บันทึกเยี่ยมปฏิมา-ทานตะวัน: “หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงไม่ได้ประกัน”

27 เม.ย. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “ปฏิมา” วัย 20 ปี หลังเธอถูกฝากขังและไม่ให้ประกันตัวในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดปิงปองใส่สนามหญ้าหน้ากรมทหารราบที่ 1 หลังการชุมนุมรำลึกเมษาเลือด #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565  และ “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกศาลอาญาเพิกถอนประกันเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2565 ในคดีมาตรา 112 ที่ถูกกล่าวหาว่าไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จ 

นับจนถึงวันที่เข้าเยี่ยม ปฏิมาถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 18 วัน ขณะที่ทานตะวันถูกคุมขังมาแล้ว 8 วันพร้อมประกาศอดอาหาร 


เสียงสะอื้นของปฏิมา: “หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงไม่ได้ประกัน”


“ปฏิมา” พบกับทนายความทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เธอสวมชุดสีน้ำตาล สวมเสื้อกันฝนทับ สวมหน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์ ทนายสังเกตว่าใบหน้าของปฎิมาเต็มไปด้วยความเศร้า กังวล ไม่สดใสเอาเสียเลย โดยเธอร้องไห้ สะอึกสะอื้นตลอดการสนทนาในช่วงสั้นๆ 

เธอเล่าให้ฟังว่าแม้ถูกคุมขังมา 18 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายลงแดน เพราะเพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกันติดโควิด 2 รอบ เธอจึงต้องถูกกักตัวไว้ในแดนกักโรคต่อไปเพื่อเฝ้าดูอาการ แม้เธอกับตะวันถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่เคยได้เจอกัน ปฏิมาบอกว่าเธอยังอยู่ได้ แต่สภาพจิตใจไม่ดี ยังคงร้องไห้ทุกวัน แต่ยังไม่ถึงกับอยากพบจิตแพทย์

“ตัวมันอยู่ได้ แต่ใจมันอยู่ไม่ได้ เป็นห่วงทุกอย่างตลอด หนูต้องเอาปากกาที่เอาไว้จดอุณหภูมิ มาเขียนนับวัน มันไม่รู้จะทำอะไร หนูอยากกลับบ้าน หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงไม่ได้ประกัน”

เมื่อทนายได้เล่าถึงสถานการณ์ภาพนอก รวมทั้งการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเธออยู่ ปฏิมาสะอื้นขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะฝากบอกว่า “ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ”

กำลังใจของ “ตะวัน” การรู้ว่ายังมีคนคิดถึงทำให้หายเครียด


ทนายความที่ได้เข้าเยี่ยมและพูดคุยกับตะวันทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อีกครั้ง สังเกตว่าวันนี้ตะวันยังมีหน้าตาที่สดใสและรู้สึกดีใจที่มีคนมาเยี่ยม เธอยังคงยืนยันเรื่องการอดอาหารและฝากบอกทุกคนที่เป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องอดอาหารของตัวเองว่า “หนูยังไหวอยู่ ”

หลังจากได้เข้ามาอยู่ในเรือนจำแล้ว 8 วัน เธอมองว่าตัวเรือนจำเองยังมีปัญหาไม่เท่ากระบวนการยุติธรรม
“เรื่องมาตราฐานเรือนจำมันต่ำอยู่แล้ว อย่างคนที่เข้าส่วนใหญ่ตอนนี้จะเป็นเรื่องฉ้อโกง ที่ต้องทำผิดเพราะไม่มีทางเลือกอื่น คือแต่ก่อนส่วนใหญ่จะเป็นคดียาเสพติด แต่ตอนนี้คดีฉ้อโกงมาอันดับ 1 อันดับ 2 ยาเสพติด ทุกอย่างมันคือผลจากรัฐบาล”

เธอยอมรับว่าสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำไม่ได้สบายและสภาพจิตใจของตัวเองก็ไม่ได้ดีนัก เพราะคิดถึงทุกๆ คนที่อยู่ข้างนอก รวมถึงครอบครัว แต่ภายหลังได้รับการบอกเล่าว่า คนข้างนอกยังคงพูดถึง รวมถึงส่งความห่วงใยมาให้เธอ ก็ทำให้เธอมีกำลังใจและรู้สึกขอบคุณ 

“หนูดีใจมาก ได้รู้จากทนายว่าเพื่อนคิดถึง ทั้งโพสต์ถึงหนู แชร์ถึงหนู มันก็ทำให้หนูหายเครียด”


นอกจากปฎิมาและทานตะวัน  ปัจจุบันมีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อีกอย่างน้อย 5 ราย ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

อ่านเพิ่มเติม:

อีกระลอก! ผู้ต้องขังทางการเมือง ตั้งแต่กลาง มีนาคม 2565

เสียงจาก ‘ทานตะวัน’: “ขอบคุณคนภายนอกที่ยังไม่ลืมกัน ทำให้ยังมีกำลังใจจะสู้”

บันทึกเยี่ยม “ตะวัน”: 24 ชั่วโมงแรกในเรือนจำ กับการประกาศเริ่มอดอาหาร 

X