บันทึกเยี่ยม 5 ผู้ต้องขัง ‘112’: ขอเป็นกำลังใจให้นักโทษการเมืองทุกคน แม้เราจะไม่เคยเจอกัน

บันทึกเยี่ยมผู้ต้องขังรอบสัปดาห์นี้ มี “เวหา” ที่อัพเดตเรื่องสุขภาพว่ายังแข็งแรงดี ขอบคุณที่ยังมาเยี่ยมและไม่ลืมเขา ก่อนจะเล่าถึงปัญหาเรื่องจดหมายที่ตั้งใจเขียนสื่อสารออกมาแล้วถูกเซ็นเซอร์ในบางประโยค

“แม็กกี้” ที่กำลังคิดถึงการใช้ชีวิตข้างนอก แต่ก็ถูกอัยการยื่นฟ้องก่อนถูกขังครบผัด แม้จะกังวลถึงจุดหมายปลายทาง แต่แม็กกี้ยังยืนยันว่าจะสู้คดีต่อไป

“วุฒิ” ที่ต้องลุ้นคำพิพากษาอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ พยายามไม่ทุกข์ ไม่เครียด และบอกเชิงให้กำลังใจว่า ต้องเก็บแรงไว้ฮึดสู้ต่อไป 

“ภูมิ” ที่ถูกคุมตัวในสถานพินิจบ้านเมตตาพูดถึงการถูกทำโทษรวม ซึ่งทำให้ช่วงนี้เขามีปัญหาด้านสุขภาพ และ “อารีฟ” วีรภาพ พูดถึงปัญหาเรื่องการเขียนจดหมายวิจารณ์รัฐบาลแล้วส่งออกมาจากเรือนจำไม่ได้ 

กับช่วงเวลาที่ผ่านไปอีกสัปดาห์ แม้ในเรือนจำหรือแม้แต่สถานพินิจ จะมีกิจวัตรบางอย่างให้ผู้ต้องขังได้ทำบ้าง แต่การได้ออกมาพบผู้คนโดยเฉพาะ ‘ทนายสายเยี่ยม’ เพื่อจะสื่อสารเรื่องราวของพวกเขาหรือรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกภายนอกย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้ผู้ต้องขัง ‘คดี112’ รู้สึกว่าไม่ถูกลืม รวมถึงรู้สึกได้รับกำลังใจจากบุคคลที่แม้อาจจะไม่เคยพบกันมาก่อน 

.

เวหา: ถูกเซ็นเซอร์จดหมาย ไม่ให้เขียนคำว่า “นิรโทษกรรม” “ยกเลิก ม.112”

10 ม.ค. 2567 ทนายเข้าทักทายเวหาตามปกติและให้เวหาดูภาพ ส.ค.ส. ที่คนภายนอกฝากมา เวหาดูมีความสุขมากที่ยังมีคนนึกถึงเขา จากนั้นทนายได้อัพเดตข่าวเกี่ยวกับระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ที่บังคับใช้เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และข่าวอื่น ๆ ให้เวหาทราบ เวหาก็อัพเดตว่า ตอนนี้เลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเอกสารมาให้เซ็น ก่อนขอบคุณทนายที่ยังมาเยี่ยมอยู่ เพราะถ้าไม่มีกลุ่มทนาย ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่ายังไม่ลืมกัน

17 ม.ค. 2567 เวหายิ้มแย้มแจ่มใส ทนายถามไถ่ถึงสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ เวหาแจ้งว่าทุกวันนี้ก็รู้สึกเหมือนเดิม “เรื่อย ๆ ครับ ร่างกายแข็งแรงดี” และเล่าว่า เขาได้ส่งโดมิเมลถึงทนาย พร้อมทั้งขอบคุณเพื่อน ๆ หรือหน่วยงานที่คอยส่งอาหารให้ โดยตอนแรก เวหาและเพื่อนผู้ต้องขังอีกสองคนเขียนจดหมายคนละฉบับ และให้เวหาเป็นคนส่งให้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งว่า หากจะส่งโดยเวหาคนเดียวจะต้องเป็นจดหมายฉบับเดียวกัน เวหาเลยรวมของทั้ง 3 คน เป็นฉบับเดียวกัน ซึ่งมีข้อความในจดหมายที่ถูกเซนเซอร์อยู่ คือคำว่า “ยกเลิก ม.112” “ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม” “นิรโทษกรรม” โดยเจ้าหน้าที่ไม่ให้เขียนผ่านออกมาทางโดมิเมล เวหาเลยต้องลบคำดังกล่าวออก

จนถึงปัจจุบัน (18 ม.ค. 2567) เวหาถูกคุมขังมาแล้ว 246 วัน

ย้อนอ่านคดีของเวหา

.

แม็กกี้: ยังคิดถึงข้างนอกอยู่เรื่อย ๆ คิดถึงตอนได้ไปที่โน่น ที่นี่

11 ม.ค. 2567 แม็กกี้นั่งรออยู่ในห้องเยี่ยมนิ่ง ๆ จนทนายเดินไปเคาะกระจกเรียกใกล้ ๆ แม็กกี้ถึงหันมายิ้มแย้มแจ่มใสแล้วไหว้ย่อ แม็กกี้บอกว่า ช่วงนี้สบายดี ยังไม่ป่วย “นี่หนูเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาประกาศเรียกชื่อตั้ง 2 รอบ รีบมาก ยังไม่ได้ทาแป้งเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยกลับไปอาบอีกรอบข้างบน เพราะเหงื่อออก” ก่อนเล่าว่า ในห้องแม็กกี้ตอนนี้มีผู้ต้องขังนอนอยู่ 36 คน ต้องเบียดกันนอน ตกแล้ว 2 เบาะต่อ 3 คนนอน 

“มีช่วงหนึ่งที่ในห้องต้องเบียดกันถึง 40 คน ก็ผ่านมาแล้วค่ะ ตอนนี้เลยพอรับไหว” 

ช่วงที่ผ่านมาแม็กกี้ได้ลงแข่งวอลเลย์บอลในแดนด้วย ได้ที่ 2 มา ก่อนบอกอีกว่า ก็ยังคิดถึงข้างนอกอยู่เรื่อย ๆ คิดถึงตอนได้ไปที่โน่น ที่นี่ เพราะชีวิตในนี้วนลูปมาก ตื่น กินข้าว บ่ายสามขึ้นเรือนนอน แล้วก็อยู่ไปถึงเช้า ไม่มีอะไรให้ทำเลย “ช่วงนี้ก็ดูละครค่ะ” แม็กกี้บอกว่าได้ดูพรหมลิขิตเพราะเขาเอามาฉายย้อนหลัง แล้วในห้องก็ไม่มีอย่างอื่นให้ดู 

เมื่อถามถึงความต้องการ แม็กกี้บอกว่า อยากได้นิยายน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊กมาอ่านอีก เล่มเก่าอ่านใกล้จบแล้ว “หนูไม่อยากได้แนวดราม่านะคะ ชีวิตหนูดราม่าพอแล้ว” 

15 ม.ค. 2567 เป็นวันที่แม็กกี้ถูกฝากขังครบ 84 วัน และอัยการยื่นฟ้อง เจ้าหน้าที่เรือนจำนำคำฟ้องมาให้ และศาลสอบคำให้การทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ แม็กกี้ให้การปฏิเสธ วันต่อมา (16 ม.ค. 2567) ทนายความตามมาพบแม็กกี้ที่ถูกเบิกตัวมาศาลอาญากรุงเทพใต้ ในนัดคุ้มครองสิทธิ แม็กกี้ยังยืนยันให้การปฏิเสธ และแถลงด้วยตนเองว่ามีทนายแล้ว ก่อนศาลกำหนดนัดตรวจพยานฯ วันที่ 19 ก.พ. 2567 

17 ม.ค. 2567 แม็กกี้เล่าถึงเหตุการณ์วันที่อยู่ในห้องคุ้มครองสิทธิ เจ้าหน้าที่ที่คุยด้วยบอกว่าเป็นผู้บริหารเรือนจำ เขาบอกว่า หนูจะติดคุก 54 ปี พอลดกึ่งหนึ่งแล้วก็เหลือ 27 ปี แม็กกี้บอกว่าได้อยู่ในห้องนั้นไม่นานก็กลับลงมาห้องขังด้านล่าง แล้วก็ได้เจอทนาย 2 คน มาหา หนูดีใจมาก คิดว่าจะไม่มีคนมาหาแล้ว แล้วหนูก็เล่าเรื่องให้พี่เขาฟัง จากนั้นก็รออย่างนั้นถึงค่ำเลยค่ะ เหมือนเขารอให้กลับมาพร้อมกับผู้ต้องขังรายใหม่ พอกลับมาเมื่อคืนก็ได้ไปนอนที่แดน 4 ก่อน 

แม็กกี้ระบายความรู้สึกว่า กังวลมาก ๆ ทั้งเรื่องคดี ทั้งเรื่องจะติดคุกกี่ปี แล้วแนวทางในคดีจะเป็นไงหรือต้องทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องคำฟ้อง แม็กกี้บอกว่าได้มาปึกหนึ่ง เดี๋ยวหนูส่งออกไปให้นะคะ แต่หนูจำเนื้อหาไม่ค่อยได้

จนถึงปัจจุบัน (18 ม.ค. 2567) แม็กกี้ถูกคุมขังมาแล้ว 89 วัน

ย้อนอ่านคดีของแม็กกี้  

.

วุฒิ: ผมและทุกคนเองคงต้องเก็บแรงฮึดสู้ไว้

12 ม.ค. 2567 ทนายต้องเยี่ยมวุฒิที่ห้องเยี่ยมญาติ เนื่องจากห้องทนายเต็ม วุฒิมีสีหน้าท่าทางดีขึ้นและดูผ่อนคลาย ไม่เครียดเหมือนสัปดาห์ก่อน วุฒิบอกว่า ตอนนี้พยายามไม่ทุกข์ พยายามไม่เครียด ไม่คิดอะไร มันอาจจะอดคิดไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากเครียดอีก อะไรมันจะเกิดก็รอดูวันที่ 14 กุมภานี้   

“ถามว่าเตรียมใจไหม มันก็เตรียมรับ แต่ให้หวังคงไม่คาดหวังอะไรแล้ว เพราะมันผิดหวังมาแล้วเมื่อวันที่ 21 ธันวา ปีที่แล้ว”

วุฒิระบายอีกว่า “ตอนนี้ผมไม่คาดหวังกับศาลหรอก พูดได้เลยว่า ผมไม่ศรัทธาในคำพิพากษาของศาล หมดศรัทธากับกระบวนการยุติธรรมประเทศนี้มาก ๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม คำพิพากษาของจิรวัฒน์ หรือกรณีแม็กกี้ที่ถูกจับแล้วไม่ได้ประกัน ตรงนี้มันชัดเจนว่าศาลเป็นเครื่องมือของเผด็จการไม่เปลี่ยนแปลง 

“และดูท่าจะใช้หนักขึ้นทุกวัน ไม่มีการลดราวาศอกเลย ดูจำนวนคนถูกจับ คนถูกขังแบบนี้ เหมือนเขาจะเก็บคนเห็นต่างให้หมด ทำให้ประชาชนกลัว ถ้าข้างบนไม่ยอมลดลงเลย ก็คงมีคนถูกขัง ถูกจับมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมและทุกคนเองคงต้องเก็บแรงฮึดสู้ไว้” 

วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ก็ห่วงที่บ้าน ห่วงแฟนว่าเป็นยังไง แม่แฟนหายป่วยหรือยัง เนื่องจากแฟนต้องลาออกจากงานกลับไปดูแลแม่ที่บ้านต่างจังหวัด อยากให้เขาดูแลตัวเองดี ๆ และดูแลแม่ดี ๆ “ถ้าผมอยู่ข้างนอกก็คงช่วยอะไรได้บ้าง ฝากบอกแฟนผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม ดูแลแม่ให้ดี ๆ ให้แม่หายไว ๆ”  

กับช่วงวันเด็กที่ทางเรือนจำให้ผู้ต้องขังที่มีลูกได้เจอลูกเจอครอบครัวแบบใกล้ชิด “ผมก็ว่าดีนะ ในฐานะที่ผมก็เป็นพ่อ มันดีมาก ๆ ผมเองก็คิดถึงลูกสาวลูกแฟนผมที่เราช่วยกันส่งเสีย”

วุฒิเล่าถึงกิจวัตรในเรือนจำอีกว่า ทุกวันนี้สวดมนต์ทุกวัน วันละ 2 รอบ เช้า-เย็น เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน ให้อยู่กับความเป็นจริง “ตั้งแต่เข้ามาผมก็อ่านหนังสือธรรมะมาตลอด อ่านให้มันมีความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ดึงสติ ดึงความคิด ผมขอบคุณอาหารที่ส่งมาให้มาก ๆ อาหารที่ได้รับ มันไม่ได้หล่อเลี้ยงแค่กาย แต่มันหล่อเลี้ยงใจผมและคนข้างในมาก ๆ”  

วุฒิยังฝากถึงเพื่อนในเรือนจำทุก ๆ คน “ผมขอเป็นกำลังใจให้นักโทษการเมืองทุกคน แม้เราจะไม่เคยเจอกันเลยก็อยากให้กำลังใจกัน” 

วุฒิเล่าอีกว่า ตนเขียนหนังสือขอความเป็นธรรมไว้ ตั้งใจว่าจะยื่นถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรีในวันที่ออกศาล แต่ไม่รู้เจ้าหน้าที่จะให้เอาออกไปหรือเปล่า “ผมจะลองส่งโดมิเมลไปก่อนด้วย” วุฒิกล่าวทิ้งท้าย

จนถึงปัจจุบัน (18 ม.ค. 2567) วุฒิถูกคุมขังระหว่างสอบสวนและพิจารณามาแล้ว 298 วัน คดีของวุฒิศาลอาญามีนบุรีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 ก.พ. 2567

ย้อนอ่านคดีของวุฒิ

.

ภูมิ: ปวดหัวคล้ายกับมีคนเอาค้อนมาทุบ และอ้วกเป็นเลือดครั้งที่ 3 ขอไป รพ. แต่ จนท.ตัดสินใจไม่ได้

ที่สถานพินิจบ้านเมตตา ที่ปรึกษากฎหมายเข้าพบภูมิในวันที่ 13 ม.ค. 2567 ขณะมองผ่านจากหน้าจอภูมิตัวเล็กลงไปมาก เมื่อเจอหน้ากันภูมิรีบบอกว่า มีอาการปวดหัวคล้ายกับมีคนเอาค้อนมาทุบ และอ้วกเป็นเลือดตั้งแต่บ่ายสองเมื่อวาน (12 ม.ค.) ทางบ้านเมตตาให้กินยาพารา แต่ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้น ภูมิพูดพร้อมโชว์ถุงที่มีออกเหลวออกสีน้ำตาลคล้ำอยู่ก้นถุง ภูมิบอกว่า เจ้าหน้าที่ให้เขาอ้วกใส่ถุงเก็บไว้

ภูมิเล่าว่า สาเหตุน่าจะเพราะเมื่อวานนี้มีการทำโทษเด็กในบ้านเมตตาทุกคน เพราะมีการนับยอดผิด วิธีทำโทษ คือ ให้ม้วนกลิ้งไปกับพื้นและตีลังกาหมุนเป็นวง ตอนแรกเขามีอาการแค่เวียนหัว แต่หลังจากนั้นก็ปวดหัวและอ้วกเป็นเลือดตามมา ภูมิให้ข้อมูลเพิ่มว่า มีอาการอ้วกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกทางบ้านเมตตาพาไปศูนย์สุขภาพ ได้ยาพารากับวิตามินมากิน ครั้งที่ 2 ตอนนั้นอดอาหาร เจ้าหน้าที่พาไปโรงพยาบาล ตอนนั้นหมอบอกว่าน่าจะเป็นเพราะอดอาหาร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทางบ้านเมตตาให้กินยาพารา แต่อาการปวดหัวยังมีอยู่ 

“ผมก็ถามว่าพาไปโรงพยาบาลได้ไหม เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ไม่มีคนตัดสินใจได้ ผมก็งง ว่าถ้าอาการหนักขึ้นมาจะยังไง” ภูมิเล่าสถานการณ์ให้ฟัง

ที่ปรึกษาฯ ถามภูมิว่า ยังสามารถกินข้าวได้หรือไม่ ภูมิตอบว่า กินข้าวได้ปกติ มีสติรู้ตัวดี แต่มีอาการปวดหัว ไม่ได้ปวดแบบเป็นไข้ แต่ปวดแบบเจ็บ ๆ ตัวผอมลงจริง น้ำหนักจากเดิม 94 เหลือ 80 กิโลกรัม 

ภูมิเล่าถึงกิจกรรมวันเด็กในบ้านเมตตาให้ที่ปรึกษาฯ ฟังด้วยว่า ธนาคารแห่งหนึ่งเข้ามาทำกิจกรรม มีการเล่นเกม ซึ่งภูมิได้เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ อาม่าของภูมิก็ได้ส่งไอติมไผ่ทองเข้ามาแจกด้วย

ที่ปรึกษาฯ ได้อ่านข้อความในโพสต์ “จากเพื่อนถึงเพื่อน” ที่ ศูนย์ทนายฯ โพสต์ให้ภูมิฟัง และให้ภูมิดูข้อความที่เขียนถึงเขาโดยตรง ภูมิยิ้มน้อย ๆ และบอกให้ช่วยส่งเป็นจดหมายเข้าไปให้ที่บ้านเมตตาด้วย ที่ปรึกษาฯ ยังให้ภูมิดูข่าวที่มีการจัดกิจกรรมปล่อยนักโทษทางการเมืองที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และให้ดูภาพคนชูรูปภูมิในกิจกรรมดังกล่าว

ก่อนที่ที่ปรึกษาฯ แจ้งว่า จะติดตามเรื่องที่อัยการขยายอุทธรณ์กับเรื่องที่ออกหมายเบิกตัวไปศาลในวันที่ 31 ม.ค. 2567 ให้ในช่วงสัปดาห์หน้า แล้วจะมาอัพเดตให้ฟังอีกที

จนถึงปัจจุบัน (18 ม.ค. 2567) ภูมิถูกควบคุมตัวที่บ้านเมตตามาแล้ว 93 วัน

ย้อนอ่านคดีของภูมิ

. 

อารีฟ: เขียน จม.วิจารณ์รัฐบาล แต่ส่งออกมาไม่ได้ จนท.อ้างกฎเรือนจำห้ามแสดงความเห็นต่าง

16 ม.ค. 2567 อารีฟยังคงใส่เสื้อสีฟ้าที่มีปลอกแขนสีแดงเย็บติดอยู่เช่นคราวที่แล้ว ผิวคล้ำกร้านแดด เพิ่มเติมคือ ลุคหัวเกรียน อารีฟยกหูโทรศัพท์พร้อมบอกว่า โดนตัดผมแล้ว อารีฟเล่าว่า ไปเจอเจ้าหน้าที่พอดี แล้วเขากำลังแกะปัตตาเลี่ยนอันใหม่มาใช้ เลยโดนเรียกเข้าไปตัดผมฉลองของใหม่เลย 

ก่อนอัพเดตว่า ช่วงนี้ถูกส่งไปฝึกจ่า ฝึกมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งน่าจะต้องฝึกไปประมาณ 1 เดือน ผิวเลยยังคงคล้ำเหมือนเดิม แม้ว่าจะหยุดเตะตะกร้อกลางแดดไปแล้ว 

อารีฟเล่าอีกว่า ตั้งแต่ปีใหม่มา ในแดนมีการย้ายระบายผู้ต้องขังมา 4 รอบแล้ว คนหายไปเยอะเลย หัวหน้ากับรองหัวหน้าห้องของอารีฟก็โดนย้าย ตอนนี้อารีฟเลยโดนเพื่อน ๆ ร่วมห้องเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องแทน ซึ่งถ้าเป็นหัวหน้าห้องต้องคอยเช็คชื่อเพื่อน ๆ ในห้องด้วย อารีฟบอกว่าไม่อยากทำเลย 

สำหรับเรื่องสุขภาพ อารีฟบอกว่า นอนไม่หลับมา 4-5 วัน แล้ว ตาโหลเป็นวงเห็นได้ชัด อารีฟไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้เครียด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลึก ๆ แอบเก็บคำพูดคนอื่นมาคิดมากรึเปล่า เพราะแต่ละวันก็เจอคนพูดแซวเรื่องไม่ได้ประกันหรอก หรือเจอคำพูดไม่ค่อยดีอยู่บ่อย ๆ  นอกจากนั้นก็มีอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อย ๆ มักจะเป็นช่วงกลางคืน พอนอนน้อยก็รู้สึกเพลีย ๆ 

พอทนายถามเรื่องปลอกแขนสีแดง อารีฟก็บอกว่า เขายังให้ใส่อยู่ทุกวัน ไม่ให้เอาออก แต่พอใส่ตามที่เขาสั่งทุกวันก็ไม่ได้มีใครมายุ่งอะไรเพิ่มเติม แค่ต้องคอยซักเสื้อตัวนี้ทุกวันเฉย ๆ เพราะปลอกแขนเย็บติดเสื้อตัวนี้ตัวเดียว

อารีฟบอกว่า ได้ลองเขียนจดหมาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ส่งออก เพราะเป็นเนื้อหาที่เขียนถึงรัฐบาลเพื่อไทย เนื้อความประมาณว่า หลายคนที่เลือกเพื่อไทยจะเสียความรู้สึกไหมที่เลือกมาแล้วก็ไม่ต่างจากรัฐบาลประยุทธ์เลย จากจดหมายฉบับนั้นทางเรือนจำก็เรียกเข้าไปคุยว่าเขียนแบบนี้ส่งออกไม่ได้ อารีฟเลยถามว่า ทำไมถึงเขียนวิจารณ์รัฐบาลไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามันเป็นกฎของเรือนจำที่ไม่ให้แสดงความเห็นต่าง

จนถึงปัจจุบัน (18 ม.ค. 2567) อารีฟถูกคุมขังมาแล้ว 113 วัน

ย้อนอ่านคดีของอารีฟ

.

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม

บันทึกเยี่ยม  7 ผู้ต้องขัง ‘112’ จากปีเก่าสู่ปีใหม่: ขอให้อดทนกันไว้ อยู่กับปัจจุบันให้ได้

X