ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล “ลุงดร” ไลฟ์สดหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ยืนยันเคยมาทำข่าวบริเวณดังกล่าว แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดี

17 ต.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลของ ภราดร เกตุเผือก ผู้สื่อข่าวพลเมืองเจ้าของเพจ “ลุงดร เกตุเผือก” กรณีตั้งกล้องไลฟ์สดอยู่ใกล้กับประตูทางออกศาล เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 เพื่อติดตามสถานการณ์ของ “บุ้ง-ใบปอ” จากกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกเบิกตัวมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง ในนัดตรวจพยานหลักฐานคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนขบวนเสด็จ ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

>> ผอ.ศาลอาญากรุงเทพใต้ตั้งข้อหา ‘ละเมิดอำนาจศาล’ กับ ”ลุงดร” สื่อพลเมือง เหตุไลฟ์สดเกาะติดบุ้ง-ใบปอหน้าศาล

ณ ห้อง 501 เวลา 09.45 น. ศาลออกนั่งพิจารณา ภายในห้องประกอบด้วยผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา และทนายความมาศาล นอกจากนี้ยังมี “บุ้ง-ใบปอ” ที่มาร่วมให้กำลังใจ และผู้สังเกตการณ์คดีจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยนชนเข้าร่วมสังเกตการณ์คดี โดยวันนี้มีการไต่สวนพยานทั้งหมด 2 ปากด้วยกัน 

ปากที่ 1: ผอ.ศาล ระบุมีการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนทุกราย ไม่ได้เลือกปฎิบัติทางการเมือง

เสรี แก้วไทรเกิด ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ ในฐานะผู้กล่าวหา เบิกความวันเกิดเหตุว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ตนได้รับรายงานจากพนักงานรักษาความปลอดภัยว่า มีบุคคลภายนอกมาไลฟ์สดรายงานข่าวที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ มาทราบภายหลังว่าคือนายภราดร เกตุเผือก โดยมีการตั้งกล้องถ่ายภาพอยู่ตรงบริเวณประตูทางออกในรั้วของศาล ผู้กล่าวหาจึงได้เชิญตัวภราดรมานั่งรอที่บริเวณหน้าห้องประชาสัมพันธ์ของศาล

ต่อมา พยานได้ทำมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำรายงานต่อศาลเกี่ยวกับการถ่ายภาพดังกล่าวเพื่อตั้งเป็นคดีละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญากรุงเทพใต้ เรื่อง มาตรการการรักษาเรียบร้อยและความปลอดภัยในบริเวณศาล ฉบับลงวันที่ 8 มี.ค. 2564 อันเป็นการละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 

ทั้งนี้ ศาลได้สอบถามเสรีว่า ในวันดังกล่าวพยานได้พูดคุยกับผู้ถูกกล่าวหาก่อนหรือไม่ พยานตอบศาลว่าไม่ได้มีการพูดคุยก่อนแต่อย่างใด แต่เชิญตัวภราดรไปเลย

ช่วงทนายผู้ถูกกล่าวหาถามค้าน เสรีเบิกความโดยสรุปว่า ตนรับราชการที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มาตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 โดยพยานยอมรับว่าบริเวณหน้าศาลไม่ได้มีการติดประกาศข้อห้ามให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จุดบริเวณที่สื่อมวลชนสามารถตั้งกล้องไลฟ์สดหรือถ่ายภาพได้คือบริเวณบันไดด้านหน้า ไม่ใช่จุดตรงที่นั่งม้าหินอ่อน ข้างประตูศาลอาญากรุงเทพใต้ 

ทนายถามค้านว่า หากมีการละเมิดอำนาจศาลเกิดขึ้น พยานจะทำรายงานต่อศาลแล้วตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลทุกกรณี ไม่ได้มีการเลือกปฎิบัติเพราะเป็นคดีทางการเมืองใช่หรือไม่ พยานตอบว่า หากได้รับรายงาน พยานก็จะดำเนินการตั้งเรื่องการไต่สวนละเมิดอำนาจศาลทุกกรณี 

ทนายผู้ถูกกล่าวหาถามค้านอีกว่า กรณีละเมิดอำนาจศาล พยานทราบหรือไม่ว่า ‘ธนยศ ศรีทอง’ เจ้าพนักงานตำรวจของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้เคยถ่ายรูปบริเวณเดียวกันกับจุดที่ผู้ถูกกล่าวหาถ่าย  รวมถึงมีการถ่ายรูปในห้องพิจารณาและโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ในประเด็นนี้พยานตอบว่าไม่ทราบ และไม่เคยได้รับรายงานแต่อย่างใด

นอกจากนี้พยานไม่ทราบว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยมาทำข่าวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้จำนวนกี่ครั้ง รวมถึงไม่ทราบว่าที่ศาลอื่นๆ จะมีการติดประกาศห้ามถ่ายรูปหรือไม่ 

ปากที่ 2: “ลุงดร” ชี้ไม่มีเจตนาละเมิดอำนาจศาล ยืนยันไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน 

ภราดร เกตุเผือก สื่อมวลชนอิสระ เบิกความว่า ตนทำอาชีพสื่อมวลชนอิสระมา 2 ปีกว่า เคยไปทำข่าวที่ศาลหลายแห่ง ได้แก่ ศาลอาญา รัชดา, ศาลอาญาธนบุรี, ศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลแขวงดุสิต 

ภราดรเบิกความว่า ปกติไปทำข่าวที่ศาล ศาลจะมีการติดประกาศไว้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง อย่างเช่น ที่ศาลอาญา รัชดาฯ จะมีการติดป้ายประกาศชัดเจนว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ของสื่อมวลชน โดยพยานไม่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดอำนาจศาลมาก่อน ที่สำคัญเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 พยานไม่ได้เห็นป้ายติดประกาศข้อห้ามใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงจุดบริเวณม้านั่งหินอ่อนใกล้ประตูศาลนั้น เป็นจุดที่สื่อมวลชนทำข่าวเป็นประจำ ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่คนใดมาตักเตือนไม่ให้ทำข่าว 

ภารดรเบิกความอีกว่า ตนเคยมาทำข่าวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีใดๆ มาก่อน พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนการพิจารณาคดี หรือฝ่าฝืนประกาศคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น

หลังจากการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 ต.ค. 2565 เวลา 09.00 น. 

.

.

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

สถิติคดี “ละเมิดอำนาจศาล-ดูหมิ่นศาล” ปี 2564-65

X