ศาลให้ประกัน 3 คดีของ ‘ไมค์’ พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามสร้างความเสื่อมเสียต่อกษัตริย์-ห้ามออกนอกเคหสถาน-ติด EM แต่ยังถูกขังในอีก 6 คดี

23 พ.ย. 64 ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว ‘ไมค์’ ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำราษฎร ในคดีมาตรา 112 โพสต์จดหมายถึงกษัตริย์ในกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” 

นอกจากนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังมีคำสั่งให้ประกันตัวภาณุพงศ์ในอีก 2 คดี ได้แก่ คดี #ใครๆก็สวมเสื้อครอปท็อป และคดีสาดสีหน้า สตช. แต่เขายังจะไม่ถูกปล่อยตัว เนื่องจากยังคงมีหมายขังในอีก 5 คดี และยังถูกกักขังในคดีละเมิดอำนาจศาลของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่จะต้องยื่นขอประกันต่อไป 

ศาลอาญาให้ประกันคดี “ราษฎรสาส์น” ให้เหตุผลถูกขังมานานพอที่จะระวังต่อการจะก่อเหตุร้ายแล้ว พร้อมตั้ง 3 เงื่อนไข ห้ามสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์-อยู่บ้าน 24 ชม.-ติด EM

ในคดีนี้สืบเนื่องมาจาก ‘แน่งน้อย อัศวกิตติกร’ สมาชิกกลุ่ม ศชอ. เป็นผู้กล่าวหาภาณุพงศ์กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ว่าการที่เขาโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ “ราษฎรสาส์น” ถึงกษัตริย์นั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14

>> ไมค์ถูกขังอีก! หลังอัยการยื่นฟ้องคดี 112 กรณีโพสต์ ‘ราษฎรสาส์น’ ถึงกษัตริย์ และศาลไม่ให้ประกัน

ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 อัยการมีคำสั่งฟ้องคดี และยื่นฟ้องต่อศาลอาญา โดยรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวภาณุพงศ์ ทำให้เขาต้องกลับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้มาจนถึงปัจจุบัน 

ในคดีนี้ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาลไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 พ.ย. 64  โดยระบุเหตุผลเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหายังเป็นเพียงข้อกล่าวหา ยังไม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด และไม่ได้มีความร้ายแรงจนถึงชีวิต นอกจากนี้จำเลยยังเดินทางไปตามนัดหมายของตำรวจและเจ้าหน้าที่ศาลเสมอ อีกทั้งโจทก์ก็ยังไม่คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวด้วย

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 17.00 น. ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวภาณุพงศ์ในคดีนี้ โดยได้มีรายละเอียดในคำสั่งว่า

“พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยเรื่อยมามีสาเหตุหลักมาจากเกรงว่าจำเลยจะก่อเหตุร้ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 /1 (3)

“ทั้งนี้กฎหมายไทยบัญญัติลงโทษทางอาญาในความผิดต่อความมั่นคง แม้จะมิได้มีการใช้ความรุนแรงด้วยต้องถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอันตราย เพราะมิฉะนั้นย่อมไม่มีเหตุผลที่จะลงโทษทางอาญาเหตุที่เกรงว่าจำเลยจะกระทำความผิดต่อความมั่นคง จึงเป็นเหตุที่จะขังจำเลยไว้ได้

“อย่างไรก็ตามเหตุตามมาตรา 108 /1 (3) นี้อาจเปลี่ยนแปลงไป ในกรณีนี้จำเลยถูกขังมานานพอสมควร พอจะทำให้จำเลยรู้สึกระมัดระวังต่อการจะก่อเหตุร้ายแล้ว ประกอบกับโจทก์ไม่ได้คัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว เมื่อคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของจำเลยแล้ว เห็นควรให้โอกาสจำเลยจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

“โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้จำเลยอยู่ในเคหสถานตลอดเวลา ให้จำเลยติดอุปกรณ์ติดตามตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้แต่งตั้งผู้กำกับดูแล ทั้งนี้ให้ปล่อยจำเลยและให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไข เมื่อคดีอื่นๆ ของจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว”

ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกัน 2 คดี ม.112 สวมเสื้อครอปท็อป-สาดสีหน้า สตช. ด้วยวงเงินรวมสามแสนบาท

นอกจากนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวภาณุพงศ์ ในอีก 2 คดี ได้แก่ คดี #ใครๆก็สวมเสื้อครอปท็อป ไปเดินห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 ซึ่งมีข้อหาหลักตามมาตรา 112 และคดีชุมนุมและสาดสีหน้า สตช. เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 จากการยื่นคำร้องซึ่งภาณุพงศ์เป็นผู้เขียนเองทั้งหมด

ในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ยื่นต่อศาลนั้น ภาณุพงศ์ได้ระบุเหตุผลหลักๆ ด้วยกันทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่

  1. ทุกครั้งที่ถูกดำเนินคดี จำเลยไม่เคยหลบหนี เดินทางไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยตลอด ในคดีที่มีการให้ประกันตัวก็ได้ปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัดและทุกการแสดงออกก็ยึดหลักสันติวิธีและแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
  2. ปัจจุบันจำเลยยังศึกษาอยู่ระดับชั้นปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีความจำเป็นต้องออกไปศึกษาต่อ มิเช่นนั้นจะสูญเสียโอกาสทางการศึกษา
  3. คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง จำเลยไม่ใช่อาชญากร มีความมุ่งหวังอันดีต่อประเทศชาติ ในฐานะคนรุ่นใหม่อาจแสดงออกด้วยความเถรตรงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายแต่อย่างใด
  4. การให้ประกันตัวจำเลยจะทำให้ได้ต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรมและสร้างความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทยต่อสังคมโลก

หลังเขียนคำร้องเสร็จ ภาณุพงศ์ได้มอบหมายให้แม่ของตนเองนำคำร้องดังกล่าวไปยื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในช่วงเช้าของวันที่ 23 พ.ย. 64 

ต่อมา เวลาประมาณ 17.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวภาณุพงศ์ใน 2 คดีดังกล่าว โดยให้วางหลักประกันรวม 300,000 บาท โดยคดีสวมเสื้อครอปท็อปไปเดินห้างสยามพารากอน ศาลให้วางหลักประกันมูลค่า 200,000 บาท และคดีสาดสีหน้า สตช. มูลค่า 100,000 บาท โดยเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ 

ทั้งนี้ จากคำสั่งให้ประกันของศาลอาญาและศาลอาญากรุงเทพใต้ทั้ง 3 คดีของภาณุพงศ์ในครั้งนี้ เขาจะยังไม่ถูกปล่อยตัว เนื่องจากยังคงมีคดีของศาลเดียวกันนี้และศาลอื่นๆ อีกจำนวน 6 คดี ซึ่งทนายจะต้องยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป ได้แก่

คดีของศาลอาญา จำนวน 4 คดี

  1. คดีชุมนุม #ม็อบ2ธันวา ไล่จันทร์โอชาออกไป ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 
  2. คดีชุมนุม #ม็อบ25พฤศจิกาไปSCB ที่บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63 
  3. คดีชุมนุมสาดสี-ปาไข่ บริเวณหน้า ม.พัน4 รอ. เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63
  4. คดีชุมนุม #เยาวชนปลดแอก บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 

คดีของศาลจังหวัดอยุธยา จำนวน 1 คดี

  1. คดีชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป ที่อยุธยา เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 63

คดีของศาลธัญบุรี จำนวน 1 คดี (ศาลลงโทษกักขัง 10 วัน)

  1. คดีละเมิดอำนาจศาล กรณีแสดงออกในห้องควบคุมผู้ต้องขังของศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64

ปัจจุบัน ภาณุพงศ์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มานานกว่า 64 วันแล้ว ซึ่งหากเขาได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในอีก 6 คดีที่เหลือนี้เขาจึงจะได้อิสรภาพอีกครั้ง 

X