่คุยกับภูมิเลย โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่จึงคุยกับเด็กมากไม่ได้ ทั้งที่กับเด็กคนอื่นเจ้าหน้าที่ก็พูดคุยกันปกติ การเลือกปฏิบัติและถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษเหล่านี้ทำให้ภูมิรู้สึกกดดันและแปลกแยก  

ภูมิอยากจะอดอาหารประท้วงต่อ เพราะอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง แต่รู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายไม่ไหว และบอกว่า “ที่ตัดสินใจเลิกอดอาหารประท้วง เพราะปวดท้องหนักมาก พอไปล้างท้องที่โรงพยาบาลสิรินธรก็มีแต่เลือด …”

ภูมิพูดย้ำว่าตอนนี้รู้สึกเครียด รู้สึกกดดันไปทุกเรื่อง และบอกว่าอยากได้หนังสือ ‘เหลี่ยมคุก’ ของชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาอ่าน แต่เราไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมตตาจะอนุญาตให้ส่งเข้าไปได้หรือไม่ วันนี้เรายังนำบทความและภาพถ่ายของภูมิกับอาม่ามาให้ภูมิดูด้วย ภูมิไล่ดูภาพแต่ละใบแล้วบอกว่า “คิดถึงข้างนอก” จากนั้นเขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

สุดท้ายเราถามภูมิว่า “อยากฝากอะไรถึงใครไหม” ภูมินิ่งเงียบ ใบหน้าเหนื่อยล้า แววตาดูเบลอ แล้วตอบเราว่า “ไม่มีครับ ตอนนี้ผมเบลอ ๆ”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

“ภูมิ หัวลำโพง” จากเด็กกู้ภัย สู่เยาวชนไทยที่ถูกดำเนินคดีความมั่นคง

X