‘ทีปกร’ คาดหวังการประกันตัวแต่รู้ว่ายาก - ‘ชนะดล’ นั่งนับวันรอจะได้ออกศาล

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2566 ทนายความได้เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “กิ๊ฟ” ทีปกร หมอนวดอิสระ วัย 38 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี และศาลยังไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์

และ “มาร์ค” ชนะดล ผู้ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี กรณีถูกกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง (ระเบิดปิงปอง) จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 ซึ่งศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างพิจารณา ภายหลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง

กิ๊ฟ ทีปกร: ยังคาดหวังการประกันตัว แต่คงยาก

กิ๊ฟบอกว่าอาการป่วยของเขาดีขึ้น ยังเหลือหวัดและไอนิดหน่อย เขาได้กินยาอมมะเเว้งเเละพาราฯ มากิน คิดว่าไม่นานก็คงหาย ปัจจุบันเขายังมีอาการรองช้ำที่เป็นมานาน เเต่เป็น ๆ หาย ๆ

“ที่เรือนจำเขาจ่ายยาเเก้อักเสบเกี่ยวกับกระดูก-เส้นเอ็นมาให้ กินมา 2 วันเเล้ว อาการก็ดีขึ้น คงเพราะด้วยน้ำหนักเราที่ลดลงด้วย อาการรองช้ำเลยดีขึ้น”

กิ๊ฟเล่าว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ก.ย. หลังการพูดคุยกับทนายความเรื่องข้อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ในเรื่องของข้อเท็จจริง จึงตกลงกันว่าจะยื่นประกันตัวพร้อมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ทนายยังได้เล่าถึงข่าวผลการประกันตัวเเละผลการอุทธรณ์ของคดีที่ใกล้เคียงกัน

กิ๊ฟพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า “การประกันตัวดูเป็นไปได้ยาก และน่าจะมีหวังกับการอุทธรณ์เเทน กว่าอุทธรณ์จะตก ผมก็คงต้องอยู่ในนี้ ถ้าไม่ได้ประกันอีก”

นอกจากนี้กิ๊ฟได้ขอให้อธิบายเรื่องขั้นตอนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคล เมื่อได้ฟังแล้วเขากล่าวว่า “ขั้นตอนยากมาก เอกสารก็ดูยุ่งยาก เเล้วกว่าจะขึ้นไปผ่านการพิจารณาหลายขั้น คนธรรมดาแบบเราคงยากมาก”

กิ๊ฟบอกว่าความเครียดตอนนี้ที่มีส่วนใหญ่เป็นเรื่องคดี แต่ก็พยายามหาอะไรทำให้ไม่คิดถึงอยู่เรื่อย ๆ โดยช่วงนี้เขาอยากได้หนังสือกฎหมายมาไว้อ่าน และสอบถามว่าพอจะหาได้จากทางไหนได้บ้าง

“อยากเริ่มหาความรู้ เเละพอเข้ามาอยู่ในนี้ก็มีความสนใจมากขึ้น” เขาทิ้งท้าย

มาร์ค ชนะดล: นั่งนับวันรอออกศาล 24 ตุลา

มาร์คเริ่มบทสนทนาด้วยการบอกกับว่า เขาทราบเรื่องไม่ได้ประกันตัวมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน

“จริง ๆ เข้าใจว่าไม่ได้ประกันตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว ทุกครั้งที่ยื่นประกัน ผมยังมีความหวังอยู่ตลอด อยากให้ประกันได้สักที แต่พอไม่ได้ มันก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากทำใจ เห็นทนายมาก็รู้ละว่าไม่ได้ แต่ก็ยังดี ได้อัปเดตข่าว ได้พูดคุยเรื่องข้างนอกบ้าง อยู่ข้างใน ผมก็ไม่ค่อยคุยกับใคร มันไม่รู้จะคุยอะไร

“ตอนนี้ผมก็เฝ้ารอวันออกศาล ทุกวันผมนั่งนับวันรอวันที่ 24 ตุลาคมนี้ อีก 40 กว่าวันผมก็จะได้ออกศาลแล้ว รอวันที่ผมจะได้เจอครอบครัว ได้เจอเพื่อน ผมคิดถึงทุกคนมาก ๆ” วันดังกล่าวที่ชนะดลหมายถึง คือวันที่ศาลอาญานัดสืบพยานในคดีที่เขาถูกกล่าวหา

เขาบอกว่า ‘คงจะไม่ยื่นประกันตัวแล้ว รอวันออกศาลค่อยยื่นอีก’ แต่ก็อยากคุยเรื่องคดีกับทนายความก่อนว่าจะเอายังไงดี อยากคิดทบทวนให้รอบด้าน

“สภาพจิตใจผมมันก็ยังไหว มาถึงขนาดนี้แล้ว ถึงมันจะไม่ได้ประกันก็ช่างมัน แต่ก็ยังสู้ ถึงมันจะมีวันที่แย่ มันท้ออยู่แล้วล่ะอยู่ในนี้ ไม่มีวันไหนที่ผมไม่เบื่อ บางวันผมก็ตะโกนว่าเบื่อ เพื่อน ๆ ก็พากันขำกัน ผมก็ขำไปด้วย ผมก็ทำได้เท่านี้ ทุกวันมันคิดตลอดนะว่าพวกผมทำอะไรผิดขนาดนั้น ถึงต้องมาขังกันขนาดนี้

“พอเป็นผู้มีอำนาจไม่เห็นต้องมาเจออะไรแบบนี้เลย มันอดเศร้าไม่ได้นะว่ากฎหมายมันใช้กับพวกจน คนไม่มีอำนาจแบบพวกผมเท่านั้นแหละ ผมและเพื่อนอีกหลายคนถูกจับ ถูกขังตั้งแต่ศาลยังไม่ได้ตัดสินเลย ทั้ง ๆ ที่ผมมารายงานตามที่นัดตลอด เอาอะไรมาบอกว่ากลัวว่าพวกผมจะหลบหนี”

เมื่อคุยไปถึงเรื่องสถานการณ์ของหยก เยาวชนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มาร์คแสดงความเห็นและฝากให้กำลังใจว่า

“แล้วก็รู้สึกตลกนะพี่ที่สังคมเป็นแบบนี้ สังคมมันผิดเพี้ยนไปหมด สงสารน้องที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตั้งแต่ถูกศาลจับขังมันก็แย่มาก ๆ แล้ว เด็กอายุ 14 ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมแค่คิดว่าผมต้องโดนคนว่าแบบนี้ ผมจะอยู่ยังไง ทำไมน้องเข้มแข็งจัง ฝากบอกน้องว่าสู้ ๆ นะ”

นอกจากนี้มาร์คยังบอกว่าเขาเป็นห่วงเอกชัยและเพื่อน ๆ ที่ยังคงอดอาหารอยู่ “ตอนนี้ผมเป็นห่วงพี่เอกชัยมาก ก่อนย้ายไปเค้าดูอาการหนักมาก ๆ มีอาการหนาวสั่น ยิ่งได้ยินอย่างนี้ก็ขอให้พี่เค้าไม่เป็นอะไรมากนะ ไม่รู้ว่าจะต้องมีคนอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัวอีกกี่คน ฝากส่งกำลังใจให้วารุณีและเวหาด้วยนะครับ”