ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ย. 2566 ทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ยม 3 ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ ได้แก่ “แบงค์” ณัฐพล และ “เก่ง” พลพล ผู้ถูกคุมขังในคดีที่ถูกกล่าวหาร่วมกันเผารถยนต์ตำรวจ สน.ดินแดง หลังเหตุการณ์ชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่ หรือ #ม็อบ11มิถุนา2565 และ ‘ธี’ ถิรนัย ซึ่งถูกคุมขังในคดีครอบครองวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) ก่อนมีการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64
นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยม ไพฑูรย์และสุขสันต์ ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา จำคุก 33 ปี 12 เดือน และ 22 ปี 2 เดือน 20 วัน ตามลำดับ จากกรณีถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บจาก #ม็อบ11กันยา2564 โดยทั้งคู่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
แบงค์ ณัฐพล: ห่วงแฟนที่กำลังท้องมากที่สุด
วันนี้มีเพื่อนและแฟนเข้าเยี่ยมแบงค์ก่อนหน้าทนาย แบงค์นั่งรออยู่ตรงม้านั่งสีน้ำตาลชิดด้านหลังห้องกระจกสำหรับผู้ต้องขังไว้พูดคุยผ่านโทรศัพท์
วันนี้แบงค์ใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้ากางเกงขาสั้นสีน้ำตาลยูนิฟอร์มที่กลายเป็นสิ่งชินตา ผมแบงค์ยาวขึ้นกว่าเดิม สีหน้าสดชื่นกว่าทุกครั้งที่เข้าเยี่ยม อาจจะเพราะเพิ่งได้เจอหน้าแฟนมา แบงค์ยิ้มเขินเล็กน้อย
แบงค์เล่าให้ฟังว่า 3 วันก่อน ที่แฟนไม่เขียนจดหมายมาหา เขากระวนกระวายใจมากว่าแฟนจะเป็นอะไร เพราะท้องอ่อน ๆ อยู่ด้วย แต่เมื่อแฟนมาเยี่ยมวันนี้ สภาพจิตใจก็ดีขึ้น แบงค์บอกว่าช่วงนี้เขาควบคุมจิตใจได้ดีมากขึ้น แต่ภาวะไม่อยากคุยกับใครก็วกกลับมาอีกครั้ง
“อารมณ์บางทีก็ดี บางดีก็หงุดหงิด จนคนในเรือนนอนเริ่มระแวงผมแล้ว” เขาว่า
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้อาการเช่นนั้น แบงค์เล่าว่า
“มันหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้ คิดถึงลูก คิดถึงแฟน แต่ก็ดีใจที่ตัวเองจะได้เป็นพ่อคน แล้วก็กลับมาหงุดหงิดอีกว่าแฟนจะอยู่ไม่ได้ ผมห่วงเรื่องแฟนผมที่สุด”
ส่วนอาการนอนหลับ ชอบตื่นมาตอนเที่ยงคืน แล้วก็จะหลับได้ ในใจก็คิดไปหลายเรื่อง เรื่องแฟนเรื่องลูก แต่เวลาแฟนผมมาเยี่ยม คืนวันนั้นผมจะหลับสบายที่สุด
.
ทนายให้แบงค์ดูโพสต์ที่เล่าเรื่องราวการเข้าเยี่ยมแบงค์และเพื่อน ๆ ผู้ต้องขัง แบงค์มีท่าทีดีใจ แววตาเป็นประกาย เขาขอให้เอาแผ่นกระดาษที่มีเนื้อหาบันทึกเข้าเยี่ยมแนบกับกระจก แม้จะอ่านลำบากอยู่มาก เพราะซี่กรงเหล็กมีขนาดเส้นรอบวงพอ ๆ กับนิ้วโป้งผู้ใหญ่ ทำให้บดบังข้อความในกระดาษ แต่กระนั้นแบงค์ก็อ่านไปยิ้มไป
“มิน่าตะกี้แฟนผมมันแซวผม ผมก็ว่ามันไปรู้จากไหน” แบงค์พูดด้วยสีหน้าเขิน ๆ เขาเล่าว่าปกติเขาจะไม่ค่อยแสดงความรักกับแฟน ไม่ค่อยพูดหวาน ๆ ด้วย
ทนายเล่าถึงข่าวที่เป็นกระแสสังคมตอนนี้ เรื่องที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ถูกออกหมายค้นบ้านพัก กับกลุ่มลูกน้องได้ถูกจับกุมเพราะมีความเกี่ยวโยงกับเว็บพนันออนไลน์ ทั้งหมดได้รับการประกันตัวแล้ว
แบงค์ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “เรื่องการประกันตัวให้มันเท่ากันหน่อย ไม่ใช่ยศสูงจะให้ประกันง่าย ๆ คดีเขาไม่ต่างกับภัยความมั่นคงของชาติ พวกผมแค่มาเรียกร้องสิทธิของตนเอง พวกผมขอยืนยันว่าพวกผมทั้งสี่คนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำการอย่างที่กล่าวหามาทั้งนั้น อยากให้คุณให้ความเท่าเทียม ไม่ใช่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ฝากให้คิด”
.
ทิ้งท้ายแบงค์ฝากข้อความถึงแฟน “อยากกลับไปกินข้าวไข่เจียวฝีมือเธอ ถ้าเธอยังไม่กินข้าวเค้าจะอดตามเธอนะ ดูแลตัวเองด้วย ดูแลน้องบีด้วยนะ รอป่ะป๊าออกไปจะไปจุ๊บเหม่งลูกนะ รักและคิดถึงเสมอ เป็นห่วงเธอมาก ๆ”
ก่อนจบบทสนทนาแบงค์พูดหงอย ๆ กับทนาย “ผมอยากกลับบ้าน”
ปัจจุบัน (2 ก.ย.2566) เก่งและแบงต์ถูกคุมขังมาแล้ว 34 วัน
.
เก่ง พลพล: “วันเกิดผมก็อยู่ในนี้ วันปีใหม่ก็อยู่ในนี้ ลอยกระทงก็อยู่ในนี้ อยู่ในเรือนจำเกือบจะทุกเทศกาลแล้ว”
เก่งเดินออกมาหลังจากที่ทนายคุยกับแบงค์ไปได้สักพัก ท่าทีผ่อนคลาย เก่งนั่งลงฟังข้าง ๆ อย่างสงบ วันนี้เก่งสวมชุดแบบเดียวกันกับแบงค์ เสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ผมสั้นเตียนของเก่งยาวพอ ๆ กับของแบงค์ แม้จะมีท่าทีผ่อนคลาย แต่แววตาเก่งยังดูกังวลอยู่
เก่งกล่าวทักทายเล็กน้อย และเริ่มบทสนทนาด้วยการให้ทนายอัพเดทข้อมูลเรื่องการประกันตัว เก่งหงอย ๆ เมื่อรับฟังสถานการณ์การประกันตัว
ทนายถามถึงอาการหวัดของเขา เก่งเล่าว่า “ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ผมเป็นหวัดเสมอถ้าอากาศแบบนี้ ยิ่งข้างในอยู่รวมกันเยอะ สิ่งแวดล้อมอากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาการป่วยก็เลยเป็นไม่หายสักที แต่ป่วยไม่ได้หนัก เลยไม่ได้ขอยากินเพราะตอนนี้กินยาจิตเวชอยู่ มันเป็นยาพวกคลายเครียด ยานอนหลับ จะกินเฉพาะตอนก่อนนอน
“คือช่วงบ่ายสองทางเจ้าหน้าที่จะแจกยา บ่ายสามเกือบบ่าย 4 โมงจะต้องขึ้นห้อง และผู้ต้องขังต้องอยู่บนนั้นจนกว่าจะถึงอีกวันนึง ตอนนี้อารมณ์มีแปรปรวนคิดเรื่อยเปื่อยให้เวลาผ่านไป มันไม่มีอะไรให้ทำเหมือนข้างนอก พออยู่ในนี้จะทำอะไรก็ไม่ได้อย่างที่อยากทำ”
สำหรับภาวะซึมเศร้า เก่งบอกว่ารู้สึกว่าดีขึ้น แม้มีคิดว่าตัวเองเป็นภาระอยู่บ้าง แต่พยายามอดทน
“แฟนผมมาเยี่ยมเมื่อเช้าก็บอกให้อดทน เดี๋ยวเดือนเมษายนก็ได้ออกแล้ว ถ้าได้ประกัน ก็จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น
“ผมหวังเรื่องประกันมาก เพราะภาระหน้าที่หลายอย่าง พอผมไม่อยู่รายรับมันก็ไม่พอ มีแต่รายจ่าย ตอนนี้ทำได้แค่ฝากแฟนไปดู เราอยู่ในนี้ทำได้แค่นี้ มันก็มีกังวลว่าครอบครัวทำอะไรอยู่ เหนื่อยกับงานมั้ย ผมไม่ได้อยู่ด้วย ก็หวังว่าจะได้ประกันตัวเร็ว ๆ นี้”
ทนายอ่านจดหมายที่มีเพื่อนนักกิจกรรมส่งเข้ามาให้กำลังใจ เก่งมีท่าทีดีใจและขอบคุณที่เพื่อนยังไม่ลืม
เก่งเล่าว่าตอนนี้ที่เรือนจำมีกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ และมีเครื่องออกกำลังกายมาไว้ เช่น ที่ต่อยมวย แต่ยังไม่มีหน่วยงานหรือมีกิจกรรมเรื่องการพัฒนาศักยภาพ
“ตอนนี้เรือนจำแออัดขึ้นเรื่อย ๆ 500 กว่าคนแล้ว คนเริ่มเข้ามาขึ้นทุกวัน ตอนนี้ผมก็รอว่าจะได้พบพี่อานนท์กับบุ๊ค”
“ตอนนี้ผมกินข้าวน้อยลงมากจากน้ำหนักตอนแรก 79 ตอนนี้เหลือ 71 ผมรู้สึกไม่อยากกินเยอะ ข้างในนี้มีขนม มีน้ำขาย ราคาก็พอ ๆ กับข้างนอก พ่อเพิ่งโอนเงินเข้ามาให้ บอกให้ใช้ประหยัดหน่อย เพราะตอนนี้ที่บ้านไม่มีรายได้มากนัก ผมคิดถึงอาหารฝีมือของพ่อ ผมชอบทานข้าวผัดฝีมือพ่อมากพ่อทำข้าวผัดอร่อยที่สุด” เก่งก้มหน้าเมื่อพูดประโยคนี้
.
“ผมอยากได้ประกันภายในปีนี้ อยากออกไปก่อนปีใหม่จะดีมากเลย เพราะสองปีแล้วที่ผมเคาท์ดาวน์อยู่ในเรือนจำ วันเกิดผมก็อยู่ในนี้ วันปีใหม่ก็อยู่ในนี้ ลอยกระทงก็อยู่ในนี้ อยู่ในเรือนจำเกือบจะทุกเทศกาลแล้ว” เก่งพูดติดตลกแต่แววตาเศร้า
.
ธี ถิรนัย: ถูกถากถางเรื่องความคิดทางการเมืองบ่อยครั้ง
ธีเล่าสถานการณ์ในแดน 5 ที่ตอนนี้ห้องที่เขาอยู่มี 38 คน และเขายังได้อยู่กับกิ๊ฟ ทีปกร ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาในคดีมาตรา 112
“ผมกับพี่กิ๊ฟจะคอยคุยเรื่องการเมืองกัน ตอนเพื่อน ๆ หลับหมดแล้ว เพื่อนในห้องไม่ค่อยเข้าใจ ผมรู้สึกว่าหลาย ๆ คนมีอคติกับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหว ผมกับพี่กิ๊ฟจึงเลือกที่จะเงียบ ๆ หลาย ๆ ครั้งเพื่อนนักโทษ ก็ถามว่าทำทำไม มันได้อะไร ผมกับพี่กิ๊ฟก็อธิบายเท่าที่เค้าจะยอมรับ
“ที่ผ่านมา ผมมักจะอ่านหนังสือที่ทนายส่งเข้าให้มาให้ ซึ่งมันเป็นอ่านหนังสือเรียน เพื่อนนักโทษก็มา ‘ถามว่าอยู่ข้างออกขยันอย่างนี้มั้ย พออยู่ข้างนอกก็ออกไปม็อบอีก’ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเค้าต้องการอะไร ผมเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะผมตั้งใจว่าถ้าเรียนอะไรได้ในนี้ ผมก็จะเรียนเพื่อที่ในอนาคต ผมจะใช้ความรู้ความสามารถช่วยคนอื่น แต่เพื่อนในเรือนจำเค้าไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร”
ธียังได้เล่าถึงสถานการณ์ของนักโทษการเมืองในแดน 5 เพิ่มเติม
“ไม่รู้ว่าแดนอื่นเป็นยังไง แต่ที่นี่มีการกดขี่กันแน่ ๆ หลาย ๆ ครั้ง ผมโดนถากถางจากเพื่อนนักโทษ ผมก็อดทน เพราะสิ่งที่ผมหวังคืออิสรภาพ หลาย ๆ ครั้งการอยู่ข้างในนี้ ผมเหมือนคนอ่อนแอเลย แต่ผมก็คอยบอกตัวเองว่าผมทำไมมาอยู่ตรงนี้ ถ้ารัฐมันดี ผมกับพี่มายด์และอีกสามสิบกว่าคน คงไม่มาอยู่ในนี้กัน
“กำลังใจจากคนข้างนอกมันสำคัญกับพวกผมมาก ๆ ขอบคุณทุกคนมากที่คอยติดตามข่าว จากข่าวที่ผ่านมา มันน่าเศร้ามาก ๆ ที่มีคนไม่ได้ประกันเข้ามาในนี้เรื่อย ๆ สังคมมันจะเป็นยังไงนะ ผมก็ยังสงสัย
“แค่พ่นข้อความก็ผิด 112 โพสต์เฟซเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทนายอานนท์พูดก็ผิด 112 คนเห็นต่างทางการเมืองแบบพวกผมต้องถูกเอาเข้าคุกอีกกี่คน” ธีทิ้งคำถามที่ไม่มีใครตอบได้เอาไว้
ปัจจุบัน (2 ก.ย. 2566) ธีถูกคุมขังมาแล้ว 230 วัน
.
ไพฑูรย์: อาหารในเรือนจำราคาแพง
ไพฑูรย์เล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้เขามีอาการเจ็บคอนิดหน่อย โดยไม่แน่ใจว่าติดหวัดหรือไข้มาจากสุขสันต์หรือไม่ เพราะสุขสันต์เพิ่งหาย ไพฑูรย์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว มีเรียกไปตรวจสุขภาพ วัดความดันนิดหน่อย แต่ทางเรือนจำยังไม่ได้ให้ยาอะไร คิดว่าก็คงจะได้พาราฯ มาอยู่ดี
เขาบอกว่าในแดน 6 ที่เขาอยู่นั้นจะเปิดสนามกีฬาให้เล่นเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่เป็นกีฬาประเภทบอล เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ แต่ตอนนี้เขายังไม่มีรองเท้าผ้าใบ จึงยังเล่นกีฬามากไม่ได้
เนื่องจากวันที่เข้าเยี่ยมมีเสียงดนตรีดังมาจากในเรือนจำ ทนายจึงถามไพฑูรย์ว่าข้างในมีงานอะไร ไพฑูรย์ตอบว่า ‘มีงานเยี่ยมญาติใกล้ชิด’
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง เห็นว่าเค้าจะจัดเป็นโต๊ะจีนให้นักโทษกับญาติมานั่งกินข้าวกัน”
ไพฑูรย์ยังเสริมว่าที่นี่มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะกว่าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
“พอเรือนจำจัดกิจกรรมเสร็จ ถ้ามีของกินเหลือ เจ้าหน้าที่จะนำไปขายข้างในต่อตามแดนต่าง ๆ ราคาขึ้นลงตามช่วงเวลา อย่างใกล้เที่ยงหน่อยราคาก็จะแพง พอตกบ่าย ๆ เย็น ๆ ราคาก็จะถูกลงเพราะอาหารใกล้เสียแล้ว อย่าง KFC ขายข้างในก็ 400 กว่าบาท หรือทุเรียน 2 พูก็ 400 กว่าบาทเหมือนกัน ของกินพวกนี้จะมีขายเฉพาะช่วงที่เรือนจำจัดกิจกรรม วันปกติอื่น ๆ ไม่มีขาย ถ้าเค้าจัดกิจกรรมแล้วของกินไม่เหลือ พวกแดนข้างในก็ไม่ได้ซื้อ”
สุดท้ายไพฑูรย์ฝากความคิดถึงไปถึงทางบ้าน ถึงน้าและแฟนว่ายังคิดถึงเสมอ ดูแลสุขภาพด้วย
.
ดั๊ก สุขสันต์: น้ำใช้ไม่สะอาด ผื่นขึ้นเต็มหลัง
สุขสันต์บอกว่าตอนนี้ผื่นขึ้นเต็มหลังและขึ้นที่มือกับนิ้วบ้าง เขายังคงไม่ได้ทายาคิดว่าจะทนเอา และพยายามไม่เกา
“น้ำใช้ไม่ค่อยสะอาด เลี่ยงไม่ได้ มีแค่นั้นให้ใช้” สุขสันต์เล่าติดตลกว่าที่นี่ยิ่งอาบน้ำยิ่งดำ เพราะต้องอาบกลางแจ้ง กลางแดด
“ที่อาบน้ำจะเป็นบ่อปูนใหญ่ ๆ ตรงกลางเปิดโล่งแล้วอาบพร้อมกันทั้งแดน 900 คน ถ้าวันไหนฝนตกก็ต้องอาบน้ำกลางฝน แล้วก็ต้องนอนทั้งอย่างนั้น”
สำหรับการนอนหลับ เขาบอกว่าช่วงนี้ก็ยังคงหลับ ๆ ตื่น ๆ สุขสันต์เล่าว่าเวลานอนจะเอาผ้ามาปิดตาไว้ แล้วก็ฝันบ่อย ๆ ว่าได้กลับบ้านแล้ว ได้ไปอยู่ข้างนอกกับลุงกับป้า แต่พอตื่นมาดึงผ้าปิดตาออกก็อยู่ที่เดิมในเรือนจำ
สุขสันต์ยังฝากบอกทุกคนว่า “อยู่ข้างในนี้จะพยายามเข้มแข็ง แล้วจะได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระสักวันหนึ่ง”
เขาทิ้งท้ายถึงป้าว่า “ที่ป้าชอบคันมืออะหายได้แล้ว ผมเป็นแทนแล้ว”
ปัจจุบัน (2 ต.ค. 2566) ไพฑูรย์และสุขสันต์ถูกคุมขังมาแล้ว 19 วัน
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
บันทึกเยี่ยม 8 ผู้ต้องขังทางการเมืองช่วง 9-12 ตุลาคม
ระหว่างวันที่ 9-12 ต.ค. 2566 ทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ […]
admin23
15/10/2566
บันทึกเยี่ยม ‘ธี-เวหา’: รู้สึกเหมือนถูกลืม แต่เรายังอยู่ เรามีตัวตนในนี้
วันที่ 8 ส.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุง […]
admin23
10/08/2566
บันทึกเยี่ยม ธีรภัทร-ประวิตร-ทีปกร: ผู้ต้องขังหลายคนเป็นหวัด-หวังได้ประกันออกไปพบครอบครัวไวๆ
เมื่อวันที่ 28-31 ส.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำ […]
admin23
01/09/2566
บันทึกเยี่ยม 4 ผู้ต้องขัง: คาดหวังการประกันตัวและเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ไกล
ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. 2566 ทนายความได้เดินทางเข้าเยี […]