ศาลเรียกไต่สวนด่วน “ลูกเกด” ชลธิชา เหตุเผยแพร่เงื่อนไขประกันตัวไม่ตรงข้อเท็จจริง กระทบต่อภาพลักษณ์ศาล

23 มี.ค. 2565 เวลา 13.30 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีมาตรา 112 ของ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมจากกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี กรณีโพสต์ข้อความถึงสถาบันกษัตริย์ “ราษฎรสาส์น” เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563 โดยมีนพดล พรหมภาสิต เลขาศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) เป็นผู้กล่าวหา โดยพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ได้มีคำสั่งฟ้องชลธิชาไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565  

>> อัยการสั่งฟ้อง ม.112 “ลูกเกด” เหตุโพสต์ “ราษฎรสาสน์” ศาลให้ประกัน แต่ให้ใส่ EM พร้อมอีก 4 เงื่อนไข

การนัดไต่สวนครั้งนี้สืบเนื่องมากจาก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2565 ชลธิชาได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเข้าพบรองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนสถานการณ์การบังคับใช้มาตรา 112 รวมทั้งเงื่อนไขการประกันตัวที่ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชน ไม่ต่างอะไรกับการที่ศาลมีคำพิพากษาไปแล้วว่ามีความผิด ทั้งที่ในสิทธิผู้ต้องหาควรถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนเจ้าหน้าที่ศาลได้ติดต่อมายังนายประกันของชลธิชา เพื่อขอนัดไต่สวนข้อเท็จจริง

ศาลระบุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงื่อนไขการประกันคลาดเคลื่อน-สั่งให้แถลงข่าวแก้ไขภายใน 3 วัน พร้อมนัดไต่สวนใหม่ 19 เม.ย.

ที่ห้องพิจารณา 812 เวลา 13.30 น. ชลธิชา พร้อมทนายความ และประชาชนผู้มาให้กำลังใจจำนวนหนึ่งได้ทยอยมาถึงห้องพิจารณาคดี นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส ตัวแทนข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) และ ส.ส. จากพรรคก้าวไกล มาเข้าร่วมสังเกตการณ์อีกด้วย

ต่อมา เวลา 14.00 น. ศาลขึ้นนั่งบัลลังก์ โดยก่อนเริ่มไต่สวน ศาลแจ้งผู้เข้าฟังว่าไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียง หากฝ่าฝืนจะตั้งข้อหาละเมิดอำนาจศาล พร้อมกับแจ้งว่า วันนี้ไม่ได้จะมีการไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวแต่อย่างใด เพียงแต่เรียกจำเลยมาสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง 

จากนั้น ศาลได้ขานชื่อผู้เป็นนายประกันในคดีของชลธิชา แต่ทนายแจ้งว่านายประกันติดธุระไม่สามารถเดินทางมาในวันนี้ได้ ศาลจึงกล่าวว่าในนัดหน้าให้นัดนายประกันมาด้วย 

เวลา 14.05 น. ศาลได้สอบถามชลธิชาต่อว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ที่นายประกันจำเลยได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยได้ทราบเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ ชลธิชาตอบว่า ทราบแล้ว แต่ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขบางประการที่ศาลกําหนดไว้ ซึ่งในประเด็นนี้ศาลระบุว่า หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขการประกันตัวก็ขอให้อุทธรณ์ต่อศาล โดยศาลจะพิจารณาอย่างเป็นเหตุเป็นผล และให้ความเมตตาเห็นอกเห็นใจต่อจำเลย 

หลังศาลถามจนแน่ใจแล้วว่า จำเลยทราบเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว ศาลจึงได้เริ่มอ่านคำพูดของจำเลยที่ปรากฎตามเอกสารหลักฐานที่รวบรวมมา พร้อมถามจำเลยว่าข้อความดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ หลังซักถามได้เพียงครู่เดียว ทนายจำเลยได้ขอเอกสารหลักฐานดังกล่าวมา เพื่อขอตรวจสอบร่วมกับจำเลย  

เวลา 14.15 น. ทนายจำเลยรับว่าข้อความตามเอกสารหลักฐานเป็นความจริง จำเลยได้ให้สัมภาษณ์เรื่องเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวจริง แต่สำหรับข้อความในเว็บไซต์ ไทยโพสต์ ที่พาดหัวว่า “ศาลคุกคามผู้เห็นต่างทางการเมือง” นั้นเป็นถ้อยคำที่สำนักข่าวพาดหัวขึ้นเอง จำเลยไม่ได้กล่าวข้อความเช่นนั้น ศาลจึงกล่าวว่า หากจำเลยไม่ได้เป็นผู้เขียนข้อความ ศาลก็จะเรียกสำนักข่าวมาสอบถาม และอาจมีการฟ้องร้องดำเนินคดีภายหลัง

ต่อมา ศาลเปิดหลักฐานคลิปเสียงของชลธิชาที่แถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 22 มี.ค 2565 หลังฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว จำเลยและทนายจำเลยปรึกษาร่วมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชี้แจงต่อศาลว่าจะเขียนคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือ ซึ่งศาลอนุญาต 

เวลา 14.20 น. ศาลอ่านคำร้องเงื่อนไขประกันตัวของชลธิชาตามคำร้องของนายประกันที่ยื่นต่อศาลไว้ เมื่อ 15 มี.ค. 2565 

ประเด็นแรก ในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยระบุว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ จึงขอให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว การปล่อยชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีตามคําแนะนําของประธานศาลฎีกา โดยกําหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของจําเลย เช่น การให้ใช้อุปกรณ์ EM เพื่อจำกัดการเดินทางของจำเลย และให้จำเลยรายงานตัวต่อศาลทางโทรศัทพ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น” ศาลเห็นว่าตามข้อเท็จจริงดังกล่าว นายประกันของจำเลยเป็นผู้เสนอเงื่อนไขให้จำเลยติดกำไล EM ศาลจึงทำตามที่นายประกันร้องขอ ไม่ได้เป็นคำสั่งที่มาจากศาลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เรื่องเงื่อนไขการติดกำไล EM ชลธิชาได้ชี้แจงต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ตนได้ยื่นคำแถลงคัดค้านต่อศาลเรื่องไม่ขอติด EM ไป โดยในคำร้องระบุว่า จะขอวางหลักทรัพย์ในการปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่ม แต่ศาลได้คัดค้านคำร้องดังกล่าวไป 

ศาลได้โต้แย้งในประเด็นนี้ว่า ในวันนั้นศาลได้มีคำสั่งลงไปแล้ว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทันที พร้อมกับระบุว่า หากจำเลยไม่ยอมรับเงื่อนไขการติด EM ก็ให้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ และขอให้จำเลยทำไปตามกระบวนการ ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่า ศาลรังแกจำเลยและเลือกปฏิบัติ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการ “ดูหมิ่นศาล”

ประเด็นที่สอง เรื่องที่จำเลยแถลงข่าวที่พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 ศาลพบว่ามีข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนบางประการ โดยจำเลยได้แถลงข่าวว่า “ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดซ้ำ และจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักรัฐธรรมนูญ ” 

ศาลจึงได้ชี้แจงว่าเงื่อนไขที่ถูกคือ “ห้ามจำเลยกระทำกิจกรรมในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหา” พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ‘ศาลไม่ได้บอกว่าจำเลยกระทำผิด แต่ห้ามจำเลยกระทำในลักษณะเดียวกันอีก ที่สั่งว่าห้ามกระทำในลักษณะเดียวกันและให้ประกันโดยมีเงื่อนไข ก็เพราะไม่ต้องการให้เกิดคดีอีก’ 

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทนายความชี้แจงต่อศาลว่า เนื่องจากผู้ต้องหาทางการเมืองมีความเห็นที่แตกต่างจากรัฐ การใช้คำว่า ‘ห้ามกระทำในลักษณะนี้’ จึงมีเส้นกั้นบางๆ ที่หมิ่นเหม่ และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งและคุกคามจำเลย พร้อมกันนี้ ชลธิชาได้อธิบายต่อศาลว่า ตนเพียงตั้งข้อสังเกตว่าเงื่อนไขดังกล่าวมีความคลุมเครือ และยากต่อการตีความว่าการกระทำใดเข้าข่ายการฝ่าฝืนเงื่อนไขบ้าง

ส่วนเรื่องเงื่อนไขที่ให้อยู่ในเคหสถานตามเวลาที่กำหนดนั้น ศาลกล่าวว่าจำเลยแถลงข่าวผิดพลาด โดยจำเลยแถลงว่า “ห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 05.00 – 20.00 น.” โดยศาลแย้งว่าเงื่อนไขที่ถูกคือ “ห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 20.00 – 05.00 น.” ซึ่งในประเด็นนี้ ชลธิชาชี้ยอมรับว่ากล่าวช่วงเวลาสลับกันและขออภัยต่อศาล 

จากนั้น ศาลได้เสนอให้จำเลยแถลงข่าวต่อสาธารณะเพื่อแก้ไขข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยทนายจําเลยและจําเลยแจ้งว่าจะแถลงข้อผิดพลาดดังกล่าวภายใน 3 วัน รวมทั้งทนายความจะทำคำแถลงมายื่นต่อศาลภายใน 15 วัน

หลังเสร็จสิ้น ศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณา พร้อมนัดพร้อมหรือนัดไต่สวนต่อไปในวันที่ 19 เม.ย. 2565 เวลา 13.30 น.

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

‘ลูกเกด-ไมค์’ รับทราบข้อกล่าวหา 112 เหตุ ‘ราษฎรสาส์น’ โพสต์จดหมายถึงกษัตริย์

จับตาสถานการณ์ศาลนัดไต่สวน “ถอนประกันตัว” 4 นักกิจกรรมคดี ม.112 

อัยการสั่งฟ้อง ม.112 “ลูกเกด” เหตุโพสต์ “ราษฎรสาสน์” ศาลให้ประกัน แต่ให้ใส่ EM พร้อมอีก 4 เงื่อนไข

X