“หนุ่มเกาะพะงัน” ถูกแจ้งข้อหา ม.112 ถึงกำแพงเพชร หลังมีผู้กล่าวหาจากเหตุทำคลิป TikTok

29 ม.ค. 2565 ที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร “อาร์ม” (สงวนชื่อสกุลจริง) หนุ่มวัย 20 ปี ที่ปัจจุบันอาศัยในเกาพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เหตุจากการถูก นายพุทธ พุทธัสสะ ชาวจังหวัดกำแพงเพชร ไปแจ้งความกล่าวหาจากการเผยแพร่คลิปวิดีโอใน TikTok

ก่อนหน้านี้อาร์มได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงเพชร ว่าได้มีการออกหมายเรียกส่งไปยังที่อยู่ของเขาในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่มีใครอยู่ เขาจึงไม่เคยได้รับหมายเรียก ต่อมาเขาจึงได้เห็นหมายเรียกครั้งที่ 1 จากทางตำรวจ หมายระบุว่ามีนายพุทธ พุทธัสสะ ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นผู้กล่าวหา และระบุให้เขาไปพบคณะพนักงานสอบสวนในวันที่ 25 ม.ค. 2565

ทางตำรวจยังระบุว่าหากเขาไม่เดินทางมา อาจจะมีการไปขอออกหมายจับต่อไป อาร์มจึงได้ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไป เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด เขายังไม่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดกำแพงเพชรได้ทัน

ต่อมาวันที่ 29 ม.ค. 2565 อาร์ม พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.สุวิช พิศอ่อน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาต่ออาร์ม ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

พฤติการณ์ข้อกล่าวหาระบุว่าเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. นายพุทธ พุทธัสสะ ได้เข้าใช้แอพพลิเคชั่นติ๊กต๊อก (TikTok) พบผู้ใช้บัญชีหนึ่ง โพสต์ภาพเคลื่อนไหวตนเองแล้วกล่าวถ้อยคำว่า “ไอ้เหี้ย รอ 9 รอ 10 นาทีแล้วแม่ง แมวเหี้ยอะไรเดี๋ยวกูเตะแม่งไปโน่นเลย เฮ้ย เหมียวๆๆ โอ้ยต่อหน้ากล้อง ต้องเป็นคนดีหน่อย โอวเหมียวๆๆ ไปไหนแล้วล่ะ” ถ้อยคำที่ผู้ต้องหาพูด เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาดมาดร้ายพระมหากษัตริย์ นายพุทธ พุทธัสสะ จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

อาร์มได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การในชั้นศาลต่อไป โดยมีการขอบันทึกภาพวิดีโอระหว่างการสอบสวนเอาไว้ด้วย ทางตำรวจยังได้ให้ผู้ต้องหาพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ และขอเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) ของผู้ต้องหาไว้ด้วย แต่อาร์มปฏิเสธเรื่องการเก็บ DNA เนื่องจากเห็นว่าไม่เกี่ยวกับคดีที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

หลังการสอบสวน พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้ โดยจะติดต่อนัดหมายมาส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการต่อไป

.

.

อาร์มระบุว่า เขาจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 และไม่ได้เรียนต่อ เคยประกอบอาชีพเป็นเด็กปั๊มน้ำมันในกรุงเทพฯ ก่อนจะโยกย้ายไปอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ช่วงเวลาหนึ่ง ระหว่างนั้น เขาเคยเป็นนักร้องที่ทำคลิปเพลงเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักระดับหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เกาะพะงันกับแฟนในช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีงานเพลงและรายได้จากการรีวิวสินค้าอยู่บ้าง

อาร์มเล่าว่า เขาไม่เคยไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองมาก่อน แต่ได้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารต่างๆ ในโลกออนไลน์ และรับรู้เรื่องปัญหาเกี่ยวกับมาตรา 112 มาบ้าง รวมทั้งเคยไปคอมเมนต์ให้กำลังใจคนในเฟซบุ๊กที่ทราบว่าถูกดำเนินคดีนี้ แต่ไม่คิดว่าตนเองจะถูกดำเนินคดีข้อหานี้เอง และไม่คิดว่าจะต้องมาถึงจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นจังหวัดที่เขาไม่เคยเดินทางไปมาก่อน

ในการเดินทาง อาร์มต้องใช้ระยะเวลาเดินทางจากเกาะพะงัน เป็นเวลาถึง 2 วัน คือนั่งเรือออกจากเกาะในช่วงบ่ายวันที่ 27 ม.ค. 2565 เพื่อต่อรถจากสุราษฎร์ธานีเข้ามายังกรุงเทพฯ และนั่งรถทัวร์ต่อมายังจังหวัดกำแพงเพชร มีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเดินทางไป-กลับ ราว 4,000 บาท ยังไม่นับค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย โดยในการเดินทางกลับ ก็คงต้องใช้เวลา 2 วัน โดยไปค้างคืนก่อนในกรุงเทพฯ เช่นกัน การต้องเดินทางไกล ยังทำให้ญาติหรือแฟนไม่สามารถเดินทางมาให้กำลังใจเขาได้ด้วย เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายพอ

อาร์มระบุว่า เขาไม่ถึงกับเกรงกลัวคดีที่ถูกกล่าวหานี้ และพร้อมต่อสู้คดี แต่กังวลต่อภาระทางคดีที่เกิดขึ้น เพราะทำให้เขาต้องเดินทางไกล ซึ่งไม่รู้ว่าต้องมาที่จังหวัดกำแพงเพชรอีกกี่ครั้ง และจะกระทบต่อชีวิตด้านการงานของเขาต่อไปหรือไม่ ทั้งเขาไม่เคยรู้จักผู้กล่าวหาที่อาศัยอยู่ในกำแพงเพชร จึงไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมากล่าวหาเขาเช่นนี้

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หลังการกลับมาบังคับใช้มาตรา 112 อีกระลอก ตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงวันที่ 29 ม.ค. 2565 พบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ไปแล้วอย่างน้อย 169 คน ใน 175 คดี โดยในจำนวนนี้มีจำนวน 84 คดี ที่มี “ประชาชน” เป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของคดีเท่าที่ทราบข้อมูล

>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-65

.

X