28 มี.ค. 2567 พ่อและทนายความได้ยื่นประกันตัว “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แฟรงค์” ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ต่อศาลอาญาอีกเป็นครั้งที่ 7 ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 กรณีถูกกล่าวหาว่าบีบแตรใส่ขบวนเสด็จของสมเด็จพระเทพฯ โดยวางหลักทรัพย์คนละ 150,000 บาท หลังอาการของตะวันทรุดหนักลงจนอาจเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตจากการอดอาหารประท้วงกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว 44 วัน
ก่อนศาลยังคงมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวทั้งคู่โดยให้เหตุผลว่า “เห็นว่า คดีนี้อยู่ในชั้นฝากขังใกล้ครบระยะเวลาฝากขังแล้ว และศาลนี้เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม”
ในการยื่นประกันครั้งนี้ ทนายความได้หยิบยกข้อเท็จจริงใหม่ที่มีความสำคัญ เพื่อให้ศาลพิจารณาปล่อยตัว คือ ตะวันมีอาการคลื่นหัวใจเต้นผิดจังหวะเนื่องจากโพแทสเซียมและแมกนีเซียมต่ำ ซึ่งหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่รักษาอาการป่วยของตะวันอยู่นั้นแจ้งกับญาติว่า หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและนำไปสู่อาการหัวใจหยุดเต้นหรือเสียชีวิตได้
ส่วนแฟรงค์มีอาการมึนหัว พูดไม่ค่อยได้ ซูบผอม จนน้ำหนักลดลงเหลือ 38.4 กิโลกรัม อาเจียน หายใจลำบากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตัวเหลืองซีด ปากแห้ง ค่าน้ำตาลในเลือดต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว
ด้วยเหตุดังกล่าวในปัญหาเรื่องสุขภาพของผู้ต้องหาทั้งสอง มิได้เป็นเหตุผลที่จะทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองจะหลบหนี หรือเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือเป็นอุปสรรคหรือความเสียหายในการดำเนินคดีในศาลแต่ประการใด
นอกจากนี้ ทนายความได้เน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอีก 4 ประการที่เคยยื่นประกันไปก่อนหน้านี้ ดังนี้
- การไต่สวนคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นการขอฝากขังครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้แถลงต่อศาลว่า ได้สอบสวนคำให้การพยานบุคคลทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียง “รอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน (คลิปวิดีโอ) ว่า มีการแก้ไขหรือดัดแปลงหรือไม่”
ทนายความเห็นว่าขั้นตอนที่เหลืออยู่นั้นเป็นเพียงการตรวจสอบวิดีโอ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของพนักงานสอบสวนแล้ว ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้เบิกความตอบทนายผู้ต้องหาในการไต่สวนครั้งล่าสุดนี้ไว้ว่า ผู้ต้องหาทั้งสองไม่สามารถที่จะแก้ไข เปลี่ยนแปลงใด ๆ ในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ และแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะยังไม่ได้รับผลการพิสูจน์คลิปวิดีโอดังกล่าว การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดต่อการสอบสวนคดีนี้
- ประการสำคัญ พนักงานสอบสวนแถลงต่อศาลในการไต่สวนครั้งล่าสุดไว้ชัดเจนว่า หากศาลจะไม่อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองตามคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 4 ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีนี้ และหากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองระหว่างการสอบสวน พนักงานสอบสวนก็ไม่คัดค้าน
- ทั้งสองถูกคุมขังมาแล้วเป็นเวลา 44 วัน ตลอดระยะเวลาดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสองก็ไม่มีพฤติการณ์ว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
- หากศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวและประสงค์ให้มีผู้กำกับดูแลผู้ต้องหาทั้งสองระหว่างการปล่อยชั่วคราว เสนอให้ศาลแต่งตั้งพ่อของตะวัน ซึ่งเป็นนายจ้างของแฟรงค์ด้วยเป็นผู้กำกับดูแลให้ทั้งสองปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 15.11 น. ของวันเดียวกัน ศาลอาญายังคงมีคำสั่งไม่ให้ประกันตะวันและแฟรงค์เป็นครั้งที่ 7 โดยให้เหตุผลว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้อยู่ในชั้นฝากขังใกล้ครบระยะเวลาฝากขังแล้ว และศาลนี้เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง” ลงชื่อ ธีรวิชช์ ควรเสรี ผู้พิพากษา
ผลของคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวข้างต้น ทำให้ตะวันและแฟรงค์จะยังคงถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนต่อไปเป็นวันที่ 44 แล้ว โดยอยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 4 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 เม.ย. 2567
ทั้งนี้ ในคดีนี้ตะวันและแฟรงค์ถูกกล่าวหาด้วยข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี พนักงานสอบสวนจึงสามารถขอฝากขังระหว่างการสอบสวนได้รวมกันไม่เกิน 48 วัน ทำให้การขอฝากขังครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นการขอฝากขังครั้งสุดท้าย หากพนักงานสอบสวนไม่สามารถสรุปสำนวนคดีและมีความเห็นควรสั่งฟ้องเสนอต่อพนักงานอัยการ ตลอดจนอัยการไม่สามารถสั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลได้ภายในวันที่ 1 เม.ย. 2567 ทั้งตะวันและแฟรงค์ก็จะถูกปล่อยตัวในวันที่ 2 เม.ย. 2567
ปัจจุบันตะวันและแฟรงค์ยังคงอดอาหารประท้วงตาม 3 ข้อเรียกร้องที่ได้ประกาศไว้เป็นเวลามากกว่า 1 เดือนแล้ว ได้แก่ 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีกในอนาคต 3.ประเทศไทยไม่ควรเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
โดยทั้งสองเริ่มต้นประท้วงตั้งแต่วันแรกที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา และเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งทั้งสองถูกย้ายตัวไปโรงพยาบาลนอกเรือนจำตามสภาพอาการที่รุนแรงมากขึ้นตามลำดับ โดยปัจจุบันตะวันอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนแฟรงค์อยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้อง ‘อดอาหารประท้วง’ ชวนฟังเสียง ตะวัน – แฟรงค์ ตลอดการประท้วง 1 เดือน และยังคงไปต่อ