ศาลให้อัยการโจทก์-ทนายจำเลย มากำหนดนัดวันสืบพยานใหม่ ในคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร มกราคม 2566

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 เวลา 14.00 น. ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ในคดีสืบเนื่องจากการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง 

คดีนี้มีจำเลยเป็นนักกิจกรรมทั้งหมด 22 ราย ถูกฟ้องด้วยข้อหาหลักตามมาตรา 112 จำนวน 7 คน คือ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, “หมอลำแบงค์” ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา  ส่วนอีก 15 คน ถูกฟ้องในข้อหาหลักตามมาตรา 116 

เวลา 14.10 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 713 ทนายความและจำเลยมาพร้อมกันที่ห้องพิจารณา โดยในวันนี้มีประชาชนร่วมเดินทางให้กำลังใจและเข้าฟังการพิจารณาคดีด้วยจำนวนหนึ่ง 

ต่อมาเวลา 14.26 น. ศาลขึ้นพิจารณาคดี โดยให้พยานโจทก์ขึ้นเบิกความ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ในขณะเกิดเหตุในคดีนี้ มีตำแหน่งเป็นผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม อายุ 46 ปี และมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเป็นผู้กล่าวหา 

พ.ต.อ.วรศักดิ์ ขึ้นเบิกความ โดยทนายถามค้านเกี่ยวกับเรื่องที่พยานได้เข้าไปมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพนักงานสอบสวนพิเศษที่ตั้งขึ้นเพื่อทำการพิจารณาเห็นควรส่งฟ้องกับจำเลยในคดีนี้ และซักถามค้านเกี่ยวกับหนังสือที่พยานได้ส่งให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้อำนวยการเขตพระนคร ให้เข้ามาเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษร่วมกับพยาน 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ ไม่ได้ยืนยันกับทนายว่าตนเองเป็นผู้แจ้งข้อหามาตรา 112 กับจำเลยในคดีนี้ และจำไม่ได้ว่าเคยส่งหนังสือถึงผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ หรือไม่  โดยพยานแถลงเพียงว่าการแจ้งข้อกล่าวหาคดีที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวกับความมั่นคง จะอยู่ภายใต้การพิจารณาของคณะกรรมการชุดดังกล่าวเท่านั้น แม้ว่าทนายจะยื่นเอกสารหลักฐานที่มีรายชื่อของพยานในคณะกรรมการ และซักถามว่าพยานเป็นหนึ่งในพนักงานสอบสวนจากชุดดังกล่าวที่พิจารณาเห็นควรแจ้งข้อกล่าวหากับจำเลย

อย่างไรก็ตาม ในการสืบพยานครั้งนี้ที่มีการเลื่อนนัดมาหลายครั้ง จนถึงปัจจุบันการสืบพยานโจทก์ปากที่ 1 คือ พ.ต.อ.วรศักดิ์ ก็ยังไม่เสร็จสิ้น ด้วยมีสาเหตุมาจากที่ศาลไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญบางส่วนที่ทนายความจำเลยได้ร้องขอเพื่อใช้ในการต่อสู้คดี จึงทำให้ทนายจำเลยไม่สามารถดำเนินการถามค้านพยานโจทก์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเอกสารดังกล่าว ประกอบไปด้วย 

  1. เอกสารเกี่ยวกับคดีที่กระทรวงการคลังเคยฟ้องร้องสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 เพื่อเรียกคืนทรัพย์สินที่เห็นว่ามีการโอนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไปเป็นส่วนพระองค์โดยไม่มีอำนาจ
  1. เอกสารเดินทางของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสร็จประทับที่ประเทศเยอรมนี
  1. ข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณส่วนพระองค์ประจำปีงบประมาณ 2563 
  1. ข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ปี 2560 – 2564 

อ่านข้อมูลเรื่องเอกสารที่ศาลไม่ยอมออกหมายเรียก เพิ่มเติม >>> คดี 19 กันยา ศาลยังไม่ออกหมายเรียกเอกสารกรณี ร.10 ไปประทับเยอรมัน-งบสถาบันฯ ฝ่ายจำเลยแถลงต้องใช้ยืนยันข้อเท็จจริง เหตุอัยการกล่าวหาว่าปราศรัยเท็จ 

ย้อนอ่านทามไลน์การร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญ >>> ทบทวนมหากาพย์การร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสารในคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร

เมื่อจบการซักถาม ทนายแถลงต่อศาลว่าคำถามอื่นๆ ที่ทนายจะถามค้านกับพยานโจทก์ปากนี้ จะขอไปถามต่อในนัดถัดไป โดยก่อนหน้านี้คดีนี้มีการกำหนดวันนัดไว้ถึงสิ้นปี 2565 เท่านั้น และเนื่องจากไม่สามารถหาวันนัดที่ตรงกันได้ระหว่างพนักงานอัยการและทนายจำเลย ศาลจึงให้มากำหนดวันนัดสืบพยานในคดีนี้ใหม่ วันที่ 16 ม.ค. 2566 เวลา 13.30 น.

X