เสียงจาก ‘ทานตะวัน’: “ขอบคุณคนภายนอกที่ยังไม่ลืมกัน ทำให้ยังมีกำลังใจจะสู้”

วานนี้ (26 เม.ย. 2565) ทนายความได้เข้าเยี่ยม “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกศาลอาญาเพิกถอนประกันเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2565 ในคดีมาตรา 112 ที่ถูกกล่าวหาว่าไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จ หลังพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้องโดยอ้างเหตุว่าเธอกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว จากการโพสต์และแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก 10 ครั้ง พร้อมทั้งอ้างว่า ทานตะวันและพวกพยายามขับรถเข้าใกล้พื้นที่ที่มีขบวนเสด็จในช่วงค่ำของวันที่ 17 มี.ค. 2565

นับจนถึงวันนี้ เธอถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลางเป็นเวลาถึง 7 วันแล้ว ทั้งยังประกาศขออดอาหารตลอดเวลาการคุมขังเพื่อต่อต้านความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับเธอ

ทานตะวัน ตัวตุลานนท์: “การขาดข่าวสารจากโลกภายนอก คือความ ‘เงียบงัน’ ที่ต้องเผชิญ”

เบื้องหน้าของทนาย ภาพของตะวันทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ในชุดผู้ต้องขังสีน้ำตาล สวมทับด้วยเสื้อกันฝนสีฟ้า พร้อมกับสวมแว่นตาคู่ใหม่กรอบสีดำตามระเบียบที่ราชทัณฑ์กำหนด ทั้งยังมีเฟซชิลอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด ใบหน้าของเธอเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ยังคงไว้ซึ่งน้ำเสียงหนักแน่น แม้จะอดข้าวมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว

ตะวันดูดีใจมากที่มีคนมาเยี่ยม บอกกับทนายว่า วันแรก ๆ ที่เธอถูกส่งตัวมาอยู่ที่เรือนจำ สภาพจิตใจของเธอไม่ดีนัก รู้สึกดิ่งจนนอนไม่หลับ เหตุเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก อิสรภาพของเธอถูกพรากไปอย่างรวดเร็ว

“วันที่ 2 ที่ 3 หนูถึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น ชิลขึ้น อาจไม่แย่เหมือนวันแรก ๆ หนูคงไม่ชินหรอก แต่ทำอะไรกับความรู้สึกนั้นไม่ได้ เมื่อวานนี้กลับมารู้สึกดิ่งอีกครั้ง เพราะต้องอยู่กับความเงียบ ไม่มีหมอมาตรวจ ไม่มีคนมาเยี่ยม นอนไม่ค่อยหลับ ใจยังรอคนมาเยี่ยม เราอยากรู้ความเคลื่อนไหวของคนข้างนอก เป็นห่วงน้อง ๆ มันหลายความรู้สึก”

“ในห้องกักตัวที่แดนแรกรับมันเงียบมากเลยพี่ อยู่กันในห้อง 6 คน รวมหนูด้วยเป็น 7 คน ต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน ถึงจะได้ลงแดน”

ความเงียบที่ตะวันต้องเผชิญ เธอเล่าว่า เกิดจากการที่ถูกตัดออกจากข่าวสารของโลกภายนอก โทรทัศน์ที่มีให้ดูก็เปิดแต่รายการเพลง ความที่ไม่สามารถรับรู้เรื่องอะไรได้เลยนี่เองจึงเป็นความเงียบอย่างถึงที่สุด แม้จะมีเสียงจากโทรทัศน์ดังสะท้อนเป็นฉากหลัง

“หนูยังไหวอยู่ แต่ก็ยอมรับว่าอ่อนแอบ้างตามประสามนุษย์ สุดท้ายก็ต้องเข้มแข็งและอดทนรอวันที่จะได้ออกไป พอมีคนมาเยี่ยม หนูก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ พอได้รับรู้เรื่องราวข้างนอกบ้างว่าทุกคนไม่ลืมคนข้างในมันก็ยิ่งมีกำลังใจ”

“ตอนนี้หนูกังวลใจเรื่องสมัครเรียนคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง วางแผนว่าจะสมัครเรียนเดือนหน้า ตอนแรกแค่อยากเรียนนิติตามที่ลุงแนะนำ แต่พอหนูโดนศาลสั่งถอนประกันแล้วมันทำให้หนูอยากเป็นผู้พิพากษา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นประธานศาลฎีกา”

การอดอาหารเป็นเวลานานเริ่มส่งผลกับร่างกาย ผันแปรกับสภาพจิตใจ ตะวันยอมรับว่าเธอรู้สึกอ่อนเพลียบ้าง ทั้งยังต้องอดทนกับอากาศร้อนอบอ้าวในเรือนจำ แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ใจยังมุ่งมั่นที่จะอดอาหารต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว

“ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากออกไปสู้ข้างนอก สู้ข้างนอกมันดีกว่าอยู่แล้วพี่”

“ตกกลางคืนหนูคิดถึงอาหารเลย แต่ก็ต้องอดทน”

นอกจากการเล่าเรื่องราวสภาพความรู้สึก สิ่งที่อยู่ในจิตใจ ตะวันยังฝากข้อความไปบอกเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้านนอก ส่งกำลังใจให้กับสื่ออิสระที่ถูกทำร้ายร่างกาย ส่งข้อความถึงพ่อแม่ขอไม่ให้กังวล ขอบคุณทีมทนายที่ให้ความช่วยเหลือ และที่สำคัญที่สุด เธอฝากขอบคุณโลกภายนอกที่ยังคงไม่ลืมเธอ

“ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ไม่ลืมคนที่อยู่ข้างใน หนูยังสู้อยู่ ไม่ต้องห่วงหนูนะ”

นอกจากตะวัน ปัจจุบันมีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อีกอย่างน้อย 6 ราย โดยถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางอีก 1 ราย ส่วนอีก 5 ราย ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

>> อีกระลอก! ผู้ต้องขังทางการเมือง ตั้งแต่กลาง มีนาคม 2565