“อาเล็ก” แห่ขันหมากรับทราบข้อหา ม.112 เหตุร้องเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ก่อนศาลให้ประกันตัว

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 “อาเล็ก” โชคดี ร่มพฤกษ์ กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร วัย 53 ปี พร้อมกับนักกิจกรรมและประชาชนกลุ่มอิสระ ได้จัดขบวนแห่ขันหมาก เดินเท้าจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อส่งตัวอาเล็กในฐานะ “เจ้าบ่าว” ไปรับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ที่ สน.นางเลิ้ง

ก่อนหน้านี้ อาเล็กได้รับหมายเรียกในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จาก สน.นางเลิ้ง โดยแม้เขาจะถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2563-65 จำนวนถึง 22 คดี แต่ก็ยังไม่เคยถูกกล่าวหาในข้อหานี้มาก่อน โดยมากเป็นคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คดีนี้จึงนับเป็นคดีข้อหามาตรา 112 คดีแรกของเขา

สำหรับกิจกรรมแห่ขันหมาก โชคดีได้แต่งกายเป็น “เจ้าบ่าว” ที่นำขบวนไปยัง “สน.นางสาวนางเลิ้ง” โดยมีประชาชนแห่กลองยาว ถือต้นกล้วย และป้ายข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ยกเลิกมาตรา 112 และ ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ อีกทั้งยังมีกิจกรรม #มูเตลู จากกลุ่มมวลชนด้วย

หลังเดินทางถึง สน.นางเลิ้ง และมีทนายความติดตามไป เวลาประมาณ 13.20 น. พ.ต.ท.สำเนียง โสธร รองผู้กำกับการ สอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้เป็นผู้แจ้งข้อหาต่ออาเล็ก โดยพบว่าเป็นคดีที่เขาเคยเข้ารับทราบข้อกล่าวหามาก่อนหน้านี้ เหตุจากการร่วมกิจกรรมเดินขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในโอกาส #8ปีประยุทธ์ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มายังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23-24 ส.ค. 2565

ในการเข้ารับทราบข้อหาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 พร้อมกับนักกิจกรรมอีก 3 คน อาเล็กถูกแจ้งข้อกล่าวหา รวม 3 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

ในวันนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับอาเล็กใน 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ ข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

พฤติการณ์เพิ่มเติมในคดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2565 กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำรายงานการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา ส่งมายัง สน.นางเลิ้ง โดยมี พ.ต.ท.บุญโปรด แสงทับทิม สารวัตรสืบสวน ได้รับไว้ พบว่าเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 19.30 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมร้องเพลงพร้อมเล่นกีตาร์ประกอบ นำโดยโชคดี ร่มพฤกษ์ อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยมีการเผยแพร่คลิปในช่องยูทูปของโชคดีด้วย

ข้อกล่าวหาระบุว่าเพลงที่โชคดีร้อง ได้แก่ เพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ซึ่งเนื้อหาเพลงดังกล่าวทำให้ประชาชนรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังพระมหากษัตริย์ เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ประกอบกับเป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ต่อมาในวันที่ 7 ต.ค. 2565 พ.ต.ท.บุญโปรด แสงทับทิม ผู้กล่าวหา จึงมากล่าวหาเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับโชคดี

โชคดีได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือและลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนนำตัวโชคดีไปที่ศาลอาญาเพื่อขออำนาจฝากขังทันที

หลังศาลอนุญาตให้ฝากขัง ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวระหว่างสอบสวน จนเวลาประมาณ 17.15 น. ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวโชคดี โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นเงิน 90,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

ทั้งนี้ คดีมาตรา 112 ของโชคดี นับเป็นคดีที่ถูกกล่าวหาเหตุเกี่ยวข้องกับเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” นับเป็นคดีที่ 3 แล้ว โดยก่อนหน้านั้นมี “นุ้ย” วรัณยา แซ่ง้อ และ “เสี่ยวเป้า” วรินทร์ทิพย์ วัชรวงษ์ทวี ที่เคยถูกกล่าวหาจากการร้องเพลงดังกล่าวไว้ที่ สน.พญาไท และ สน.ประชาชื่น ตามลำดับ โดยทั้งสองคดีก่อนหน้ามีประชาชน “กลุ่มปกป้องสถาบันฯ” เป็นผู้ไปกล่าวหา แต่คดีของโชคดีมีตำรวจเป็นผู้กล่าวหา

ในส่วนเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” เป็นเพลงของวงไฟเย็น ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเพลงดังกล่าว ที่เผยแพร่ในช่องยูทูปของวง มี URL บางส่วนที่ถูกปิดกั้นการเข้าถึงในประเทศไทยไปแล้วอีกด้วย

สำหรับโชคดีนับเป็นผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 รายแรกของปี 2566 โดยจากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับแต่การนำข้อหานี้กลับมาบังคับใช้ในช่วงปลายปี 2563 มีนักกิจกรรมและประชาชนถูกกล่าวหาดำเนินคดีไปแล้วอย่างน้อย 226 คน ใน 244 คดี