“พระประนมกร” ถูก ตร.จับสึกครั้งที่ 2 – ย้ายตัวกลางดึก หลังถูกจับเหตุร่วม #ม็อบ13สิงหา64 กับทะลุฟ้า  

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.36 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า พระประนมกร ปราณีต หรือ พระประนมกรพุทธิเชฏโฐ อายุ 54 ปี ถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับของศาลแขวงดุสิต ที่ จ.205/2564 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2564 ที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยถูกกล่าวหาในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วม #ม็อบ13สิงหา เมื่อปี 2564 กับกลุ่มทะลุฟ้า

บันทึกการจับกุมระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดได้รับแจ้งจากสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนาม) แต่ประสงค์รับเงินสินบนนำจับ แจ้งว่าพระประนมกรได้พักอาศัยอยู่ที่กระท่อมริมถนนลูกรังแห่งหนึ่งใกล้กับวัดโพธิ์ทอง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมรวม 4 หน่วยงาน ประมาณ 24 นาย จึงได้ร่วมกันเข้าจับกุมพระประนมกรที่บ้านหลังดังกล่าว โดยได้แจ้งกับพระประนมกรว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงดุสิต 

พระประนมกรยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่มีทนายความหรือผู้ไว้วางใจร่วมในการทำบันทึกจับกุมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ในบันทึกจับกุมอ้างว่า หลังพระประนมกรถูกจับกุม เขาไม่ให้ความร่วมมือลาสิกแต่อย่างใด จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวพระประนมกรไปยัง สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 

17.50 น. ตำรวจชุดจับกุมได้นิมนต์พระเจ้าอาวาสวัดกลางภูสิงห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยตึกชู จ.ศรีสะเกษ มาที่ สภ.ภูสิงห์ เพื่อทำพิธีลาสิกขาให้กับพระประนมกร จากนั้นได้ควบคุมตัวไปยัง สน.พญาไท กรุงเทพฯ ในเวลากลางดึกประมาณ 22.00 น.  

ในวันถัดมา (12 มี.ค. 2565) เวลา 07.00 น. หลังเดินทางกว่า 9 ชั่วโมง ตำรวจได้ควบคุมตัวอดีตพระประนมกรจาก ไปถึงที่ สน.พญาไท พนักงานสอบสวนจึงเริ่มดำเนินการสอบปากคำจนแล้วเสร็จ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วมชุมนุม #ม็อบ13สิงหา64 โดยเขาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

09.50 น. ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวอดีตพระประนมกรในชั้นสอบสวน ด้วยเงินสด 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ซึ่งต่อมาตำรวจอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวและนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท อีกครั้ง ในวันที่ 1 เม.ย. 2565  

.

พระประนมกรบวชมาแล้ว 13 พรรษา เคยถูกจับสึกหลังถูกจับจากเหตุสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า เมื่อปี 64

พระประนมกรเป็นพระที่บวชมาแล้ว 13 พรรษา โดยเป็นพระป่าสายกรรมฐาน ช่วง 7 พรรษาหลังนี้ท่านได้ออกธุดงค์และจำพรรษายังที่ต่างๆ เพื่อออกแสวงโมกขธรรม ก่อนหน้านี้ พระประนมกรคือ พระสงฆ์ 1 ใน 2 รูปที่เคยเข้าร่วมเดินกับกลุ่มทะลุฟ้าจากจังหวัดโคราชไปจนถึงกรุงเทพฯ และถูกจับไปพร้อมกับประชาชนอีกกว่า 70 คนหลังตำรวจสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564 

จากนั้นเขาถูกบังคับสึกกับเจ้าคณะแขวงดุสิตที่วัดเบญจมบพิตร โดยมีการบังคับถอดผ้าไตรจีวร ทั้งที่ทั้งสองไม่ยินยอม และถูกนำตัวไปควบคุมกับผู้ต้องหาอื่นที่ บก.ตชด.1 ก่อนได้รับการประกันตัวในท้ายที่สุด ซึ่งในคดีนี้พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงดุสิตไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน ปี 2564

>> สรุปคดีหมู่บ้านทะลุฟ้า จับมากสุดเป็นสถิติ 99 คน แจ้ง 5 ข้อหา ก่อนได้ประกันตัวทั้งหมด

>> เพียง 1 เดือน หลังเข้าสลาย “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ช่วงเช้ามืด อัยการยื่นฟ้องนักกิจกรรม-พระ-คนไร้บ้าน 61 ราย

สำหรับคดีชุมนุม #ม็อบ13สิงหา64 นี้ พระประนมกรถูกออกหมายจับ เพราะยังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาหลังตำรวจออกหมายเรียก เนื่องเพราะการออกธุดงค์ ทำให้ไม่ได้ทราบว่ามีการออกหมายเรียกดังกล่าว

การชุมนุมดังกล่าวใช้ชื่อกิจกรรม “ศุกร์ 13 ไล่ล่าทรราช” จัดขึ้นโดยกลุ่มทะลุฟ้า โดยมีการนัดหมายมวลชนเพื่อเดินคล้องแขนเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีวัตถุประสงค์เพียงข้อเดียวเพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กิจกรรมในวันดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ในเวลาประมาณ 15.45 น. โดยมีผู้ปราศรัยขึ้นปราศรัยในประเด็นต่างๆ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ การบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลในสถาการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ หนี้ครัวเรือน ฯลฯ

จากนั้นมวลชนเคลื่อนขบวนไปบ้านพักนายกฯ ถึงที่แยกดินแดง พบว่ามีแนวตู้คอนเทนเนอร์ที่ตำรวจนำมาวางขวางเส้นทางยาวกว่า 100 เมตร มวลชนจึงปักหลักปราศรัยและดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบสันติวิธี แต่ไม่นานเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้ตอบโต้มวลชนด้วยการยิงแก็สน้ำตาและกระสุนยาง ทำให้กลุ่มทะลุฟ้าประกาศยุติการชุมนุมลงในเวลา 17.25 น. โดยยังไม่ได้เคลื่อนขบวนไปถึงบ้านพักของนายกฯ แต่อย่างใด 

ระหว่างการชุมนุมดังกล่าว “ลูกนัท” ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ถูกกระสุนแก็สน้ำตาเข้าบริเวณเบ้าตาด้านขวาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเข้ารับการผ่าตัดและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไม่นาน ลูกนัทได้ออกมาเปิดเผยพร้อมกับใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าดวงตาข้างขวาที่ถูกยิงดังกล่าว “บอด” ไม่สามารถมองเห็นได้ 

X