ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. 2567 ทนายความได้เข้าเยี่ยม 5 ผู้ต้องขังผู้ต้องขังคดีม.112 ได้แก่ เวหา แสนชนชนะศึก, “ก้อง” อุกฤษ และ “อารีฟ” วีรภาพ วงศ์สมาน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ “กัลยา” กับ “อุดม”ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส
อากาศยังคงร้อนอบอ้าวเช่นเดิม แต่งานสงกรานต์ในเรือนจำก็พอจะทำให้ทุก ๆ คนที่ถูกคุมขังอยู่รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง “เวหา” “ก้อง” และ “อารีฟ” ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรยากาศในเรือนจำช่วงสงกรานต์สนุกสนานอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่เรือนจำนราธิวาสก็มีการจัดงานสงกรานต์เช่นกัน แต่สิ่งที่ “อุดม” และ “กัลยา” รอคอย คือการเปิดให้เยี่ยมญาติใกล้ชิดช่วงต้นเดือนพ.ค. ทั้งสองได้แต่หวังว่าจะได้เจอครอบครัวของพวกเขาในวันดังกล่าว
.
เวหา: แดน 3 ไม่จำกัดเวลาและปริมาณในการอาบน้ำช่วงหน้าร้อน แต่น้ำกินยังคงมีแค่น้ำก๊อก
17 เม.ย. 2567 วันนี้ทนายเข้าเยี่ยมเวหาผ่านห้องทนายและทักทายตามปกติ ทนายได้ถามถึงช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทางเรือนจำมีกิจกรรมอะไรบ้าง เวหาอัพเดตว่า
“สงกรานต์ปีนี้สนุกสุดเหวี่ยงเลยครับ เพื่อน ๆในแดนสร้างบรรยกาศให้สนุกมากครับ มีการเล่นที่ไม่เหมือนการเล่นน้ำปกติ ซึ่งผมไม่เคยเล่นมาก่อนเลย มีการเล่นวิ่งไล่จับก่อนด้วย เพื่อน ๆในเรือนจำสร้างบรรยกาศให้สนุกมากครับ มีการเปิดเพลงเต้นกัน มีการร้องคาราโอเกะกันด้วย อยู่ในนี้มานานแล้วก็เพิ่งเคยเห็นนี้แหละครับ”
สำหรับอากาศที่ร้อนมากในช่วงนี้ เวหาบอกว่าที่แดน 3 ที่เขาถูกขังอยู่ ไม่ได้ถูกจำกัดการอาบน้ำทั้งเรื่องปริมาณและเวลาในการอาบ แต่ปัญหาของแดน 3 คือ น้ำไหลช้า จึงไม่สามารถใช้น้ำได้เยอะ ในส่วนของน้ำที่ใช้กินนั้น ยังคงเป็นน้ำจากก็อก ซึ่งเวหาบอกว่า “ดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไร” เพราไม่รู้ว่าน้ำที่ผ่านก็อกมานั้นมันผ่านอะไรมาบ้าง แต่เวหาบอกว่าตัวเขาเองไม่ได้กินน้ำจากก็อกเพราะมีเพื่อน ๆ คอยซื้อน้ำมาให้ตลอด
“แต่ถ้าไม่มีจริงๆก็ต้องกินน้ำจากก็อก” เขากล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน (22 เม.ย.) เวหาถูกคุมขังที่เรือนเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 342 วัน
.
ก้อง – อารีฟ : บรรยากาศช่วงสงกรานต์พอจะมีความสุขอยู่บ้าง
18 เม.ย. 2567 ทนายเข้าเยี่ยมก้องกับอารีฟผ่านห้องเยี่ยมทนายความและทักทายตามปกติ ทนายได้ถามถึงบรรยากาศช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่าทางเรือนจำมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ก้องซึ่งถูกขังอยู่ที่แดน 6 เล่าว่า
“สงกรานต์ปีนี้สนุกมากครับ มีกิจกรรมร้องคาราโอเกะ เปิดเพลงเต้นกัน และมีการเอาแฟ้บมาโรยที่พื้นเพื่อสไลด์กันด้วย”
ในส่วนของอารีฟก็อัพเดตว่า สงกรานต์ปีนี้สนุกมากเช่นกันเพราะมีการเปิดเพลงเต้นเหมือนกัน
“ถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีความสุขอยู่เหมือนกันครับ” เขาว่า
ปัจจุบัน (22 เม.ย.) ก้องถูกคุมขังที่เรือนเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 69 วัน ขณะที่เวหาถูกคุมขังมาแล้ว 209 วัน
.
กัลยา: ศาลยกคำร้องขอประกันเป็นครั้งที่ 4 – รอคอยที่จะได้เยี่ยมญาติใกล้ชิด
18 เม.ย. 2567 ทนายเริ่มพูดคุยถึงเรื่องผลการประกันตัวที่ได้ยื่นไปเมื่อต้นเดือนเมษายน 2567 และศาลมีคำสั่งออกมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 ว่า “พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบเหตุผลตามคำร้องแล้ว กรณียังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมของศาลฎีกา ให้ยกคำร้อง” โดยการยื่นประกันรอบนี้เป็นการยื่นเป็นครั้งที่ 4 กัลยาบอกว่าถ้าหากได้ประกันก็เป็นเรื่องน่ายินดีแต่หากไม่ได้ เธอก็จะต้องพยายามใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้ได้
กัลยาเล่าให้ทนายฟังเกี่ยวกับบรรยากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า เรือนจำได้มีการจัดเล่นสงกรานต์ภายในเรือนจำและสำหรับสุขภาพของเธอในช่วงที่อากาศร้อนเช่นนี้ กัลยาแจ้งว่าปวดหัววันเว้นวันและยังคงปวดเข่าข้างซ้ายเหมือนเดิม
พรุ่งนี้ (19 เม.ย.) กัลยาต้องไปโรงพยาบาลนราธิวาส แต่ก่อนออกไปหาหมอ พยาบาลต้องเจาะเลือดและไปฟังผลเลือดที่ รพ.นราธิวาส พร้อมกับทำอัลตร้าซาวด์เส้นหลอดเลือดที่ขา หลังจากกระบวนการตรวจทั้งหมดแล้ว เธอต้องกลับมาที่เรือนจำและถูกกักตัว 5 วัน โดยทนายจะสามารถเยี่ยมได้อีกครั้งเช้าวันพุธ (24 เม.ย.)
กัลยาแจ้งว่าช่วงนี้เรือนจำมีโครงการเยี่ยมญาติใกล้ชิดได้ระหว่างวันที่ 29 เมษายนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม โดยกัลยาได้ลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและญาติจะเริ่มลงทะเบียนในวันที่ 19 เป็นวันแรก เธอบอกว่าญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ถึง 5 คน
ปัจจุบัน (22 เม.ย.) กัลยาถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสมาแล้ว 189 วัน
.
อุดม: แฟนต้องเดินทางกว่าพันกิโล หากอยากมาเยี่ยมญาติใกล้ชิดที่เรือนจำ
ภายหลังพูดคุยกับกัลยาเสร็จสิ้น ทนายก็ได้ตีเยี่ยมอุดมต่อ ทนายทักทายว่าผิวของอุดมดูขาวขึ้นและมีน้ำมีนวล อุดมยิ้มแย้ม สดใส ตอบกลับมาว่า “ผมออกกำลังกายทุกวัน”
ทนายกับอุดมได้พูดคุยกันเรื่องการจัดงานสงกรานต์ในเรือนจำและพูดคุยเกี่ยวกับโครงการเยี่ยมใกล้ชิดของผู้ต้องขัง ซึ่งอุดมเองก็ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าแฟนสามารถที่จะมาเยี่ยมได้หรือไม่ เนื่องจากต้องเดินทางมาประมาณพันกว่ากิโลเมตรและต้องเดินทางคนเดียว เกรงว่าอาจจะไม่สะดวก อุดมรู้สึกกังวลอย่างมาก โดยกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับแฟนของเขา
อุดมยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาในเรือนจำว่าโต๊ะกินข้าวในแดนที่เขาอยู่ไม่เพียงพอสำหรับผู้ต้อง ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 600 กว่าคน
“ต้องกินข้าวเป็นรอบ รอบละ 120 คน ยังกำชับเรื่องเวลากินข้าวให้แค่ 5 นาที” อุดมเลือกที่จะสั่งข้าวเช้ากินเอง เนื่องจากจะกินที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องกินที่โต๊ะ โดยอาหารเช้าจะถูกส่งมาประมาณ 6 โมงเช้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้อุดมแจ้งว่าได้รับการ์ดอวยพรจากพี่ ๆ ส่งมา ฉบับแรกจากป้าจุ๋ม จังหวัดปทุมธานีและคุณธัญญารักษ์ จากกรุงเทพฯ ตอนแรกเข้าใจว่าผู้คุมส่งผิดคนเพราะดูจากชื่อแล้วอุดมไม่รู้จัก แต่เมื่อพลิกชื่อผู้รับดูปรากฎว่าเป็นชื่อของเขา อุดมบอกว่า เขารู้สึกมีกำลังใจอว่าย่างน้อยเขาไม่ได้อยู่คนเดียว คนข้างนอกยังเป็นห่วง
อุดมยังได้ฝากข้อความทิ้งท้ายถึงคนข้างนอกว่า
“ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการที่ไม่ได้ทำอะไรเลย”
ปัจจุบัน (22 เม.ย.) อุดมถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสมาแล้ว 238 วัน