“อันนา” เยาวชนอายุ 16 ปี ถูก นคบ. ติดตามต่อเนื่องหนึ่งเดือนเต็ม หลังรณรงค์เรียกร้องสิทธินักเรียนและมีชื่อติดอยู่ในบุคคลเฝ้าระวังพิเศษ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งจาก ‘อันนา’ นักกิจกรรมเยาวชน อายุ 16 ปี สมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบคุกคามและติดตามสอดส่อง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา หลังออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและเรียกร้องสิทธิให้เด็กนักเรียน

อันนาเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. 2565 – 15 พ.ค. 2565 ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐจากหลายสังกัดเข้าติดตามคุกคามตนและครอบครัว และเข้าถึงที่พักอาศัยของตัวเอง โดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ อันนาระบุว่ามีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจับกุมแบบกะทันหันโดยไม่มีหมายใดๆ ตามกฎหมาย, การสอดส่องเพื่อถามไถ่ถึงการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ตลอดจนการเลี้ยงอาหารและไปรับไปส่งตามสถานที่ต่างๆ 

อันนาเปิดเผยว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเดือน มีดังนี้

  • 15 เม.ย. 2565 อันนาและเพื่อนได้เดินทางไปนั่งกินอาหาร ที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและได้ถูกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยน้ำหวานกว่า 20-30 นาย เข้าควบคุมตัว โดยการอุ้มตนและเพื่อนออกจากร้านไปยังตึกกระทรวง พม. ถนนกรุงเกษม และย้ายไปควบคุมตัวต่อที่สโมสรตำรวจบนถนนวิภาวดี รังสิต 

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเธอและเพื่อนไว้กว่า 6 ชั่วโมงและต่อมาก็ปล่อยตัวโดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด อันนาระบุว่าในวันนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจไปทำกิจกรรมใดๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลับใช้ข้ออ้างเพื่อควบคุมตัวเธอและเพื่อนไว้ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวจะมีขบวนเสด็จ และอันนากับเพื่อนเป็นบุคคลเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว

ภาพเหตุการณ์ตำรวจควบคุมตัวและอุ้มเพื่อนของอันนาออกจากพื้นที่ขบวนเสด็จ (ภาพจากแหล่งข่าว)

  • 22 เม.ย. 2565 อันนาเดินทางเข้าร่วมกิจกรรม ‘ทัวร์มูล่าผัว’ ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มมังกรปฏิวัติ ทำให้เธอถูกโดนถ่ายรูปไว้ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โทรศัพท์ไปกดดันกับแม่ ให้บอกเธอว่าให้เลิกทำกิจกรรมต่างๆ ได้แล้ว
  • 24 เม.ย. 2565 อันนาระบุว่าได้รับรู้ว่าเธอมีชื่อติดอยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง) ของทางการ โดยปรากฏรายละเอียดชื่อจริง เลขบัตรประจำตัวประชาชน และที่อยู่ของบุคคลต่างๆ ในรายชื่อดังกล่าว
  • 2 พ.ค. 2565 มีตำรวจนอกเครื่องแบบไปถามหาอันนากับผู้ปกครองที่บ้านซึ่งเป็นคนละที่กับที่เธอพักอาศัยอยู่ โดยเป็นการแจ้งให้ผู้ปกครองไปสังเกตการณ์การร่วมกิจกรรมของเธอที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่กลุ่มเครือข่ายแรงงานได้จัดกิจกรรมยื่น 11 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังให้ผู้ปกครองขึ้นรถของตำรวจและพาไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อให้นำตัวเธอกลับบ้านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อันนาระบุว่าเธอไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด จึงทำให้ผู้ปกครองและตำรวจนอกเครื่องแบบไม่พบตัวเธอในพื้นที่
  • 3 พ.ค. 2565 อันนาเดินทางไปบริเวณทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากได้ข่าวว่าจะมีการประชุมของพรรคพลังประชารัฐ และมีขบวนเสด็จผ่านในบริเวณดังกล่าว อันนาจึงสังเกตว่าเธอถูกขับรถติดตามจากตำรวจนอกเครื่องแบบ เธอจึงสอบถามว่าเจ้าหน้าที่ติดตามเธอทำไม เจ้าหน้าที่ได้เพียงบอกว่าตามมาเพื่อถามไถ่เรื่องทั่วไป โดยไม่ได้มีการข่มขู่ใดๆ ในวันนั้น 
  • 4 พ.ค. 2565 อันนาเดินทางไปอ่านหนังสือที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และสังเกตเห็นว่ามีขบวนเสด็จผ่านในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เธอถูกตำรวจนอกเครื่องแบบนั่งเฝ้าที่ร้านในช่วงเวลานั้น
  • 6 พ.ค. 2565 อันนาเดินทางผ่านบริเวณสกายวอล์คหน้าศูนย์การค้าสยาม ซึ่งเป็นบริเวณใกล้วังสระปทุม ต่อมาในช่วงเย็นได้มีคนโทรมาบอกเธอว่า วันนี้มีคนติดตามเธอในช่วงที่ไปเดินที่สกายวอล์ค อีกทั้ง ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่จาก ศธ. ได้โทรไปหาครอบครัวและสอบถามถึงสาเหตุที่เธอเดินผ่านทางบริเวณดังกล่าวว่า เดินไปทำอะไร หรือมีธุระอะไรที่ต้องทำให้เดินผ่านหรือไม่
  • 10 พ.ค. 2565 อันนาไปรอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรีนุช เทียนทอง ซึ่งจะไปเปิดงานกิจกรรม Back to School ที่จัดขึ้นในโรงเรียนพญาไท เธอตั้งใจไปร้องเรียนเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่จาก ศธ. มักโทรศัพท์ไปหาคนในครอบครัว ทั้งนี้ อันนาได้ระบุว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้ติดตามเธอไปจนถึงที่พัก
  • 12 พ.ค. 2565 อันนาและเพื่อนได้เดินทางไปขอเข้าพบรัฐมนตรี ตรีนุช เทียนทอง อีกครั้ง ที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพูดคุยเรื่องการยกเลิกกฎทรงผมในโรงเรียนของนักเรียนและการหยุดคุกคามนักเรียนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบและกองร้อยน้ำหวานเกือบ 50 นาย เข้าติดตามและเดินตามเธอตลอดในบริเวณกระทรวง 

ภาพ อันนาเดินทางไปขอเข้าพบ รมต. ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

  • 14 พ.ค. 2565 อันนาพบว่าในช่วงเช้ามีตำรวจนอกเครื่องแบบมานั่งเฝ้าเธอถึงที่พัก ต่อมาในช่วงบ่าย เมื่อเธอต้องเดินทางไปเรียนพิเศษ ตำรวจบอกว่าเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับทางผ่านของขบวนเสด็จ ทำให้เธอตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ขับรถไปส่งเธอที่เรียนพิเศษและให้เลี้ยงข้าวด้วย   

ภาพตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามเฝ้าอันนาถึงที่พักในช่วงเช้า

  • 15 พ.ค. 2565 อันนาพบว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามเธออยู่สักระยะหนึ่งในระหว่างที่เธอออกมาทำธุระนอกบ้าน ตำรวจนอกเครื่องแบบให้เธอขึ้นรถของเขาเพื่อไปส่งเธอยังที่หมายอื่น แล้วหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป โดยเธอไม่รู้สึกว่ามีใครตามเธออีกภายในวันนี้

ภาพตำรวจนอกเครื่องแบบให้อันนานั่งซ้อนท้ายไปทำธุระตามที่หมายอื่น

อันนาได้เปิดเผยอีกว่าการติดตามเธอในช่วงนี้ ได้แปรเปลี่ยนความกลัวและความหวาดระแวงให้เป็นความรู้สึกชินชากับการติดตามคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหลายไปเสียแล้ว และถึงแม้จะเคยขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการกระทำดังกล่าวในหลายต่อหลายครั้งกับทั้งตัวเธอและครอบครัว ก็ไม่สามารถยับยั้งพฤติกรรมต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ได้ โดยเธอได้ระบุว่า “จะตามเป็นส่วนที่ 33 ของร่างกายก็ไม่ว่า แต่ไม่ต้องโทรไปหาที่บ้านก็ดี คนเขารำคาญ แล้วก็เลี้ยงข้าวหน่อย”

การติดตามคุกคามและการใช้กระบวนการนอกฎหมายต่ออันนา ซึ่งเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเจ้าหน้าที่รัฐในหลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนตำรวจซึ่งไม่เคยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับเธอ เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับตัวเธอและครอบครัวมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มีสาเหตุหนึ่งจากการแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะการเรียกร้องสิทธิให้กับนักเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดต้นปี 2565 นี้ และคาดหมายได้ว่าเธอตกเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเป็นหนึ่งในรายชื่อเฝ้าระวัง (Watch List) ของทางการ หรือตกเป็นบุคคลเป้าหมายของรัฐแล้ว

จากการติดตามข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระหว่างเดือนมกราคม ถึง 17 พ.ค. 2565 พบว่ามีเด็ก/เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกเจ้าหน้าที่รัฐติดตามคุกคามแล้วอย่างน้อย 15 ราย แบ่งเป็นผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 9 คน ไม่ระบุอีก 2 คน 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

2 เดือนแรกปี 2565: จนท.รัฐติดตามประชาชนระหว่างมีขบวนเสด็จเข้มข้น ยอดผู้ถูกคุกคามไม่น้อยกว่า 83 ราย

2 เดือน ผู้ถูกคุกคามโดยจนท.รัฐ เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 66 ราย เหตุจากมีขบวนเสด็จยังเป็นปัจจัยสำคัญ

X