ศาลยกฟ้องคดีคาร์ม็อบสุราษฎร์ ชี้ยังไม่แออัดเสี่ยงโรค-ไม่มีการยุยงให้เกิดความไม่สงบ

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ศาลแขวงสุราษฎร์ธานีนัดฟังคำพิพากษาในคดีของประชาชน 5 ราย กรณีจัดและเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “ราษฎรสุราษฎร ขับไล่ตู่” เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีจำเลย 2 ราย ยังถูกฟ้องในเรื่องไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหสถานด้วย

สำหรับประชาชนผู้ถูกฟ้องทั้ง 5 ราย ได้แก่ ปฐมพร หนูจันทร์แก้ว, เจษฎา ขอประเสริฐ, ณภัทร วงษ์นุ่ม, เมติมา ประวิทย์ และธนกฤต ศรีสุวรรณ

>> “เราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นตัวกลางสื่อสารข้อเรียกร้องของประชาชน”: คุยกับจำเลยคดีคาร์ม็อบสุราษฎร์ธานี ก่อนศาลพิพากษา

.

บรรยากาศในวันนัดฟังคำพิพากษา จำเลยทั้ง 5 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมกับทนายจำเลย 3 คน ส่วนฝั่งอัยการโจทก์ไม่ได้มาฟังคำพิพากษา

ศาลอ่านคำพิพากษาโดยสรุปวินิจฉัยใน 3 ประเด็นหลัก

ประเด็นแรก  จำเลยทั้งห้ากระทำความผิดฐานรวมกันจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 50 คน  โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือไม่  จากพยานหลักฐานของโจทก์ เชื่อได้ว่าตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว มีผู้ร่วมชุมนุมกันมากกว่า 50 คน ซึ่งจำเลยทั้งห้าเองก็เบิกความร่วมกันในทำนองว่าไม่ทราบจำนวนแน่ชัดว่ามีผู้ร่วมกิจกรรมกี่คน ในเรื่องจำนวนผู้มาร่วมชุมนุม ฝ่ายจำเลยจึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

ประเด็นที่สอง การร่วมทำกิจกรรมของจำเลยทั้งห้าอยู่ในสถานที่แออัดและเสี่ยงต่อการแพร่โรคหรือไม่ 

ศาลระบุว่า “สถานที่แออัด” เมื่อตีความอย่างเคร่งครัด โดยไม่ได้ตีความให้เป็นผลร้ายต่อจำเลยตามหลักกฎหมายอาญา ย่อมหมายถึงสถานที่ซึ่งมีผู้ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันอย่างหนาแน่นตลอดทั้งพื้นที่ ในสภาพที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ จนทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความเสี่ยง มิได้หมายความว่าใกล้ชิดเพียงบางส่วนเท่านั้น จากพยานหลักฐานพบว่ากิจกรรมตามฟ้องนั้น มิได้รวมตัวทำกิจกรรมกันอยู่ในพื้นที่ปิด เช่น ตัวอาคาร สภาพอากาศถ่ายเทได้สะดวก จึงยังไม่ถึงขนาดเป็นสถานที่แออัด ศาลจึงเห็นว่าการร่วมทำกิจกรรมของจำเลยทั้งห้าจึงไม่ใช่การทำกิจกรรมอยู่ในสถานที่แออัดที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค

ส่วนกรณีของจำเลยสองรายที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จากการนำสืบพบว่าเป็นการเปิดหน้ากากอนามัยเพียงชั่วคราวระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยจากภาพถ่าย จำเลยไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัยออกจากใบหน้าทั้งหมด ไม่ได้ถอดสายคล้องหูของหน้ากากอนามัยออก เพียงแค่ดึงลงมาใต้คางเท่านั้น จึงเห็นว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ถึงขนาดมีความผิดตามฟ้องในข้อกล่าวหาไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน

ประเด็นที่สาม การกระทำของจำเลยเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ 

ศาลเห็นว่าจำเลยทั้งห้ากับพวกไปร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบที่มีเนื้อหาโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และคำปราศรัยเสนอข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการแก้ปัญหา และการเรียกร้องต่อการบริหารงานของรัฐบาล ไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง และไม่ปรากฎว่ามีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย จึงยังไม่เป็นความผิดตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

ศาลพิพากษายกฟ้อง

.

.

ทนายจำเลยเปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า รู้สึกขอบคุณจำเลยทั้งห้า ที่ยืนหยัดต่อความถูกต้อง ใจสู้ แม้ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเป็นเวลากว่า 1 ปี 

ธนกฤต ศรีสุวรรณ หนึ่งในจำเลย ให้ความเห็นหลังฟังคำพิพากษาว่า คดีลักษณะนี้ไม่ควรจะมีการสั่งฟ้องตั้งแต่แรก เพราะเป็นกิจกรรมที่เป็นการออกมาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรียกร้องสิ่งที่ควรจะได้จากรัฐบาล โดยมีการระมัดระวังต่อเรื่องโควิด-19 ด้วยแล้ว ผ่านการจัดกิจกรรมในรูปแบบคาร์ม็อบ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงจากรถหรือมีความใกล้ชิดเสี่ยงต่อโรคกัน การยกฟ้องในชั้นนี้ของศาลจึงสมเหตุสมผลอยู่แล้ว และเป็นการคืนความยุติธรรมให้แก่กลุ่มจำเลยส่วนหนึ่ง

ธนกฤตยังฝากไปถึงเพื่อนๆ นักกิจกรรมทุกคน ที่อาจจะอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี หรือรอถูกสั่งฟ้อง หรือกลัวว่าจะถูกหมายต่างๆ อยากจะบอกว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นไม่มีใครอยากให้ตนเองเดือดร้อน แต่พึงระลึกว่าเรากำลังเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังต่อสู้เพื่ออนาคต ไม่อยากให้ความยุติธรรมลดต่ำลงกว่านี้ ไม่อยากให้เพดาดานของเสรีภาพลดลงภายใต้รัฐบาลเผด็จการ จึงเป็นกำลังใจให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้ต่อไป

สำหรับคดีคาร์ม็อบสุราษฎร์ธานี นับเป็นคดีคาร์ม็อบคดีแรกในพื้นที่ภาคใต้ที่ศาลมีคำพิพากษาออกมา หลังในพื้นที่ภาคใต้มีจังหวัดที่ถูกดำเนินคดีจากการจัดคาร์ม็อบในช่วงปี 2564 รวม 9 จังหวัด โดยเกือบทุกจังหวัด อัยการได้สั่งฟ้องต่อศาลแล้ว และอยู่ระหว่างรอการสืบพยานในหลายคดี

ดู สถิติคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ศาลยกฟ้อง-อัยการสั่งไม่ฟ้อง

.

* ข้อมูลการสังเกตการณ์ฟังคำพิพากษาคดีจาก Law Long Beach – กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชนภาคใต้

.

X