จับตา สืบพยานนัดสุดท้าย ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี ม.112 คดีแรกของ “อานนท์ นำภา” เหตุปราศรัย #ม็อบ14ตุลา63 

วันที่ 4-5 ก.ค. 2566 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ กำหนดนัดสืบพยาน 2 นัดสุดท้าย ก่อนจะนัดฟังคำพิพากษา ในคดีของ “อานนท์ นำภา” ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาหลักตาม “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อกล่าวหา จากกรณีการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 

การชุมนุม #ม็อบ14ตุลา63 มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1. ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก 2. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งวันดังกล่าวมีการเคลื่อนขบวนไปปักหลักชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยอานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์ และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยในเหตุวันชุมนุมดังกล่าวด้วย แต่คดีของพริษฐ์ ปนัสยา และพวกอีก 7 คน ถูกแยกฟ้องไปอีกคดีหนึ่งที่ศาลแขวงดุสิต เนื่องจากมีข้อหาหลักคือฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และขัดขวางจราจร ซึ่งคดีอยู่ระหว่างรอสืบพยานในช่วงปลายปี 2566 นี้

คดีนี้มี พ.ต.ท.กฤติเดช เข็มเพชร์ รองผู้กำกับสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ กับพวก เป็นผู้กล่าวหา 

หลังอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาล ศาลได้ดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปแล้วทั้งหมด 6 นัด จำนวน 19 ปาก ระหว่างวันที่ 20-28 มิ.ย. 2566 และยังเหลือสืบพยานจำเลยเป็นนัดสุดท้าย ในวันที่ 4-5 ก.ค. 2566 ซึ่งอานนท์จะอ้างตัวเป็นพยานจำเลยขึ้นเบิกความด้วยตัวเอง 

ระหว่างการสืบพยานโจทก์ที่ผ่านมา อานนท์ซึ่งทำหน้าที่ทนายความในคดีนี้ด้วยตัวเองได้ให้ข้อมูลระหว่างถามค้านพยานโจทก์ส่วนหนึ่งไว้ว่า การปราศรัยข้อความตามฟ้องนั้นมีเจตจำนงเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมและใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุมในวันกล่าวซึ่งมีมากกว่า 6,000 คน โดยไม่มีเจตนาจะกล่าวให้ร้ายในหลวง รัชกาลที่ 10 แต่อย่างใด

ย้อนกลับไปในเหตุการณ์ชุมนุมวันดังกล่าว มีมวลชนทยอยมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประกาศให้เลิกการชุมนุม ไม่เช่นนั้นแล้วจะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุม แต่อานนท์ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ตำรวจประกาศจะสลายการชุมนุม แต่ก็ปล่อยให้การชุมนุมดำเนินไปจนยุติลงในเวลาหลังเที่ยงคืนของอีกวันหนึ่ง และเมื่อการชุมนุมยุติลง ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงค่อยเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมแกนนำรวมถึงผู้ชุมนุมบางส่วน

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันอานนท์ถูกดำเนินคดีอันเนื่องจากการแสดงออกและการชุมนุมที่มีข้อหาหลักเป็นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 14 คดี โดยเป็นคดีที่อยู่ในชั้นศาลแล้วจำนวน 13 คดี โดยคดีนี้นับเป็นคดีของอานนท์ที่ใกล้สืบพยานแล้วเสร็จ และศาลจะกำหนดนัดฟังคำพิพากษาเป็นคดีแรก 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ขณะรับทราบข้อกล่าวหาคดีนี้ – ตร.แจ้ง “ม.112” อานนท์ ส่วนเพนกวินโดน “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” กรณีชุมนุม #ม็อบ14ตุลา

คำฟ้องคดีนี้ – เปิดคำฟ้องคดี ม.112 “อานนท์” ปราศรัย #ม็อบ14ตุลา63 เดินขบวนเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

แจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ชุมนุม 7 นักกิจกรรม #ม็อบ14ตุลา “ไผ่” ถูกดำเนินคดีด้วยแม้ถูกจับกุมตั้งแต่13ตุลา

X