ก่อนสืบพยานคดี ม.112 ทำโพลขบวนเสด็จ: ศาลไม่ออกหมายเรียก “คำสั่งปิดการจราจร” ขณะมีขบวนเสด็จ เพื่อใช้ต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฝ่ายจำเลย

สืบเนื่องจากในระหว่างวันที่ 5-8 ก.ย. 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดหมายเริ่มสืบพยานโจทก์ในคดีของ 8 นักกิจกรรม ที่ถูกฟ้องในข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565

ก่อนหน้าการสืบพยาน ทางทนายความได้ยื่นขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานเอกสารที่จะใช้ในการต่อสู้คดีจำนวน 3 รายการ ซึ่งได้เคยระบุไว้ในบัญชีพยาน ตั้งแต่นัดตรวจพยานหลักฐานในช่วงปี 2565 ได้แก่

1. รายงานการจราจรและสภาพการจราจร รวมถึงคำสั่งปิดการจราจร ในบริเวณการเดินทางของขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ภายในกรุงเทพมหานคร ในช่วงปี 2563-64 ที่มีอยู่ในกองบังคับการตำรวจจราจร

2. แผนการรักษาความปลอดภัยในขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีอยู่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล

3. รายละเอียดแผนผังการเดินทางของขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ภายในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงปี 2563-64 ที่มีอยู่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล

หลังการยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลย ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ภาค 2 ลักษณะหมวด 1 และหมวด 2 ไม่ปรากฏรายละเอียดในคำร้องว่าเอกสารที่ขอเรียกมานั้น มีความสำคัญหรือเกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกับประเด็นข้อพิพาทหรือข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 7 อย่างไร เหตุใดจึงจำเป็นต้องขอหมายเรียกเอกสารดังกล่าว ในชั้นนี้จึงให้ยกคำร้อง”

ต่อมาวันที่ 24 ส.ค. 2566 ทนายจำเลยทั้งแปดได้ยื่นคำร้องขอออกหมายเรียกเอกสารดังกล่าวอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยยืนยันว่าเอกสารที่ขอให้ศาลออกหมายเรียกดังกล่าวเป็นเอกสารที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับการต่อสู้คดีโดยตรง เพราะเป็นข้ออ้างที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ และเป็นพยานเอกสารพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยได้อย่างชัดเจน ทั้งเป็นพยานหลักฐานภายนอกซึ่งอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น ซึ่งประชาชนธรรมดาไม่สามารถนำมาด้วยตนเองได้

จากนั้นศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งไม่ออกหมายเรียกเช่นเดิม “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานเอกสารที่จำเลยทั้งแปดขอมานั้นไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นที่จำเลยถูกกล่าวหา ไม่สามารถนำมาใช้พิสูจน์ความจริงในคดีในประเด็นข้อสำคัญได้ หรือจำเลยทั้งแปดอาจไปขอคัดถ่ายเอาเองเพื่อมายื่นต่อศาลได้อยู่แล้ว จึงให้ยกคำร้อง”

ทั้งนี้ ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสารดังกล่าวเป็นครั้งที่สามแล้ว

.

คำร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสารทั้งสองครั้ง

.

สำหรับคดีนี้มีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมด 8 คน ได้แก่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์, ‘บุ้ง’ เนติพร, ‘ใบปอ’, ‘แบม’, วรัณยา แซ่ง้อ, ฐากูร, วรเวช และ ‘บีม’ ณัฐกรณ์ 

อัยการฟ้องโดยสรุปว่า จำเลยทั้ง 8 ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท โดยการร่วมกันทำแผ่นป้ายกระดาษสีขาวขนาดใหญ่ โดยทำให้ปรากฏข้อความที่ส่วนบนของกระดาษว่า “คุณคิดว่า ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือไม่” โดยส่วนด้านล่างของแผ่นกระดาษ ได้ทำการแบ่งออกเป็น 2 ช่อง แล้วทำให้ปรากฏข้อความที่ช่องทางด้านซ้ายมือของผู้อ่านว่า “เดือดร้อน” และที่ช่องทางด้านขวามือของผู้อ่านว่า “ไม่เดือดร้อน” ออกเผยแพร่แสดงแก่ประชาชนทั่วไป

และได้แจกสติ๊กเกอร์สีเขียวเพื่อให้ประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา นำสติ๊กเกอร์ดังกล่าวไปติดที่ช่องที่เลือก อันเป็นการสื่อความหมายเป็นการโจมตีเรื่องขบวนเสด็จ ซึ่งเป็นโบราณราชประเพณีสืบต่อกันมาในการถวายความปลอดภัยให้กับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเจตนาจะสื่อไปถึงสถาบันกษัตริย์ว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ

คดีมีกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ 4 นัด ในวันที่ 5-8 ก.ย. 2566 และพยานจำเลยทั้งหมด 10 นัด วันที่ 24-27, 31 ต.ค. และ 16-17, 28-30 พ.ย. 2566

.

อ่านคำฟ้องคดีนี้

.

ย้อนอ่านสรุปคำฟ้องในคดี ยื่นฟ้อง “ม.112 – ม.116” 8 นักกิจกรรม – สื่ออิสระ แล้ว กรณีทำ “โพลขบวนเสด็จ” ที่พารากอน

อ่านฐานข้อมูลและลำดับเหตุการณ์คดีนี้

.

X