13 ม.ค. 2568 เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลจังหวัดธัญบุรี นัดหมายไต่สวนการตายของ “บุ้ง” เนติพร (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง วัย 28 ปี กรณีเสียชีวิตระหว่างอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์ หลังศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งจำคุก 1 เดือนในคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกถอนประกันในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ทำให้ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2567 และเสียชีวิตลงในวันที่ 14 พ.ค. 2567
ศาลอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนตามที่ทนายความของญาติผู้ตายยื่นคำร้อง เนื่องจากญาติผู้ตายประสงค์ให้ทนายตรวจสอบความถูกต้องของพยานเอกสารและซักถามพยานบุคคลก่อน อีกทั้งอัยการผู้ร้องยังไม่ได้ส่งพยานเอกสารตามบัญชีพยานที่เคยยื่นไว้ต่อศาล โดยให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 3 มี.ค. 2568 เวลา 09.00 น.
.
“บุ้ง” เนติพร เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง ข้อเท็จจริงยังคลุมเครือ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2567 บุ้งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ลงโทษจำคุก 1 เดือน ในคดีละเมิดอำนาจศาล จากกรณีเหตุในบริเวณศาลในวันฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 ของ “โฟล์ค” สหรัฐ สุขคำหล้า และในวันเดียวกันนั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังได้มีคำสั่งเพิกถอนการประกันบุ้ง ในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องขอถอนประกันตัว และศาลเห็นว่าพยานหลักฐานยืนยันได้ว่าบุ้งเข้าร่วมชุมนุมและพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอดเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ
ต่อมา ภายหลังการถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ม.ค. 2567 บุ้งได้ปฏิบัติการอดอาหารและน้ำประท้วง โดยมี 2 ข้อเรียกร้อง คือ
- ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
- จะต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก
ระหว่างอดอาหารประท้วง เธอได้ถูกนำตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนจะเสียชีวิตลงในวันที่ 14 พ.ค. 2567 โดยทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้พยายามส่งตัวบุ้งไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเธอไม่มีสัญญาณชีพแล้ว
ข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตของบุ้งยังคลุมเครือว่าสาเหตุการตายเนื่องจากสาเหตุใด แพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องตามมาตรฐานแล้วหรือไม่ รวมทั้งทำให้การทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพไปอยู่ในอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง แทนที่จะอยู่ในพื้นที่ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
.
ต่อมาในวันที่ 4 พ.ย. 2567 พนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องขอไต่สวนการตายของเนติพร โดยคำร้องได้ระบุโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 11.12 น. “บุ้ง” เนติพร ที่ถูกต้องขังอยู่ในเรือนจำ โดยอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ได้ถึงแก่ความตายและได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้ว จึงยื่นคำร้องมาเพื่อให้ศาลทำการไต่สวน และทำคำสั่งแสดงว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และเหตุผลและพฤติการณ์ที่ตาย
อย่างไรก็ตาม คำร้องดังกล่าวเป็นไปตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่เกิดการเสียชีวิตระหว่างอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าพนักงาน เมื่อพนักงานอัยการได้รับสำนวนชันสูตรพลิกศพแล้ว ให้ทำคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ เพื่อให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็นผู้กระทำร้ายเท่าที่จะทราบได้
ทั้งนี้ในวันดังกล่าว พนักงานอัยการได้ยื่นบัญชีพยานต่อศาล โดยระบุว่ามีพยานบุคคล 6 ปาก และพยานเอกสาร 9 อันดับ
.
ทนายแถลงขอเลื่อนไต่สวน เนื่องจากญาติผู้ตายประสงค์ให้ตรวจสอบพยานเอกสารก่อน ซึ่งผู้ร้องยังไม่ได้นำส่งเอกสารเข้ามาในสำนวน และติดใจให้ศาลออกหมายเรียกภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุด้วย
วันนี้ (13 ม.ค. 2568) ที่ศาลจังหวัดธัญุบุรี มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยพบว่า ก่อนถึงเวลานัดหมายพิจารณาคดี มีการปิดประตูทางออกของศาล ส่วนในประตูทางเข้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นายประจำรักษาความปลอดภัยอยู่
บริเวณห้องพิจารณาคดีที่ 2 ซึ่งใช้พิจารณาคดีของเนติพร มีตำรวจศาลจำนวนหนึ่งมาดูแลความปลอดภัยและแจ้งต่อประชาชนที่จะเข้าไปฟังการพิจารณาคดีว่า ให้วางเครื่องมือสื่อสารไว้ข้างนอกห้องพร้อมกับให้แปะกระดาษชื่อของตนเองไว้ เนื่องไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้อง และมีการตรวจกระเป๋าและตรวจอาวุธก่อนที่จะเข้าห้องอีกด้วย
ในขณะเดียวกันนั้น มีประชาชนมาติดตามการไต่สวนเป็นจำนวนมาก โดยในห้องพิจารณาคดีมีทั้งนักกิจกรรม สื่อมวลชน สื่อพลเมือง องค์กรภาคประชาสังคม รวมทั้ง ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคประชาชน มาร่วมติดตามการไต่สวน จนที่นั่งในห้องพิจารณาเกือบเต็มทุกที่นั่ง
เวลาประมาณ 13.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์ ต่อมาทนายความของญาติผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวน เนื่องจากญาติผู้ตายประสงค์ให้ทนายตรวจสอบพยานเอกสารและซักถามพยานบุคคลของพนักงานอัยการผู้ร้อง เนื่องจากผู้ร้องยังไม่ได้ส่งพยานเอกสารตามบัญชีพยานที่เคยยื่นไว้ต่อศาลเข้ามาในสำนวนคดี ทำให้ทนายความและญาติผู้ตายยังไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารดังกล่าวก่อนวันนัดไต่สวน
นอกจากนี้ ญาติผู้ตายยังติดใจขอให้ศาลออกหมายเรียกหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติในวันที่ 14 พ.ค. 2567 โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะเป็นเหตุการณ์ที่เนติพรนอนรักษาตัว กระบวนการช่วยเหลือชีวิต จนถึงช่วงที่ส่งตัวเนติพรขึ้นรถของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่าง 03.00 – 09.30 น.
ส่วนภาพในกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เป็นภาพขณะที่รถของโรงพยาบาลราชทัณฑ์นำตัวเนติพรไปส่งที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ช่วงเวลาประมาณ 09.20 – 11.20 น.
อีกทั้งยังขอให้ศาลออกหมายเรียกรายงานการตรวจสอบสมองและปอดผู้ตาย (CT SCAN) ของวันที่ 14 พ.ค. 2567 อีกด้วย โดยทนายความจะยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานหลักฐานดังกล่าว ซึ่งจะมีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง จากนั้นศาลได้สอบถามญาติผู้ตาย นอกจากประเด็นที่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนี้ และความประสงค์ที่จะขอให้ศาลออกหมายเรียกหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเพื่อนำมาประกอบการใช้ซักถามและนำพยานเข้าสืบแล้ว ญาติผู้ตาย และทนายความไม่มีข้อเรียกร้องอื่นนอกจากนี้
ก่อนศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวน โดยให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 3 มี.ค. 2568 เวลา 9.00 น.
ระหว่างที่รอศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณาคดี “ป้ามล” ทิชา ณ นคร ได้ขออนุญาตศาลแถลงในกรณีที่มีการห้ามนำเครื่องมือสื่อสารเข้าห้องพิจารณาคดี ทั้งที่ในห้องพิจารณาคดีก็มีการติดป้ายห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร ห้ามบันทึกภาพและเสียงอยู่แล้ว การกระทำเช่นนี้จะทำให้ถูกมองว่าเคร่งครัดเกินไป ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลเสียกับผู้สั่งเอง
ศาลแจ้งว่า เนื่องจากผู้บริหารศาลสั่งมาเช่นนั้น ตำรวจศาลจึงมีหน้าที่ต้องทำ และในวันนี้มีมวลชนมาจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องทำเช่นนี้เพื่อความปลอดภัย และขอรับคำแถลงไว้ไปปรึกษากับผู้บริหารศาลสำหรับนัดถัด ๆ ไป
.
ในวันนี้ กลุ่มเพื่อนบุ้ง ยังได้จัดกิจกรรม “คาราวานเพื่อนบุ้ง…มุ่งสู่บัลลังก์ศาล” เพื่อยื่นหนังสือชวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ นายกรัฐมนตรี (พรรคเพื่อไทย) แพทยสภา และกระทรวงยุติธรรม ให้ร่วมจับตาดูการไต่สวนคดีการเสียชีวิตของเนติพร โดยเริ่มขบวนคาราวานจากศาลอาญากรุงเทพใต้ถึงศาลจังหวัดธัญบุรี
.
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
สรุปเสวนา 112 วัน ‘บุ้ง’ เสียชีวิตในการควบคุมของราชทัณฑ์ กับอนาคตของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
แถลงการณ์ 100 วันการเสียชีวิตของ “บุ้ง” เนติพร : ไร้ความจริง ไร้ความยุติธรรม
จาก “อากง” ถึง “บุ้ง” รพ.ราชทัณฑ์ดูแล ‘ชีวิต’ ผู้ต้องขังอย่างไรเมื่อเจ็บป่วย
พรุ่งนี้! ชวนสังเกตการณ์คดีไต่สวนการตาย ‘บุ้ง เนติพร’ ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี