บันทึกเยี่ยมชัยพร-ชนะดล-วุฒิ: ยังหวังสิทธิการประกันตัว – อยากให้นักการเมืองเคารพเสียงประชาชน


ระหว่างวันที่ 16-18 ส.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม  “มาย” ชัยพร ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ในคดีครอบครองวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) ก่อนมีการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64 มายไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2566 ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ก่อนลดเหลือ 3 ปี ขณะนี้ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาไปแล้ว

นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยม “มาร์ค” ชนะดล ผู้ถูกคุมขังระหว่างพิจารณา ในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง (ระเบิดปิงปอง) จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 หลังอัยการยื่นฟ้อง ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันมาร์คระหว่างพิจารณา 

และยังได้เข้าเยี่ยม “วุฒิ” วัย 50 ปี ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2566 เนื่องจากถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 12 ข้อความ และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 

.

“มาย” ชัยพร: “ประเทศเรายังเน่าเฟะอยู่แบบนี้ จะเอาอะไรไปก้าวทันโลก”

มายบอกกับทนายว่าตนยังสบายดี “แต่ต้องยอมรับว่าอยู่ข้างในเสียสุขภาพจิต อยู่ข้างนอกยังพอทำอะไรได้บ้าง 

เขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัวว่า

“แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าทีมทนายพิจารณาแล้วว่าช่วงนี้ยังไม่ใช่ช่วงที่เหมาะสมกับการยื่นประกัน ค่อยยื่นตามแผนที่วางไว้ก็ได้ คืออยู่ในเรือนจำมันไม่ค่อยรู้ข่าวสารครับ เบื่อ ไปไหนไม่ได้ ตอนอยู่ข้างนอกเห็นว่าบ้านเมืองมันแย่ยังพอออกไปเคลื่อนไหวอะไรได้ พออยู่ข้างใน ได้ยินข่าวแย่ๆ แต่ละทีก็ทำอะไรไม่ได้เลย อยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์”

มายขอให้ทนายเล่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลช่วงนี้ให้ฟัง จากนั้นจึงแสดงความคิดเห็นว่า


“การเมืองมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ขนาดพรรคที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากประชาชนยังเป็นรัฐบาลไม่ได้เลย มันไม่สมเหตุสมผล แล้วมันก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงด้วย


“สว. นี่มีหน้าที่รับใช้เผด็จการเหรอครับ ผมไม่พอใจเลยที่มีการเอา ม.112 มาใช้เพื่อจับกุมประชาชน บางคนยังไม่ทันทำอะไรเลย มันควรจะมีขอบเขตบ้าง ไม่ใช่จับไปทั่วแบบนี้ ดูแล้วน่าเกลียดเกิน

“เราใช้ชีวิต เรากลัวการทำผิดกฎหมาย แต่กลายเป็นว่าคนที่ทำผิดจริงๆ ไม่ได้รับโทษ เราก็รู้สึกแย่ แล้วจะมีกฎหมายไว้ทำไม

“การที่เพื่อไทยทำแบบนี้ มันไม่ต่างจาก สว. เลย เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ ประชาชนส่วนใหญ่เค้าเลือกมา เค้าก็อยากให้ประเทศมันดีขึ้น โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ประเทศเรายังเน่าเฟะอยู่แบบนี้ จะเอาอะไรไปก้าวทันโลก”

นอกจากนี้มายยังแสดงความเห็นเรื่องการเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท จากที่จ่ายแบบถ้วนหน้า เป็นแบบสงเคราะห์ ต้องพิสูจน์ความจนก่อน เนื่องด้วยเงินคงคลังไม่พอ

“ผมเห็นนโยบายแจกเงินต่างๆ เหมือนเอาผักชีโรยหน้าแต่ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจจริงๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่มีเงิน นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นนายกฯ จะต้องแก้ปัญหามากมายขนาดไหน” มายทิ้งท้าย


ปัจจุบัน (21 ส.ค.) มายถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 188 วัน หรือกว่า 6 เดือน

.

“มาร์ค” ชนะดล: ผมยังมีหวังทุกรอบ หวังว่าศาลจะให้สิทธิประกันตัวผมและนักโทษการเมืองคนอื่นๆ

เมื่อเจอหน้าทนายความ มาร์คบ่นว่าช่วงนี้เรือนจำไม่ค่อยได้เปิดข่าวให้ดู

“ผมก็ไม่ค่อยได้ตามเท่าไหร่เลย เค้าไม่เปิดก็ไม่รู้จะตามยังไง บวกกับมันเบื่อๆ ตามไปบางทีก็เครียดกว่าเดิม ยิ่งพี่บอกว่า เพื่อไทย จับมือกับ รวมไทยสร้างชาติ ก็โชคดีละประเทศไทย”
 

มาร์คซึ่งแสดงความคิดเห็นทางการเมืองทุกครั้งที่ทนายมาเยี่ยม ยังคงระบายความอึดอัดใจของเขาให้ฟัง

“ฟังแล้วก็น่าเบื่อ แทนที่พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนจะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน กลับเห็นแต่ประโยชน์ตัวเองกับพรรคพวกแบ่งผลประโยชน์กัน ประชาชนจะลำบากแค่ไหนก็ไม่เห็นหัว เค้าทำแบบนี้ จะให้มีการเลือกตั้งทำไม เสียงของเราที่เลือกไปก็ไม่มีความหมายเลยอะดิ ผมมองไม่เห็นอะไรเลย เหมือนไม่มีอนาคตเลย อยากให้พรรคการเมือง นักการเมืองเคารพเสียงประชาชน”


มาร์คบอกอีกว่ายิ่งเวลาผ่านไปการใช้ชีวิตในเรือนจำก็ยากขึ้นแม้ได้รับกำลังใจเสมอ

“ทุกวันนี้ผมก็ยังพยายามหาอะไรทำอยู่ตลอด แต่ว่ามันก็เหมือนเดิม มันยากขึ้นในทุกวัน พี่ๆ กับเจ้าหน้าที่ก็คอยให้กำลังใจตลอด มันก็มีกำลังใจสู้แหละ แต่มันก็เหนื่อยมากๆ

สิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงก็คือสุขภาพของแม่

“อยากจะออกไป อยากกลับบ้านไปดูแลแม่ ให้แม่ได้ผ่าตัด ไปดูแลยาย ทุกครั้งญาติลงเยี่ยมไลน์ แค่เห็นสภาพบ้านที่ไม่มีผม ผมก็รู้เลยว่ามันแย่ลง ผมร้องไห้เลย มันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทุกวันนี้ก็ภาวนาให้ได้ประกันสักที เฝ้ารอวันได้ออกศาล ผมจะได้ออกศาลพร้อมพี่เอกชัย 24, 25 ตุลาคม นี้

“ผมก็ยังมีหวังทุกรอบ หวังว่าศาลจะให้สิทธิประกันตัวผมและนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ด้วย

“ฝากบอกที่บ้านว่าไม่ต้องห่วง ผมอยู่ได้ อยากให้ที่บ้านดูแลตัวเองดีๆ”

ปัจจุบัน (21 ส.ค.) มาร์คถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 160 วัน

.

วุฒิ: ผมจะเอาปัญญาที่ไหนมาหลบหนี – ยังหวังได้ออกจากเรือนจำเร็วๆ

วุฒินั่งรอทนายด้วยท่าทีค่อนข้างเครียด เขาบอกว่าช่วงนี้คิดมากขึ้นอีก เนื่องจากเป็นเวลานานแล้วทีไม่ได้ประกันตัว 

“สัปดาห์ก่อนแฟนมาเยี่ยม ก็ทราบว่าแฟนลำบากมากๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง”
 

ทนายความได้อธิบายว่ายื่นประกันตัววุฒิไปจำนวน 5 ครั้งแล้ว แต่ผลคำสั่งยังออกมาเหมือนเดิมคือ ยกคำร้องการขอประกันตัว เขาแสดงความเห็นด้วยใบหน้าเศร้า

“ผมอยากรู้ว่าศาลต้องการอะไรจากเรา เราต้องทำยังไงหรอครับทนาย การยกคำร้องก็ยกคำร้องแบบเดิมๆ มีอะไรอยากให้ผมทำ บอกมาเลยไม่ได้หรอ ผมจะเอาอะไรไปหลบหนี แค่กลับไปทำมาหากินก็ยังไม่รู้จะทำอะไรได้บ้าง จะเอาปัญญาที่ไหนมาหลบหนี”

วุฒิยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในการตั้งรัฐบาล

“ฟังข่าวการเมืองแล้วก็เบื่อ แต่ก็ยังหวังว่ามันจะต้องเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยอยากตั้งรัฐบาลแบบนี้ แต่สุดท้ายก็คงไม่ได้เป็นนายกฯ หรอก เผด็จการมันคงหลอก เพื่อไทยก็เสียเอง เห็นแล้วก็เศร้านะครับ พรรคที่เคยเป็นความหวังของประชาชนมายาวนาน สุดท้ายมาเผยตัวเองแบบนี้ ไม่เคารพเสียงประชาชน อ้างมั่วซั่วไปหมด”
 

จากนั้นเขาได้ฝากบอกให้แฟนดูแลตัวเองดีๆ และขอบคุณทุกคนที่ยังเป็นกำลังใจให้เขา 

“เป็นห่วงเค้ามากๆ ผมอยู่ในนี้ ผมอยู่ได้ ไม่อยากให้เค้าคิดมาก
 

“ขอบคุณทุกคนที่ยังคอยติดตามข่าวผู้ต้องหาทางการเมืองและขอเป็นกำลังใจผู้ต้องหาทางการเมืองทุกคนครับ ผมหวังว่าเราจะได้ออกไปจากที่นี่เร็วๆ”

ปัจจุบัน (21 ส.ค.) วุฒิถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 148 วัน หรือเกือบ 5 เดือน

X