อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 ของ “อาเล็ก” กรณีถ่ายทอดสดขณะเล่นกีต้าร์ร้องเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ระบุเนื้อเพลงใส่ร้ายป้ายสี ร.9 กับ ร.10

วันที่ 5 เม.ย. 2566 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5) มีคำสั่งฟ้องคดีของ “อาเล็ก” โชคดี ร่มพฤกษ์ กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร วัย 53 ปี ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการถ่ายทอดสดขณะเล่นกีต้าร์ร้องเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ในกิจกรรมเดินขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในโอกาส #8ปีประยุทธ์ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มายังทำเนียบรัฐบาล ในช่วงหัวค่ำวันที่ 23 ส.ค. 2565

สำหรับคดีนี้มี พ.ต.ท.บุญโปรด แสงทับทิม สารวัตรสืบสวน สน.นางเลิ้ง เป็นผู้กล่าวหา โดยในวันที่ 11 ม.ค. 2566 ประชาชนกลุ่มอิสระได้จัดขบวนแห่ขันหมาก เดินเท้าจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อส่งตัวอาเล็กในฐานะ “เจ้าบ่าว” ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.นางเลิ้ง

ต่อมาทนายความได้ยื่นประกันตัวอาเล็ก และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักทรัพย์เดิมในชั้นสอบสวน คือ เงินสดจำนวน 90,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม และกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 12 มิ.ย. 2566 เวลา 09.00 น.

เปิดคำฟ้องคดี อัยการระบุเพลงมีเนื้อหาใส่ร้ายป้ายสี หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 9 และ 10

ในคำฟ้อง กุลยา กัลยกร เป็นพนักงานอัยการผู้เรียงฟ้อง บรรยายโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ขณะที่จำเลยได้ร่วมชุมนุมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร จำเลยได้ออกมาแสดงดนตรีร้องเพลงชื่อเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” อันมีเนื้อหาใส่ร้ายป้ายสี หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ คือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทำให้ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น หมิ่นพระเกียรติ ถูกลบหลู่ และมีเจตนาไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ ทำลายสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงชนชาวไทย และอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้

จำเลยได้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยทำการถ่ายทอดสดขณะจำเลยร้องเพลง ลงบนช่องยูทูป ซึ่งเป็นเว็บไซต์สาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ในขณะถ่ายทอดสดในหัวข้อ “23 ส.ค. 65 ประ ยุด ออกไป” โดยเนื้อหาของเพลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในการใส่ร้ายป้ายสี หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 และมีเจตนาให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยต่อองค์พระมหากษัตริย์ อันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระเกียรติและเป็นการกล่าววาจาจาบจ้วงล่วงเกิน เปรียบเทียบเปรียบเปรย หรือเสียดสีให้เป็นที่ระคายต่อเบื้องพระยุคลบาทของรัชกาลที่ 10

ทั้งนี้ อาเล็กถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 จำนวน 2 คดี จากเหตุในวันเดียวกันแต่คนละช่วงเวลา โดยอีกคดีมี อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ “เต้ อาชีวะ” กับพวก เป็นผู้กล่าวหา โดยเหตุเกิดในระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. อาเล็กถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เล่นกีตาร์ให้ร้องเพลงของวงไฟเย็น 2 เพลง คือ เพลง “โชคดีที่มีคนไทย” และเพลง “ใครฆ่า ร.8” โดยมีผู้ร้องหลักคือ “สาวนุ้ย” ในกิจกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใต้สกายวอล์คฝั่งเกาะพญาไท ซึ่งยังคงอยู่ในชั้นสอบสวน

นอกจากนี้ เขายังถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2563-65 ในข้อหาอื่นๆ จำนวนมากถึง 21 คดี ซึ่งส่วนมากเป็นคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ