“อยากจะลองสู้ดูให้ถึงที่สุด” ‘สมบัติ’ ยันสู้ต่อชั้นฎีกา หวังแนวโน้มดี หลังได้ลดโทษจากศาลอุทธรณ์เหลือ 4 ปี

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “สมบัติ ทองย้อย” ซึ่งถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีโพสต์ข้อความ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” พร้อมกับอีก 2 ข้อความ กล่าวถึงการทำตัวใกล้ชิดประชาชนและการแจกลายเซ็น ก่อนศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฏีกาจึงถูกคุมขังเรื่อยมา

วันนี้เป็นการเจอกันผ่านจอภาพคอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากพี่หนุ่มยังอยู่ระหว่างกักกันตามนโยบายป้องกันโรคของเรือนจำ อยู่ที่แดน 2 คาดว่าน่าจะได้ย้ายไปห้องขังปกติในวันศุกร์นี้ (29 ก.ย.)

เมื่อถามสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แกก็เล่าว่า เปรียบเทียบกันความรู้สึกระหว่างการเจอกันในการถูกคุมขังครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ และเล่าว่าไปนอนคิดเรื่องการสู้คดีและการประกันตัวมา พี่หนุ่มพูดหลายครั้งในทำนองที่ว่า ‘อยากจะลองสู้ดูให้ถึงที่สุด’ เพราะคิดว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้น คือ โทษลดลงเหลือ 4 ปี จากเดิมที่ศาลชั้นพิพากษาจำคุกไว้ 6 ปี

“เลยคิดว่าถ้าสู้ต่อก็น่าจะมีแนวโน้มที่ดี หวังให้เป็นอย่างนั้น”

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการยื่นประกันสมบัติไปอีกครั้งหนึ่ง แต่ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้องเช่นเดิมเป็นครั้งที่ 2 ของการถูกคุมขังรอบนี้  โดยระบุเพียงว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม แม้ได้ขอเพิ่มหลักทรัพย์ประกันตัว และบรรยายถึงคำสั่งที่ศาลฎีกาเคยให้ประกันในชั้นอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2566 เนื่องจากเห็นว่าเขาไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ในครั้งนี้กลับระบุว่าเกรงว่าเขาจะหลบหนี

พอพี่หนุ่มทราบผลประกัน น้ำเสียงและสีหน้าก็ดูเครียดขึ้นทันที แกแจ้งว่ายินดีรับทุกเงื่อนไขของศาล เพราะที่ผ่านมาก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในศาลชั้นไหนก็ตาม 

“แต่ถ้าสุดท้ายแล้วถ้าประกันไม่ได้ก็ทำใจได้ ติดได้ คดีจะได้จบ จะได้เคลียร์”

สุดท้ายสมบัติฝากความคิดถึงถึงทุกคน ขอบคุณมาก ๆ ที่ยังไม่ลืมกัน และยังคอยดูแลกันอยู่ 

X