ยื่นฟ้องรายที่ 5! คดี ม.112 จาก สภ.บางแก้ว “หนุ่มพนักงานบริษัท” เหตุโพสต์ตั้งคำถามถึงการประหาร 3 จำเลยคดีสวรรคต ร.8

19 ก.ค. 64 เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องคดีของนายวุฒิภัทร (นามสมมติ) พนักงานบริษัทวัย 27 ปี จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใน 2 ข้อหา ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีแสดงความคิดในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส”

ก่อนหน้านี้ วุฒิภัทร เคยได้รับหมายเรียกพยาน จากสภ.บางแก้ว ลงวันที่ 16 ต.ค. 63 ให้ไปให้ปากคำในคดีที่มีนายศิวพันธุ์ มานิตย์กุล เป็นผู้กล่าวโทษร้องทุกข์ เกี่ยวกับการโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันกษัตริย์ เขาได้ไปพบตำรวจตามนัด โดยในตอนแรกนึกว่าเรื่องไม่ได้มีอะไร และเมื่อพบตำรวจเสร็จก็จะจบไป

หากต่อมา ในช่วงปี 2564 เขาได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ เขาจึงได้เดินทางไป ที่ สภ.บางแก้ว เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 64 โดยไม่ได้มีทนายความเดินทางไปด้วย เขาถูก พ.ต.ท.รังสรรค์ คำสุข รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ.บางแก้ว แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาดังกล่าว จากเหตุที่เขาคอมเมนต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ลงในโพสต์ของกลุ่มเฟซบุ๊ก “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” และได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน โดยตำรวจได้ปล่อยตัวเขาไปในระหว่างสอบสวน 

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีให้พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ กระทั่งอัยการนัดหมายฟังคำสั่งฟ้องในวันนี้ และวุฒิภัทรได้ติดต่อทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

อนึ่ง คดีของวุฒิภัทร นับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 5 ของ สภ.บางแก้ว ที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการมีคำสั่งฟ้องคดี หลังก่อนหน้ามีการสั่งฟ้องคดีในข้อหาเดียวกันกับ พิพัทธ์, ธีรวัช, มีชัย และ ปุญญพัฒน์ ทั้งนี้ ทุกคดีที่กล่าวถึงล้วนเป็นคดีที่มีประชาชนเป็นผู้เข้าแจ้งความกล่าวโทษทั้งสิ้น

.

เปิดคำฟ้องชี้กล่าวหา ร.9 หลังตั้งคำถามถึงกรณีประหาร 3 จำเลยคดีลอบปลงพระชนม์ ร.8 

สำหรับคำฟ้องคดี พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการได้บรรยายพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 63 จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กของจำเลย ได้บังอาจดูหมิ่นและหมิ่นประมาทพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ภาค 2 ลักษณะ 1 หมวด 1 อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร 

โดยข้อความดังกล่าวมีใจความเกี่ยวกับกรณีการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 และการตั้งคำถามต่อเหตุการณ์ที่ 3 จำเลยในคดีประทุษร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 ถูกประหารชีวิตไปโดยไม่มีความผิด

ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่าข้อความสื่อความหมายและเป็นการกล่าวใส่ความพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน และสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่านเกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ 

อัยการกล่าวหา ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 มิได้เป็นไปตามที่จําเลยใส่ความแต่อย่างใด จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14

อัยการได้ขอให้ศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานอัยการขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

หลังศาลรับฟ้อง ทนายจำเลยได้ยื่นประกันตัวระหว่างพิจารณา เวลา 16.44 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้อนุญาตให้ประกันตัวจำเลย โดยให้วางหลักทรัพย์ 150,000 บาท โดยเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ 

ศาลกำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิต่อไปในวันที่ 30 ก.ย. 64 เวลา 09.00 น. และนัดพร้อมในวันที่ 25 ต.ค. 64   เวลา 09.00 น.

วุฒิภัทร เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเขาไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ในตอนแรก เขาไปพบตำรวจทั้งตามหมายเรียกพยาน และหมายเรียกผู้ต้องหา โดยคิดว่าเรื่องจะจบ และไม่ได้ติดต่อทนายความไปด้วย แต่พอถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่ได้มีเจตนาจะอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ นอกจากนั้นยังพบว่าอัตราโทษของข้อกล่าวหานี้รุนแรงเกินจริง เมื่อเทียบกับสิ่งที่ถูกกล่าวหา 

วุฒิภัทร ระบุว่าเมื่อถูกดำเนินคดีแบบนี้ ก็สร้างความรู้สึกอึดอัดใจ และไม่รู้ว่าการต่อสู้จะนำไปสู่จุดไหน จะต้องติดคุกหรือไม่ แต่ยังดีที่ครอบครัวของตนเข้าใจในเรื่องนี้ แต่ก็ยังกังวลว่าจะสร้างผลกระทบด้านต่างๆ ให้กับคนในครอบครัว

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่าในคดีมาตรา 112 ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.บางแก้ว มีนายศิวพันธุ์ มานิตย์กุล เป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้จำนวนอย่างน้อย 9 คดีแล้ว โดยทั้งหมดเป็นการไปแจ้งความไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 2563 ผู้ถูกดำเนินคดีหลายรายเคยได้รับหมายเรียกพยานมาก่อนแล้ว ก่อนตำรวจจะเริ่มมีการดำเนินคดีในปี 2564 นี้

ส่วนสถิติคดีมาตรา 112 หลังการเริ่มกลับมาบังคับใช้ตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563  จนถึงปัจจุบัน (19 ก.ค. 64) มีผู้ถูกดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย 110 ราย ใน 107 คดี โดยเป็นคดีที่มีประชาชนเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวน 52 คดี และเป็นคดีที่ สภ.บางแก้ว รวมทั้งหมด 11 คดี

>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64

.

X