ศาลอาญากรุงเทพใต้จำคุก “พิชัย-นฤเบศร์” 3 ปี 4 เดือน ฐานพกระเบิดปิงปอง-ต่อสู้ขัดขวาง จพง. ก่อนส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาคำสั่งประกัน

16 มี.ค. 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีนัดฟังคำพิพากษาคดีของพิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และนฤเบศร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สองสมาชิก “ทะลุแก๊ส” ในคดีซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่า ขว้างปาวัตถุระเบิดใส่รถยนต์สายตรวจของสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีที่แยกราชประสงค์ เมื่อเช้าวันที่ 4 ต.ค. 2564

หลังถูกจับกุมทั้งสองถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันมีวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, ร่วมกันทำให้เกิดเสียงหรือการกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร แม้ว่าขณะถูกจับกุมและตรวจค้น ตำรวจไม่พบวัตถุระเบิดที่ตัวของพิชัยและนฤเบศร์ รวมทั้งในรถจักรยานยนต์ที่พิชัยเป็นคนขับ แต่พบระเบิดปิงปองอยู่ในกระเป๋าสะพายของเยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายอีกคน และรับว่าเป็นผู้ขว้างระเบิดปิงปองใส่รถสายตรวจเอง

ทั้งนี้ ในชั้นฝากขังตลอดจนถึงชั้นพิจารณาคดีหลังอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2564 ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวพิชัยและนฤเบศร์มาโดยตลอด กระทั่งในนัดคุ้มครองสิทธิ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2565 ศาลจึงมีคำสั่งให้ประกัน โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 200,000 บาท พร้อมทั้งให้ติด EM รวมเวลาถูกคุมขัง 115 วัน

พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ยื่นฟ้องพิชัยและนฤเบศร์ กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้”, “ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายฯ”, “ร่วมกันทำให้เกิดเสียงอื้ออึงฯ”, “ร่วมกันพยายามทำร้ายเจ้าพนักงานฯ”, “ร่วมกัน 3 คนขึ้นไป ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน”, “ร่วมกันเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดฯ”, “ร่วมกันพกอาวุธไปในที่สาธารณะฯ” ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 221, 289, 295, 296, 370, 371 และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ รวมทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ฯ เช่น “นำรถไม่ได้ติดป้ายทะเบียนมาใช้ฯ”, “ขับรถฝ่าไฟแดงฯ”

ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา พิชัยและนฤเบศร์ยืนยันให้การปฏิเสธในข้อหาเกี่ยวกับวัตถุระเบิด แต่รับสารภาพในข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ และ พ.ร.บ.รถยนต์ฯ โดยการสืบพยานมีขึ้นเมื่อวันที่ 17-19 ม.ค. 2566

ที่ห้องพิจารณา 402 เวลาประมาณ 10.00 น. ศาลออกนั่งพิจารณาและอ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า จากพยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่า ขณะที่จำเลยทั้งสองขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปทางแยกราชดำริ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนั้น จำเลยได้ร่วมกันต่อสู้ขัดขวาง ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ ขว้างปาและใช้หนังสติ๊กยิงลูกแก้วใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นการพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และหลบหนีการจับกุม รวมถึงมีการพกวัตถุระเบิด ซึ่งสามารถทำให้เกิดระเบิดไปตลอดเส้นทางการขับรถ

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก “พิชัย” 3 ปี 4 เดือน 15 วัน ปรับ 2,800 บาท และจำคุก “นฤเบศร์” 3 ปี 4 เดือน ปรับ 2,150 บาท

หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทั้งสองถูกใส่กุญแจมือและควบคุมตัวไปไว้ยังห้องขังใต้ถุนศาลระหว่างรอการยื่นประกันตัว

อย่างไรก็ตาม เวลา 15.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา โดยศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งออกมาในอีก 2-3 วันข้างหน้า ในระหว่างนี้ พิชัยและนฤเบศร์จะถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อน ซึ่งเป็นการถูกขังรอบที่สอง และทำให้จำนวนผู้ต้องขังทางการเมืองระหว่างการต่อสู้คดีเพิ่มขึ้นเป็น 10 คนแล้ว หลังจากเมื่อปลายเดือน ก.พ. 2566 มีจำนวนลดลงเหลือเพียง 3 คนเท่านั้น

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

นฤเบศร์-พิชัย-จิตรกร: ตัวตนและความฝันของคนทะลุแก๊ซ ผู้ยังถูกคุมขัง

ต้นปี 65 อัยการฟ้องอีก 6 คดีการเมือง ทั้งม็อบ ปี 63,64 – ทะลุแก๊ซ – ประชาชนถูกกล่าวหาครอบครอง/ปาระเบิด/ยิงพลุ – 2 รายได้ประกันหลังถูกขังนานหลายเดือน