อย่าลืม 4 พล (เมือง) ดินแดง : “พลพล” เสียงจากในเรือนจำที่ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

TW : Suicide / Self – harm

#อย่าลืมฉัน

เก่ง — พลพล นักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุแก๊ส อายุ 20 ปี ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2565 หลังเข้าร่วมชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่ หรือ #ม็อบ11มิถุนา65  ที่บริเวณดินแดง ในวันที่ 11 มิ.ย. 2565 และถูกกล่าวหาจากเหตุที่มีรถยนต์กระบะตำรวจเกิดเพลิงไหม้ โดยศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา ระบุว่ากระทำการรุนแรงในที่สาธารณะ และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินราชการ หากให้ประกันตัว เชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ทำให้เก่งถูกคุมขังเป็นระยะเวลานานกว่า 4 เดือนแล้ว

เก่งเริ่มออกมาร่วมการชุมนุมอย่างจริงจังในวันที่มีการฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุมครั้งแรกที่สกายวอร์ค แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563 หลังจากนั้นเขาก็พยายามไปให้ได้ทุกม็อบ โดยเฉพาะม็อบดินแดง ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่กลางปี 2564

เก่งถือได้ว่าเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความหวังและความฝันที่จะได้ใช้ชีวิตดีๆ เฉกเช่นกับคนธรรมดาทั่วไป เขาหาเลี้ยงปากท้องด้วยตนเอง เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว ตั้งแต่เมื่ออายุยังน้อย เขาเคยรับจ้างเก็บเรือบานาน่าโบ๊ทที่ชลบุรี 

ต่อมาเมื่อเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก็มารับจ้างขนส่งศพกับทางโรงพยาบาลเป็นครั้งคราว เก่งบอกว่าเขาไม่ได้กลัวหรือขยาดศพคนตายเลยสักนิดเดียว อาจเพราะทำงานช่วยพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ “ทำงานพวกนี้มันก็ดีนะ ได้ช่วยเขา ไม่รู้จะกลัวอะไร คนเป็นๆ สิน่ากลัวกว่าคนตายอีก”

เก่ง รับจ้างทำงานทั่วไปมากมาย ในช่วงชีวิตหนึ่งเขาก็เคยรับจ้างทำงานเป็นออแกไนซ์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง “ผมมีเงินให้พ่อเดือนละ 2,000 – 3,000 บาท มีเงินผ่อนรถเอง ผมก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ ถึงมันจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เราก็ได้มีเงินให้พ่อใช้” เป็นคำบอกเล่าของเขาขณะที่อยู่ในเรือนจำ

นอกจากนี้ เก่งยังได้บอกเล่าความฝันในวันที่สังคมการเมืองประเทศนี้ดีขึ้นแล้ว เขาอยากจะเป็น ‘ช่างแต่งรถมอเตอร์ไซต์’ โดยอธิบายว่ามันคือความชอบส่วนตัว “ผมก็พยายามเรียนรู้จากพี่ๆ ช่าง แล้วก็พยายามหาความรู้เองผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยครับ” ตลอดจนเขาได้พยายามศึกษารถจักรยานยนต์หลายๆ ยี่ห้อ เพื่อสะสมประสบการณ์ความรู้และสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง 

เก่งบอกว่า ถ้าเขาเป็นเจ้าของกิจการ มีร้านซ่อมรถเป็นของตัวเองแล้ว คนในครอบครัวของเขาก็จะได้อยู่กันสุขสบายมากขึ้น “ผมอยากเลี้ยงดูคุณพ่อ ไม่อยากให้พ่อต้องลำบาก อยากพาพ่อไปเที่ยว อยากให้ครอบครัวผมมีความสุข” เก่งเล่าพร้อมกับอธิบายความรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่ได้เรียกร้องหรือต้องการให้ตัวเองร่ำรวยมีเงินทองมหาศาล แค่เพียงเขาและครอบครัวมีกินมีใช้ อย่างไม่ขัดสน เขานั้นก็มีความสุขมากๆ แล้ว

อ่านเรื่องราวความฝันของเก่งและเพื่อนๆ ทะลุแก๊ส เพิ่มเติม >>> ฝันที่ไม่กล้าฝัน – ภาพฝันในวันที่การเมืองดี ของ 13 ผู้ต้องขังคดีชุมนุมดินแดง

แต่แล้วความฝันของเก่งก็ต้องชะงักลง เมื่อเขาถูกกล่าวหาดำเนินคดี โดยเก่งเดินทางไปมอบตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 และในวันถัดมา หลังตำรวจส่งตัวเขาไปขอฝากขังต่อศาลอาญา และศาลก็ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวเก่งเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

การใช้ชีวิตในเรือนจำในช่วงวัย 20 ปี ครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเก่ง ในช่วงเดือนมิถุนายนหลังต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทนายความได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊ส พบว่าเก่งมีอาการเครียดหนัก เขาพูดกับเพื่อนที่ถูกคุมขังด้วยกันอย่างสิ้นหวังว่าอยากตาย ในหลายต่อหลายครั้ง และมักจะนั่งเงียบและร้องไห้อยู่เพียงลำพังที่มุมห้องขัง

ความเครียดที่เก่งแบกรับเพียงลำพัง พัฒนาเป็นความสิ้นหวังและซึมเศร้าในจิตใจจนเขาพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพาราเกินขนาดไป 64 เม็ด ในกลางดึกคืนหนึ่ง จนเกือบนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่ทันเวลา โดยหมอได้บอกว่าหากมาช้ากว่านี้อาจทำให้เขาเสียชีวิตได้ 

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2565 ในการเข้าเยี่ยมนักกิจกรรมทะลุแก๊สอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ทราบว่าหลังจากการพยายามฆ่าตัวตาย เก่งได้มีอาการไตอักเสบ แต่มีอาการดีขึ้นแล้ว และต้องนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่ออีกหลายคืน เพื่อให้แพทย์ได้เฝ้าดูอาการต่อไป

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม จากบันทึกเยี่ยมของทนายความ เมื่อวันที่ 4 – 5 ก.ค. พบว่าผู้ต้องขังในกลุ่มทะลุแก๊สหลายคนได้ติดโควิดกว่าครึ่ง ซึ่งเก่งก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเขาบอกว่าตัวเองต้องย้ายไปอยู่ที่ห้องกักตัว แต่โดยรวมอาการก็ไม่ได้รุนแรงมาก พร้อมทั้งบอกว่าสภาพจิตใจของเขานั้นดีขึ้น ไม่ต้องให้น้ำเกลือผสมยา และไม่ต้องไปตรวจเลือดอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องกินยาก่อน-หลังอาหาร 3 เวลาอยู่เหมือนเดิม

ในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากศาลยังคงมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว โดยระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ก็ไม่ได้ทำให้เก่งและเพื่อนๆ ทะลุแก๊สที่ยังอยู่ในเรือนจำหมดหวังแต่อย่างใด พวกเขายังรอให้ศาลคืนสิทธิประกันตัว เพื่อที่จะได้ออกไปสู้คดีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกครั้ง  

เขาได้ทิ้งท้ายฝากบอกต่อศาลไว้ว่า “หากพวกผมได้ประกัน ไม่มีใครคิดหนี เพราะเราไม่ได้ทำผิด อยากให้ศาลพิจารณาให้พวกผมด้วย เราต่างมีครอบครัว มีภาระ ตอนนี้ยินดีรับทุกเงื่อนไข” อีกทั้งเขายังได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าที่ตำรวจกล่าวหาว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์เผารถของเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์ชุมนุม โดยอ้างว่ามีรูปภาพของเขาอยู่ด้วยนั้้น เก่งก็ได้บอกว่า “ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้เลย ตำรวจบอกว่ามีภาพผม แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเลยครับ”

นับจากวันที่ 17 มิ.ย. 2565 จนถึงปัจจุบันเก่ง พลพล ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเป็นระยะเวลาร่วมร้อยกว่าวันแล้ว 

X