บันทึกเยี่ยมทีปกร-วัฒน์ : ความเจ็บป่วยหลังฉีดวัคซีนโควิดและการปรับตัวในเรือนจำ

26-27 ก.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม 2 ผู้ต้องขังทางการเมือง ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวซึ่งทั้งคู่จะไม่ได้พบทนายความและญาติเป็นเวลาหลายวัน ได้แก่ “วัฒน์” (นามสมมติ) ช่างตัดผมจากราชบุรีวัย 29 ปี อีกหนึ่งผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 จากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหาชื่นชมในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่วิพากษ์วิจารณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563 และ “กิ๊ฟ” ทีปกร หมอนวดอิสระ วัย 38 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี และศาลอุทธรณ์ยังไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์ 

.

“กิ๊ฟ” ทีปกร: หน้ามืด-ใจสั่น ตั้งแต่ฉีดวัคซีนโควิด ฝากอวยพรวันเกิดลูก ไม่หวังได้ออกไปทัน

กิ๊ฟเล่าว่า อาการไม่สบายของเขามีทีท่าจะหนักขึ้น โดยมีอาการบ้านหมุน ทรงตัวไม่ได้ มือเท้าชาเเละเย็น หายใจไม่ค่อยสะดวกตอนประมาณตี 1 ของวันที่ 26 ก.ค. กิ๊ฟบอกว่าตนเองกินอาหารปกติ แต่อาการหน้ามืดเเละใจสั่นก็ยังคงเป็นอยู่ โดยเป็นตั้งเเต่ที่ฉีดวัคซีนโควิดมา 

เขาบอกว่าวันนี้ตอนเช้าก่อนมาพบทนาย ได้ไปสถานพยาบาลหน้าเเดนมา และถูกเจาะเลือดไปตรวจ ก่อนเจ้าหน้าที่แจ้งว่าน้ำตาลต่ำและฉีดยาให้ เจ้าหน้าที่ยังบอกว่า อีก 4 วัน ให้ไปเบิกยาที่หน้าเเดนในตอนเช้า 

“หมอก็บอกว่าเป็นอาการของคนเเก่ ไม่ได้เป็นไรมาก เลยให้กลับเเเดนไม่ได้ส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาล” 

กิ๊ฟเล่าต่ออีกว่า ขณะที่เขาจะลงจากเตียงผู้ป่วยก็เกิดจากอาการบ้านหมุน ทำให้เสียการทรงตัว เเต่หมอพูดคล้ายเหน็บเเนมว่า ตอนมายังเดินมาได้เลย แต่ความจริงเขามาที่สถานพยาบาลโดยมีคนช่วยพยุง และตลอดเวลาที่เขาเริ่มป่วย โชคดีที่เพื่อนในห้องนอนมีคนที่เคยเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เลยช่วยสังเกตอาการเบื้องต้นให้ 

กิ๊ฟยังคงไม่ชอบแดน 5 และอยากกลับไปอยู่แดน 4 เขาบอกว่าที่เเดน 5 ไม่ค่อยมีร่มเงาให้อยู่ ถ้ามีก็อาจจะมีเจ้าของเเล้ว (หรือเรียกอีกชื่อว่า บ้าน) ทำให้เขาก็ไม่กล้าไปนั่ง กลัวเกิดปัญหา แต่เเดน 4 ไม่มีอะไรแบบนี้ ทำให้ใช้ชีวิตง่ายกว่า 

“ตั้งเเต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ถูกเจ้าหน้าที่ในแดนจับตาดูอยู่ตลอด มีการถ่ายรูปขณะเราทำกิจวัตรประจำวัน พอถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่า เป็นนโยบายจากข้างบนที่ต้องคอยติดตามผู้ต้องขังคดี 112 เเละก็มี ผบ.เเดน เรียกไปคุยส่วนตัวว่า ให้อยู่ในกฎระเบียบ เช่น เวลาร้องเพลงชาติก็ต้องร้อง เพลงสรรเสริญเปิดก็ต้องลุกยืน เพราะในเเดนก็มีฝั่งตรงข้ามอยู่เยอะ เดี๋ยวเราจะเป็นอันตรายถ้าเราเเสดงตัว เเสดงออกทางการเมืองมากไป” 

กิ๊ฟดูเหมือนจะเข้าใจ และเห็นว่า ผบ.เเดน น่าจะบอกด้วยความเป็นห่วง เเต่การตามถ่ายรูปทำให้เขารู้สึกแปลกๆ 

กิ๊ฟทิ้งท้ายด้วยน้ำตาคลอว่า “ฝากอวยพรวันเกิดภรรยาเเละลูกชาย” เขาบอกว่า ปกติเขาจะต้องอวยพรวันเกิดภรรยาเเละลูกด้วยตัวเองทุกปี เเต่ปีนี้คงไม่ได้ไปอวยพร หวังว่าปีหน้าจะได้เจอกัน

ปัจจุบัน “กิ๊ฟ” ถูกขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 40 วัน

.

วัฒน์: จำแนกไปแดน 3 แล้ว ตอนนี้หวังได้ลดโทษบ้าง – ได้ออกเร็วกว่าปีครึ่ง

วัฒน์นั่งรออยู่แล้ว โดยมีสีหน้าเรียบเฉย เขาอยากฟังข่าวการเมืองข้างนอก เพราะเชียร์พรรคก้าวไกลอยู่ แต่หลังจากได้ฟังสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลแล้วเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ระหว่างการพูดคุย เขายังคงหัวเราะบ้าง สีหน้าท่าทางปกติ ดูไม่มีความกังวลอะไร

วัฒน์บอกว่า ตอนเย็นวันนี้ (27 ก.ค.) เขาจะได้แยกแดนแล้ว จากที่เดิมจะแยกแดนวันพรุ่งนี้ แต่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เรือนจำจึงเลื่อนเป็นวันนี้เลย เขาจะได้ไปแดน 3 เห็นว่า มีเพื่อนที่โดนคดี 112 และคดีระเบิดอยู่ที่นั่น 2-3 คน เขาคิดว่า คงเหงาน้อยลงบ้างเพราะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์

ทนายความได้พอสอบถามถึงความเป็นอยู่ข้างใน วัฒน์ตอบว่า 

“ผมอยู่ได้ ปรับตัวได้แล้ว ทำใจมาแล้วว่ายังไงก็คงต้องติดยาว ไม่ได้ลำบากอะไร เคยอยู่มาก่อนและครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร” วัฒน์บอกว่านักโทษคนอื่นๆ ไม่มีท่าทีอะไรหลังจากรู้ว่าเขาโดนคดี 112 มา ทุกคนก็ยังคงปกติ 

วัฒน์พูดถึงการถูกคุมขังของเขาว่า

“ผมไม่ได้คาดหวังเรื่องออกไปข้างนอกระหว่างนี้แล้วนะ ติดให้มันจบๆ ไป แต่อยากรู้เรื่องเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ”

“ผมไม่ได้หวังให้เขาอภัยโทษแล้วออกเลยนะ แค่ลดให้ผมอีกหน่อย อย่างผมเคยนั่งนับดูว่าน่าจะได้ออกประมาณมกรา 68 ถ้าได้ลดบ้าง ได้ออกก่อนปีใหม่ (ธันวา67) ก็ยังดี” 

สิ่งที่เขาต้องการ ณ ตอนนี้มีเพียงเสื้อและกางเกงอีก 3 ชุด เพื่อจะได้ไม่ต้องลุ้นว่าแห้งทันไหมหากฝนตก และอยากฝากบอกคนเยี่ยมว่า ไม่ต้องฝากขนมเข้ามา เขาอยากได้ น้ำแพ็ค นมแพ็ค หรือมาม่า กาแฟ เขาบอกว่า 

“แค่นั้นก็พอแล้ว ไม่อยากได้อย่างอื่น”

ปัจจุบันวัฒน์ถูกขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 12 วัน

X