บันทึกเยี่ยม 6 ผู้ต้องขัง ‘112’ ก่อนสิ้นปี: “อยากขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้คนข้างใน พวกเราก็จะสู้ต่อไป”

สำหรับช่วงสิ้นปี ไปจนถึงล่วงเข้าสู่ปีต่อไป บรรยากาศสังคมทั่วไปคงเป็นเรื่องการเฉลิมฉลองและเตรียมเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ของปีที่กำลังจะมาถึง แต่กับผู้ต้องขังทางการเมือง โดยเฉพาะคดีมาตรา 112 ต่างเป็นช่วงยากลำบากในชีวิตของพวกเขา โดยเฉพาะการปราศจากอิสรภาพในการที่จะได้อยู่กับคนใกล้ชิดในช่วงเทศกาลที่คนในครอบครัวควรได้อยู่พบหน้ากัน 

ในสัปดาห์นี้ ‘วุฒิ’ จากเรือนจำพิเศษมีนบุรีที่รอลุ้นผลคำพิพากษา ในวันที่ 21 ธ.ค. 2566 แต่ก็ต้องรอคำตัดสินว่าเขาจะได้ออกจากกรงขังหรือไม่ต่อไป เพราะศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษา  ‘น้ำ’ วารุณี ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ตอนนี้เธอเริ่มปรับชีวิตข้างใน ก็กล่าวเป็นประโยคเชิงห่วงใยเสมอว่า “ขออย่าให้มีใครเข้ามาอีก”  

‘เก็ท’ โสภณ ที่มีความเด็ดเดี่ยวสูงในเรื่องการถอนประกัน ก็บอกเสมอว่าอยากให้เข้าใจในแนวทางการต่อสู้ของเขา ที่อยากเป็นผู้ชนะที่แท้จริง โดยไม่ต้องเข้าออกในห้องขังบ่อย ๆ ‘อารีฟ’ วีรภาพ ที่เพิ่งทราบผลการไม่ได้ประกันตัว และต้องรักษาอาการป่วยไข้อีกหลายอาการในเรือนจำ

‘เวหา’ ที่พูดถึงชีวิตช่วงปีใหม่ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เขาทำกิจกรรมอยู่เป็นเพื่อนผู้ต้องขังมาตลอด แล้วปีนี้เป็นเขาเองที่ต้องอยู่ข้างในนั้น และ ‘แม็กกี้’ ที่ยังคงร่าเริงและมีความแข็งแกร่งจากกำลังใจจากคนข้างนอก แต่การต้องอยู่ในเรือนจำช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ทำให้เธออดคิดถึงอิสรภาพและครอบครัวไม่ได้ 

ถึงที่สุดในช่วงเวลาก่อนปีเก่าจะจากไป ปีใหม่จะมาแทน ประโยคจากแม็กกี้ที่ส่งผ่านจากทนาย คงจะคล้ายสิ่งแทนใจที่ผู้ต้องขัง ‘112’ อยากสะท้อนออกไปให้ถึงผู้คนข้างนอก  “อยากขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้คนข้างใน พวกเราก็จะสู้ต่อไป

.

‘วุฒิ’: “ไม่อยากให้ใครต้องเป็นเหยื่อ 112 เลย”

วันที่ 18 ธ.ค. 2566 วุฒิบอกว่าวันนี้ตั้งใจจะเขียนความในใจตั้งแต่วันที่ไปรับทราบข้อกล่าวหามาจนถึงวันที่มีคำพิพากษา แต่ลืมถือกระดาษที่จดมา

เมื่อทราบว่าศาลเลื่อนอ่านพิพากษาคดีพันธมิตรปิดสนามบินออกไป วุฒิเห็นว่าคดีนี้ตั้งแต่ปี 2556 ยังไม่มีคำพิพากษา เห็นถึงความผิดปกติของกระบวนการยุติธรรมจริง ๆ เปรียบเทียบกับคนที่โดนคดี 112 หรือ คดีการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว 

“เคสผมแค่อัยการสั่งฟ้อง ศาลก็เอาเข้าคุก ไม่ให้ได้รับสิทธิประกันมาจน 9 เดือนกว่าแล้ว แต่คดีของ กปปส. กระบวนการยุติธรรมดำเนินการล่าช้ามาก”  

วุฒิ เล่าว่า ตอนนี้ในทุกวันพุธ เขาก็ยังต้องเซ็นเอกสารของเรือนจำอยู่ เอกสารที่ระบุว่าเขาได้รับการดูแลเป็นปกติ ไม่ได้เจ็บป่วย หากเจ็บป่วยก็ได้รับการรักษาตามสิทธิผู้ต้องขัง 

ทนายสังเกตเห็นว่ารอบนี้ผมของวุฒิยาวขึ้นและขาวเยอะมาก ได้คำตอบว่ายังไม่ตัดผม รอออกศาลก่อน แต่ก่อนตอนอยู่ข้างนอกก็มีผมหงอกขึ้นบ้าง แต่อยู่ในนี้มันเครียดชัดเจน ผมเลยหงอกเต็มเลย “ขนาดตัวผมก็ผอมลงมาก ๆ เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรกก็ทักว่าทำไมผอมจัง แต่ผมไม่ได้ชั่งน้ำหนักสักที มันไม่มีที่ชั่ง”

เมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร วุฒิเล่าว่า ที่ส่งเข้ามาได้รับปกติวันละ 2-3 อย่าง “มันมีค่าสำหรับผู้ต้องขังมาก ๆ มาม่าห่อเดียวยังอร่อยเลย เอาจริง ๆ ขนาดผงมาม่ายังมีค่ามาก ๆ เลย”

ด้านสภาพจิตใจตอนนี้ก็ยังดี ก่อนขึ้นศาล ต้องมาลุ้นคำพิพากษา ตอนนี้ก็ปล่อยวางก่อน ยังไงก็อยากให้ผลออกมาดี 

แต่หลังจากออกศาล เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. คดีของวุฒิ ศาลให้เลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 14 ก.พ. 2567 ทำให้เขาต้องถูกคุมขังระหว่างรอฟังคำพิพากษาต่อไป จนถึงปัจจุบัน ( 27 ธ.ค. 2566) วุฒิถูกคุมขังมาแล้ว 275 วัน

ย้อนอ่านคดีของวุฒิ  

.

‘น้ำ’ วารุณี : “ขออย่าให้มีใครต้องเข้ามาอีกเลย” 

วันที่ 18  ธ.ค. 2566 เช่นเดียวกับทุกครั้ง น้ำแต่งหน้าออกมาเหมือนเดิม ทนายคุยเรื่องแนวโน้มของการประกันตัวช่วงนี้ให้ฟัง น้ำยิ้มอ่อน ตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็ติดให้มันจบไปเลย ออกมาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้ประกันตอนนี้มันก็ต้องรออุทธรณ์ ถ้าผลออกมาเป็นยืน น้ำต้องกลับมาติดคุก ชีวิตก็จะสะดุดอีกรอบ ก็รอผลอุทธรณ์เรื่อย ๆ ดีกว่าค่ะ”

สำหรับกิจกรรมปีใหม่นี้ น้ำคิดว่าในโรงพยาบาลน่าจะมีการจับฉลาก ส่วนเรื่องอาหารปีใหม่ น้ำบอกว่าถ้าจะซื้ออาหารพิเศษให้ ต้องให้คนข้างในติ๊กออกมาว่าอยากกินอะไร พิซซ่า เคเอฟซี ส้มตำ ไก่ย่างอะไรก็ว่าไป แล้วให้ญาติมาจ่ายที่เรือนจำ ไม่สามารถสั่งออนไลน์ได้

ก่อนเธอจะกล่าวว่า อยู่ในนี้ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมด เค้าท์ดาวน์กับเพื่อนในคุก แล้วก็ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ แต่ไม่ได้ทำมานานแล้ว คือการจับของขวัญ “น่าจะได้จับนะ ถ้าน้ำไม่ถูกส่งกลับแดนก่อน ก็มีความสุขกับสิ่งที่มีไป ก็คงจะได้สวดมนต์ข้ามปี หลับข้ามปี น้ำขอให้เป็นปีเดียวที่น้ำต้องอยู่แบบนี้”

“สมมติว่าน้ำได้ประกันตัวออกไปก่อนปีใหม่ น้ำก็จะไปฉลองกับเพื่อนก่อน ปกติปีใหม่จะอยู่กับเพื่อน ปาร์ตี้ที่ผับเกาหลี พวกกะเทยก็จะไปเต้น twice กัน (ยิ้ม) ตอนนี้เขานำร่องเปิดผับถึงตีสี่แล้วใช่ไหม ก็รอเลย เรื่องนี้เป็นนโยบายเรื่องเดียวที่น้ำชอบของรัฐบาลชุดนี้ (หัวเราะ) ออกจากผับจะไปใส่บาตรต่อเลย แค่ไม่อ้วกใส่บาตรพระก็พอ แล้วค่อยไปขอขมาพ่อที่พิษณุโลก”

“เรื่องที่คิดถึงช่วงปีใหม่ ก็จะเป็นเรื่องครอบครัวนะ อยากกลับไปหาพ่อ หาน้อง หาหมา อยากไปกินหมูกระทะที่รีสอร์ตเขาค้อ ธรรมดาเนอะ เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ เราก็ต้องอยากอยู่กับคนที่เรารักที่สุด”

น้ำเล่าถึงความหวังว่า “วินาทีที่ได้ออกจากคุก จะให้เพื่อนซื้อดอกไม้กับแชมเปญมา 2 ขวด เปิดแชมเปญให้เหล้าพุ่งใส่หน้าน้ำซ้ายขวาเลย the bitch is back ka (หัวเราะ)”

ก่อนเธอจะประเมินสถานการณ์ว่าในปี 2567 จะมีผู้ต้องขังทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีก “แล้วคนก็จะสนใจเรื่องนี้น้อยลงด้วย แต่ก็โทษเขาไม่ได้หรอก ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป ข้างนอกคงมีข่าวอื่นที่น่าตื่นเต้นกว่านักโทษทางความคิด น้ำเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง แต่ก็ขออย่าให้มีใครต้องเข้ามาอีกเลย คงดีที่สุด

“ไม่ก็ อยากให้ผู้ต้องขัง ม.112 ทุกคน ได้ไปรวมตัวออกโหนกระแสบ้าง อยากบอกว่ามีคนทุกข์ใจอยู่ตรงนี้นะ คิดว่ามันไกลตัวคุณนักเหรอ ลูกคุณอาจจะเผลอรีทวิตข่าว 112 โดยไม่รู้ตัว แบบเน็ตกระตุกตอนนั้นพอดี แล้วก็มีคนไปแจ้งความ ติดคุกเลย 3 ปี เหมือนเวลาเรามือลั่นไลก์โพสต์แฟนใหม่ของแฟนเก่าอะ (หัวเราะ) นี่เป็นเรื่องชาวบ้านมากเลยนะ อยากให้พี่หนุ่มสนใจบ้าง”

จนถึงปัจจุบัน ( 27 ธ.ค. 2566) น้ำถูกคุมขังมาแล้ว 183 วัน

ย้อนอ่านคดีของน้ำ  

.

‘เก็ท’  โสภณ : ตอนนี้ความต้องการของเราคือให้ทุกคนได้กลับไปหาครอบครัวโดยไม่ต้องกลับเข้ามาอีก

วันที่ 19 ธ.ค. 2566 วันนี้ เก็ทฟังเรื่องที่คณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น ซึ่งให้แม่บ้านขึ้นอวยพรบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษา  เก็ทมองว่าเป็นมูฟเมนต์ที่ดี แสดงให้เห็นว่าทุกอาชีพเท่าเทียมกัน เก็ทเล่าเรื่องย้อนไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่ถูกศาลเบิกตัวไป แบบงง ๆ ว่าจริง ๆ ก็เบิกผ่านคอนเฟอเรนซ์ก็ได้ เพราะแค่สอบถามว่าเขายืนยันจะถอนประกันหรือไม่ 

เก็ทบอกอีกว่า ไม่อยากถูกกักตัวแบบนี้อีก จากนี้ไปอีกห้าวัน ญาติก็จะเยี่ยมไม่ได้ วันนั้นศาลถามย้ำกับเก็ทหลายรอบว่าทำไมถึงถอนประกัน ถอนทำไม การที่แม่ที่เป็นนายประกันมาถอนประกันแบบนี้ เก็ทรับได้เหรอ แล้วคดีอื่นมีสิทธิ์ยื่นประกันทำไมไม่ยื่น

เก็ทยังคงยืนยันว่าเป้าหมายของคือผลักดันการนิรโทษกรรม หรือกรณีบาร์ต่ำที่สุดคือผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนต้องได้ประกัน แล้วค่อยมาประเมินกันอีกที เก็ทคิดว่านี่เป็นการต่อสู้ของเขา ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่อยากให้ให้เกียรติการต่อสู้ของเขาด้วย

กับเรื่องการถอนประกันเก็ทกล่าวว่า “สำหรับคนที่อยากให้เราได้ออก เราก็อยากออกนะ แค่เราอยากออกแบบผู้ชนะ ไม่ได้อยากออกไปแป๊บเดียว ก็เข้ามาใหม่” 

ก่อนพูดอีกว่า “ในตอนนี้ความต้องการของเราคือให้ทุกคนได้กลับไปหาครอบครัวโดยไม่ต้องกลับเข้ามาอีก การเข้าออกบ่อย ๆ มันอาจจะแย่กว่าก็ได้นะ ขอบคุณจริง ๆ ที่เป็นห่วงกัน”

จนถึงปัจจุบัน ( 27 ธ.ค. 2566) เก็ทถูกคุมขังมาแล้ว 126 วัน

ย้อนอ่านคดีของเก็ท

.

อารีฟ วีรภาพ: มีความหวังเล็ก ๆ ว่าน่าจะได้ประกัน

วันที่ 19 ธ.ค. 2566 วันนี้อารีฟหน้าตาดูซึม ๆ พอยกหูโทรศัพท์คุยได้ไม่กี่ประโยค เขาก็ถามว่าศาลยกคำร้องขอประกันตัวแล้วใช่ไหม ก่อนจะเล่าว่าช่วงที่ผ่านมามีคนมาหาเยอะแยะเลย แม่ก็มา แล้วแม่ก็แจ้งผลไม่ให้ประกันของศาลเรียบร้อยแล้ว 

อารีฟบอกว่าช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาก็รอลุ้น มีความหวังเล็ก ๆ ว่าน่าจะได้ประกัน คิดแล้วว่าปีใหม่จะได้พาลูกไปเที่ยว แต่พอรู้ว่าไม่ได้ก็เฟลไปเลย หงุดหงิด ดาวน์ไปทั้งวัน เลยเริ่มคิดแล้วว่าถ้าต้นปียังประกันไม่ได้อีก อาจจะปล่อยให้คดีเด็ดขาดและรอลดโทษแทน

อารีฟแจ้งว่าก่อนจะพบทนาย เขาได้ออกพบหมอเรื่องที่เป็นไซนัส สรุปหมอจ่ายยาแก้อักเสบตัวที่แพ้มา เลยไม่ได้กิน ทั้งที่แจ้งไปตั้งแต่วันเข้ามาในเรือนจำแล้วว่ามีแพ้ยาอะไรบ้าง พอไม่ได้กินยาเลยขอล้างจมูกแทน แต่เพราะไม่ได้ขอไซลิงก์ไว้ล่วงหน้าเลยล้างไม่ได้ สรุปวันนี้ออกไปหน้าแดนแล้วก็ไม่ได้กินยาแล้วก็กลับ สรุปได้ยาพาราฯ กับแก้หวัดมากิน แก้อาการไซนัสแทน

ส่วนอาการซึมเศร้า อารีฟเล่าว่า ก็ยังทรง ๆ แต่นอนหลับง่ายขึ้น แต่พอเป็นไซนัสด้วยเลยมีอาการปวดหัวทำให้หลับไม่ค่อยสนิท อาการก็ปน ๆ กันบอกไม่ถูก แล้วแต่จังหวะจะหลับง่ายหรือยาก

ก่อนที่อารีฟจะถามถึงเพื่อน ๆ ผู้ต้องขังการเมืองในแดนอื่น ๆ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง ก่อนอัพเดตว่า ช่วงนี้กับข้าวของเรือนจำเริ่มกินได้บ้าง ข้าวไม่แข็งมาก แกงเริ่มมีเนื้อ อารีฟเล่าว่าเหมือนมันวนลูป ช่วงปลายเดือนอาหารจะกินได้หน่อย พอต้นเดือนมาข้าวเริ่มแข็งอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม เป็นแบบนี้ทุกเดือนเลย

ก่อนวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ทนายเข้าเยี่ยมอารีฟอีกครั้ง อารีฟบอกว่าไซนัสหายแล้ว กินแค่พาราอย่างเดียวแล้วก็หายเอง แต่ตอนนี้เป็นไมเกรนต่อ ปวดหัวเป็นพัก ๆ มักจะเป็นช่วงกลางคืน แล้วก็ชอบลุกตื่นขึ้นมาช่วงตี 2-3 ทุกคืน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเครียดเรื่องผลประกันด้วยหรือไม่ วันนี้เป็นวันคริสต์มาส ในแดนมีการทำกะเพราแจก อารีฟบอกว่าอาหารหลวงวันนี้อร่อยสุดแล้ว ข้าวไม่แข็งด้วย ได้กินอย่างมีความสุข ก่อนเล่าว่าปีใหม่ที่ผ่าน ๆ มาส่วนใหญ่ก็เที่ยวอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ไปไหนไกล ๆ ส่วนตัวปีนี้ก็เคยคิดไว้ว่าอยากเที่ยวแถว ๆ นี้เหมือนเดิม แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว อารีฟบอกว่าอยากให้ยื่นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรมเยอะ ๆ อยากให้มีคนสนับสนุนมาก ๆ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นความหวังให้แก่นักโทษทางการเมือง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การนิรโทษกรรมรวมไปถึงคดีของคนที่ถูกตัดสินผิด ถูกจับมาเพราะกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม จะได้เป็นความหวังของนักโทษทุกคนที่ไม่มีความผิดด้วย หากขอพรได้ในปีใหม่นี้ อยากขอให้ได้กลับบ้านไว ๆ ได้สิทธิประกันตัวไว ๆ อยากกลับไปอยู่กับลูกและครอบครัว อยากขออิสระคืนมา

จนถึงปัจจุบัน ( 27 ธ.ค. 2566) อารีฟถูกคุมขังมาแล้ว 91 วัน

ย้อนอ่านคดีของอารีฟ

.  

เวหา :  อยากให้ทุกวันเวลาที่ผ่านไปเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม

ทนายเข้าเยี่ยมเวหาผ่านโทรศัพท์ในวันที่ 22 ธ.ค. 2566 เนื่องจากเวหาเพิ่งออกศาลไป เวหาเล่าว่าปีก่อน ๆ อยู่หน้าเรือนจำ จัดกิจกรรมให้กำลังใจเพื่อน ๆ ใช้ชื่อกิจกรรมอยู่เป็นเพื่อนย้ำเตือนความยุติธรรม 

“จริง ๆ ปีใหม่ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็อยู่หน้าเรือนจำมาตลอด กับส่วนตัวปีใหม่ปีนี้คิดว่าทุกอย่างเหมือนเดิม และอยากกลับบ้าน อยากให้ทุกวันเวลาที่ผ่านไปเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข ม.112 การนิรโทษกรรม เวลาที่ผ่านไปทุกวันคือเวลาที่เราสูญเสียอิสรภาพไป” 

ก่อนเวหาฝากคำอวยพรปีใหม่ถึงแม่ว่า “ขอให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดี เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง เพื่อที่จะรอเราต่อไป”

จนถึงปัจจุบัน ( 27 ธ.ค. 2566) เวหาถูกคุมขังมาแล้ว 228 วัน

ย้อนอ่านคดีของเวหา  

.

แม็กกี้: พอมาอยู่ข้างในไปไหนไม่ได้เลย ก็คิดถึงข้างนอก คิดถึงอิสระ คิดถึงครอบครัว

วันที่ 20 ธ.ค. 2566 แม็กกี้ทักทายด้วยกันย่อตัวไหว้อย่างสวยงาม เมื่อยกหูคุยกัน เราเห็นว่าเธอยังมีอาการไอเป็นระยะ จึงถามว่ายังไม่หายจากอาการป่วยอีกเหรอ แม็กกี้ยืนยันว่าหายแล้ว แต่รอบนี้เป็นหวัดอยู่ 3 วัน

“ความเป็นอยู่เหมือนเดิมแม่ ตอนนี้ห้องกะเทยเหลือ 35 คน มีคดีที่เด็ดขาดกับถูกจำแนกไปแดนอื่นบ้าง ได้ประกันบ้าง ก็ดีขึ้น นอนไม่เบียดกันเท่าเก่า แต่ยังเต็มห้องเหมือนเดิม”

ก่อนเล่าว่า “วันนี้ได้ออกไปคอนเฟอร์เรนซ์หน้าแดน ศาลฝากขังต่ออีก 12 วัน เพราะตำรวจยังทำสำนวนไม่เสร็จ (ดูเศร้าลง) ก็นอยนะแม่ เห็นบางคนเขามาคอนเฟอเรนซ์แบบนี้แล้ว ก็ได้ประกัน แต่หนูไม่ได้”

“ถ้าได้ออกนะ ปล่อยตัวตอนเย็น หนูจะเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย แล้วก็ไปนั่งรอรถเมล์กลับ จะไปแวะห้วยขวางก่อน ซื้อของกิน ซื้อยำ แล้วก็กลับหอ”

เมื่อเล่าให้แม็กกี้ฟังว่า ผู้ต้องขังอีกคนคือ ‘น้ำ’ วารุณี  ก็จะแต่งหน้าสวยออกมาเจอกันแบบนี้ แม็กกี้หัวเราะ แล้วเล่าเรื่องการแต่งหน้าของแดนชายให้ฟัง “ข้างในกะเทยก็ใช้ดินสอ 2B เขียนคิ้ว บางคนก็เอามากรีดอาย การแต่งหน้าเป็นความสุขเดียวของเราจริง ๆ แม่ หนูก็แต่งหน้าทุกวัน ขนาดเข้าห้องน้ำก็ยังส่องกระจก ชั้นสวย ชั้นมั่นใจ ปากต้องแดง (หัวเราะ)”

สำหรับกิจกรรมปีใหม่ของแดน 8 แม็กกี้คาดว่าน่าจะมีการจัดเลี้ยงอาหารผู้ต้องขัง “น่าจะมีทุกแดนนะแม่ ของแดนหนูน่าจะมีขนมจีน ไอติม ตักกินใครกินมัน ห้อง LGBTQ จะพิเศษหน่อย เพราะเป็นห้องที่ทำกิจกรรม เป็นหน้าเป็นตาให้แดนเยอะสุด อย่างที่ผ่านมาก็มีประกวดกระทง เดินแบบ เต้นเชียร์ลีดเดอร์ เต้นเปิดงาน โชว์ตลกงี้ ผู้คุมเลยตอบแทนด้วยการสั่งอาหารอีสานครบเซ็ตให้ ก็ตั้งหน้าตั้งตารอเลย (ยิ้ม)”

กับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ แม็กกี้บอกเราว่า “คิดถึงการเค้าท์ดาวน์ ไปดูคอนเสิร์ต พอใกล้เที่ยงคืนเค้าจะจุดพลุ โอ้ย มีความสุข พอมาอยู่ข้างในไปไหนไม่ได้เลยก็คิดถึงข้างนอก คิดถึงอิสระ คิดถึงครอบครัว คิดถึงเพื่อน คิดถึงเบียร์ (หัวเราะ) คิดถึงกิจวัตรประจำวันที่ทำข้างนอกน่ะแม่”

ก่อนเธอจะกล่าวว่า “หนูอยากขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้คนข้างใน พวกเราก็จะสู้ต่อไป”

จนถึงปัจจุบัน (27 ธ.ค. 2566) แม็กกี้ถูกคุมขังมาแล้ว 67 วัน คดีของเธอจะครบอำนาจขอฝากขัง 84 วัน ในวันที่ 13 ม.ค. 2567 ต้องติดตามว่าอัยการจะสั่งฟ้องในกำหนดเวลาหรือไม่

ย้อนอ่านคดีของแม็กกี้  

.

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม

บันทึกเยี่ยม 8 ผู้ต้องขัง ‘112’ : ข้างนอกยังร่วมสู้ไปกับพวกเราอยู่ ก็เลยมีกำลังใจใช้ชีวิตในเรือนจำมากขึ้น

X