อัยการลำปางสั่งฟ้อง “ทิวากร” คดี ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ เหตุโพสต์ล่ารายชื่อทำประชามติคงไว้หรือเลิกระบอบกษัตริย์

วันที่ 3 มี.ค. 2565 ที่ศาลจังหวัดลำปาง ทิวากร วิถีตน เกษตรกรวัย 45 ปี ผู้สวมเสื้อ “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” เดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่นเพื่อรายงานตัวตามนัดของพนักงานอัยการจังหวัดลำปาง จากกรณีถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความล่ารายชื่อคนที่ต้องการให้ทำประชามติเลือกว่าจะคงไว้หรือยกเลิกระบอบกษัตริย์ พร้อมกับเปิดแคมเปญในเว็บไซต์ Change.org ให้ประชาชนเข้าไปลงชื่อ

คดีนี้สืบเนื่องจากนายทวี อินทะ เครือข่ายเฝ้าระวังปกป้องและพิทักษ์สถาบันฯ ในจังหวัดลำปาง เป็นผู้กล่าวหาต่อทิวากรไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง ในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ทิวากรขับรถจักรยานยนต์จากจังหวัดขอนแก่นมารับทราบข้อกล่าวหา และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

>> “ทิวากร” เดินทางไกล ขอนแก่น-ลำปาง แสดงตัวปฏิเสธข้อหา ม.116 จากโพสต์ล่าชื่อประชามติระบอบกษัตริย์

.

เวลา 9.30 น. ทิวากรเดินทางมาถึงศาลจังหวัดลำปาง ตามเวลาที่นัดกับพนักงานอัยการ โดยสวมเสื้อสีขาว “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เขาต้องเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น ต่อมาเขาถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้เขาไปอยู่ในห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาลในเวลาประมาณ 10.40 น.

ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้เงินสดเป็นหลักประกันจำนวน 70,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดวันนัดอธิบายสิทธิ วันที่ 22 มี.ค. 2565 เวลา 9.00 น. และนัดพร้อมวันที่ 4 เม.ย. 2565 เวลา 9.00 น. รวมเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัว 5 ชั่วโมงเศษ

สำหรับคำฟ้องคดีนี้มี ร.ต.อ.สัญญา บุญภา เป็นพนักงานอัยการผู้เรียงฟ้อง บรรยายว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 จำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านเฟซบุ๊ค “ทิวากร วิถีตน” ซึ่งเปิดสาธารณะให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลได้ โดยโพสต์แสดงประกาศ โฆษณาชักชวนให้ปรากฏข้อความว่า “เปิดแล้ว ! ล่ารายชื่อคนที่ต้องการให้ทำประชามติให้เลือกว่าจะคงไว้หรือยกเลิกระบอบกษัตริย์” และข้อความบนลายพื้นว่า “เราฝันถึงระบอบสาธารณรัฐ/สหพันธรัฐที่ไม่ต้องมีกษัตริย์” และมีข้อความถัดลงมาด้านล่างอีกว่า “change.org เริ่มปฏิบัติการ: ล่ารายชื่อคนที่ต้องการทำประชามติให้เลือกว่าจะคงไว้หรือยกเลิกระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

ข้อความที่จำเลยโพสต์แสดงทำให้ปรากฏในสังคมสื่อออนไลน์นั้น มิใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และมิได้กระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่บัญญัติไว้ว่าบุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ ทั้งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยที่จำเลยจะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การโพสต์ข้อความดังกล่าวของจำเลยเป็นการยุยง ปลุกปั่น ปลุกเร้า และชักชวนประชาชนเพื่อให้คล้อยตามและหลงผิดรวมตัวกัน เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนทั่วไปที่อ่านข้อความ เพื่อที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร โดยร่วมมือกับจำเลยและเข้าลงชื่อในเว็บไซต์ change.org ที่จำเลยเปิดให้ลงประชามติ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของจำเลยที่ต้องการยกเลิกระบอบกษัตริย์และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เป็นระบอบสาธารณรัฐหรือสหพันธรัฐที่ไม่มีกษัตริย์แทน

ในส่วนการขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในชั้นพิจารณา พนักงานอัยการขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

สำหรับคดีนี้ นับเป็นคดีจากการแสดงออกทางการเมืองคดีที่สองของทิวากร ก่อนหน้านี้เขาถูกกล่าวหาและฟ้องร้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น จากกรณีการโพสต์เฟซบุ๊ก 3 ข้อความ รวมทั้งการโพสต์ภาพการสวมเสื้อยืดที่มีข้อความ “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” ด้วย โดยคดีนี้มีกำหนดนัดสืบพยานในช่วงวันที่ 24-27 พ.ค. 2565 นี้

.

อ่านเรื่องราวของทิวากรเพิ่มเติม

กว่าจะ ‘หมดศรัทธาฯ’: เรื่องราวของ ‘ทิวากร วิถีตน’ กับวิถีการต่อสู้ที่ตนเลือกเอง

อัยการขอนแก่นฟ้อง ม.112-116-พ.ร.บ.คอมฯ ‘ทิวากร’ รวม 3 กรรม เหตุโพสต์ภาพสวมเสื้อ “เราหมดศรัทธาฯ” – เรียกร้องยุติการใช้ 112

กรณีทิวากร กับปัญหาการบังคับใช้ “พ.ร.บ.สุขภาพจิต” และการบังคับให้กลายเป็น “ผู้ป่วย”

.

X