ศาลให้ประกัน “รุ้ง” คดีครอปท็อป คืนอิสรภาพต่ออีก 155 วัน พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิม ด้านเจ้าตัวหวังให้ศาลคืนอิสรภาพ “เบนจา-เพนกวิน” ออกมาเรียนเช่นกัน

วันที่ 12 ม.ค. 65 ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล พร้อมครอบครัว และ ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ได้เดินทางมาฟังคำสั่งขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หลังทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่มเติมในคดีชุมนุม #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน เนื่องจากครบกำหนดคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อไปสอบปลายภาคของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังเธอถูกจำกัดอิสรภาพ 42 วัน พร้อมกำหนด 5 เงื่อนไข อาทิ ไม่ทำกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบันกษัตริย์ ห้ามออกนอกเคหสถานตลอดเวลา ไปจนถึงให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) 

ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป  พร้อมกำหนดช่วงระยะเวลาปล่อยตัว ถึงวันที่ 25 พ.ค. 65 เนื่องจากเห็นเหตุจำเป็นต่อการเรียนของปนัสยา โดยกำหนดเงื่อนไขเดิม 5 ข้อ แต่ลดระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานลง เหลือเฉพาะช่วงกลางคืน

เปิดคำร้องฉบับเพิ่มเติม ทนายขอศาลยกเลิกกำหนดปล่อยตัวเพื่อสิทธิการศึกษา ด้านจำเลยยังยินดีทำตามเงื่อนไขเดิม

ในคำร้องเพิ่มเติมที่ปนัสยายื่นร้องขอต่อศาล ระบุว่าจำเลย ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาที่ 2/2564 จำนวน 6 วิชา โดยแต่ละวิชาจำเป็นต้องเข้าเรียน เข้าสอบ และจัดทำรายการส่งตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด 

ทั้งมีรายวิชาการวิจัยรายบุคคล ที่ต้องเก็บข้อมูลภาคสนาม ต้องค้นคว้าข้อมูลจากห้องสมุดและแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ รวมถึงพบอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นระยะ หากจำเลยไม่สามารถทำการศึกษาวิจัยตามกระบวนการ และไม่ผ่านรายวิชาดังกล่าวซึ่งเป็นวิชาบังคับของหลักสูตร จะไม่สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตรได้ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิทางการศึกษา และอนาคตของจำเลย

อีกทั้ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จำเลยได้พิสูจน์ตนด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโดยเคร่งครัด ไม่เคยกระทำการใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงจะผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำเลยจะไม่ได้ไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่นแต่อย่างใด

คำร้องได้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา โดยจำเลยยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งและเงื่อนไขของศาลเช่นเดิมทุกประการ

ศาลให้ประกันต่อถึงสิ้นเดือนพ.ค. พร้อมกำหนด 5 เงื่อนไขเดิม ระบุ จำเลยมีความจำเป็นต้องเรียน 

เวลา 14.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวคดีชุมนุม #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน อีกครั้ง โดยระบุว่าหลังครบกำหนดเวลาคำสั่งให้ประกันตัว ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ละเมิดเงื่อนไขและข้อห้ามที่ศาลกําหนด 

ทั้งเมื่อพิจารณาถึงเหตุจําเป็นตามคําร้องเห็นว่า หากจําเลยถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีย่อมมีผลกระทบต่อการศึกษาของจําเลย อาจถึงขั้นไม่สามารถสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ และเมื่อจําเลยยินยอมปฏิบัติคําสั่งและเงื่อนไขเดิมของศาลทุกประการ จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยระหว่างพิจารณา โดยถือเอาราคาประกัน หลักทรัพย์และสัญญาประกันเดิมต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ศาลยังคงกำหนดเงื่อนไขเดิม 5 ข้อ เพื่อไม่ให้จําเลยมีโอกาสไปกระทําการอันมีลักษณะเป็นความผิดเช่นเดียวกับคดีนี้อีก อีกทั้งศาลยังคงกำหนดระยะเวลาการประกันในครั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 25 พ.ค. 65 ซึ่งเป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของปนัสยา พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้ผู้ประกันหรือผู้กํากับดูแล นําตัวจําเลยมาส่งศาลภายในวันที่ 26 พ.ค. 65 เวลา 12.00 น. ด้วย 

สำหรับเงื่อนไขที่ศาลกำหนดมี 5 ข้อ ดังนี้

  1. ห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่จะกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 
  2. ห้ามจำเลยเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
  3. ห้ามจำเลยออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 18.00-06.00 น. เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปเรียนไปสอบ หรือมีเหตุอื่นโดยได้รับอนุญาตจากศาล 
  4. ห้ามจำเลยออกนอกราชอาณาจักร
  5. ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM)

นอกจากนี้ ศาลยังได้นัดให้จําเลยมารายงานตัวต่อศาลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อห้ามที่ศาลกําหนดในการปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง ในวันที่ 10 มี.ค. 65 ด้วย

คำสั่งลงนามโดย นายสันติ ชูกิจทรัพย์ไพศาล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้

“รุ้ง” ยันศาลควรคืนสิทธิประกันตัวอย่างเต็มที่ ไม่ควรกำหนดเงื่อนไขใดๆ พร้อมเปรยมีความหวังมากขึ้นว่า “เบนจา-เพนกวิน” จะได้ออกมาเรียนเช่นตน

หลังศาลอ่านคำสั่งดังกล่าว ปนัสยามีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและผ่อนคลายมากขึ้น โดยบริเวณด้านหน้าศาลในวันนี้ นอกจากครอบครัวและอาจารย์แล้ว ยังมี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และเพื่อนๆ ของเธอได้เดินทางมาให้กำลังใจด้วยเช่นกัน

ปนัสยาได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปล่อยตัวในครั้งนี้ว่า เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับการประกันอีก เนื่องจากครั้งก่อนเธอยื่นประกันด้วยเรื่องสอบ แต่ครั้งนี้ยื่นด้วยเหตุผลของการเรียนเพราะอยู่ในช่วงเวลาของการเปิดเทอม

เธอได้กล่าวถึงเงื่อนไขที่ศาลได้ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในเรื่องของเวลาที่อยู่ในเคหสถานจากตลอดเวลาเป็นตั้งแต่ 18.00-06.00 น. ว่า หากอยู่ในสถานการณ์โรคระบาดอย่างที่เป็นช่วงเวลาดังกล่าวที่ถูกกำหนดขึ้นยังไม่มีปัญหาสำหรับเธอ แต่หากมีการเรียนเป็น On-site (การนั่งเรียนในชั้นเรียน) เวลาอาจจะไม่เหมาะสมมากนัก เนื่องจากนักศึกษาไม่ได้มาเรียนแล้วกลับห้อง แต่ยังมีงานกลุ่ม หรือกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัยที่จะต้องเข้าร่วม เพื่อสร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับชีวิตในมหาวิทยาลัย

เธอมองว่า หากศาลตั้งเงื่อนไขทั้งเรื่องห้ามทำกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบันกษัตริย์ ห้ามทำกิจกรรมที่สร้างความไม่สงบต่อบ้านเมือง ทั้งยังติด EM สิ่งเหล่านี้น่าจะเพียงพอ ซึ่งไม่จำเป็นต้องกักขังเราไว้ที่บ้านก็ได้

“เราไม่ได้ไปทำอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าทำก็เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอยู่ดี”

เธอกล่าวว่า การที่ศาลตั้งข้อกำหนดหรือกำจัดกรอบแบบนี้ เป็นการละเมิดเสรีภาพและในขณะเดียวกันก็เป็นการพรากเสรีภาพของเธอเช่นเดียวกัน

“เราเครียดนะ”

ปนัสยาเล่าถึงความรู้สึกในช่วงเวลากว่า 42 วันที่ต้องใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในห้องพักขนาด 30 ตารางเมตรตลอดเวลา ว่า เธอรู้สึกเครียด แห้งเฉา และรู้สึกว่าตัวเธอเองอยากไปพบจิตแพทย์ เพราะไม่ได้พบปะเพื่อนฝูงและผู้คนบ่อยนัก เนื่องจากที่พักเธออยู่ไกล หากเพื่อนจะมา ต้องขับรถมาหา ซึ่งก็ลำบาก อีกทั้งเธอยังไม่สามารถออกไปเดินเล่นข้างนอกหรือเดินเที่ยวตามปกติได้ รวมถึงการกินอยู่ก็มีค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น เพราะเธอต้องสั่งอาหารผ่านบริการเดลิเวอรี่ที่มีค่าใช้จ่ายแพงกว่าการไปทานที่ร้านอาหารปกติ

แม้อยู่ในเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง จะดีกว่าอยู่ในเรือนจำ เพราะปนัสยาสามารถใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คติดต่อกับโลกภายนอกได้  แต่เธอมองว่าไม่ควรมีการตั้งเงื่อนไขแบบนี้ต่อไป และศาลควรคืนสิทธิการประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกำหนดเวลาหรือกำหนดเงื่อนไขใดๆ เพราะอย่างไรพวกเธอก็ยังเป็น “ผู้บริสุทธิ์อยู่” ยังไม่เคยได้รับคำตัดสินคดีแม้แต่ครั้งเดียว และยืนยันในสิ่งที่เคยกระทำมาตลอดว่ายืนอยู่บนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนพึงกระทำได้อยู่เสมอ

“ตอนนี้เรากำลังคิดถึงเบนจากับเพนกวิน และหวังว่าเพื่อนทั้งสองจะกลับออกมาเรียนด้วยเช่นเดียวกัน”

ปนัสนากล่าวว่า หลังจากคำสั่งในวันนี้ ก็คาดหวังว่า “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ เบนจา อะปัญ จะได้รับการประกันตัวเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอมและทั้งสองได้ลงทะเบียนเรียนไปแล้วด้วย

อนึ่ง จากคำสั่งดังกล่าวทำให้ปนัสยาไม่ต้องถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำในวันนี้

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา รัชดาฯ ปนัสยามีนัดฟังคำสั่งในการขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อไปอีก 2 คดี ได้แก่ คดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 63, คดีชุมนุม #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 

นอกจากนั้นยังมีคดีชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 63 ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ในเวลา 13.30 น.

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ศาลอาญาไต่สวนคำร้องขอประกันตัว ‘รุ้ง’ 2 คดี ก่อนให้ประกันไปสอบถึง 12 ม.ค. 65 ภายใต้ 5 เงื่อนไข

ศาลให้ประกัน! “รุ้ง-ปนัสยา”  คดีครอปท็อป-คดีอยุธยาไม่ทน ให้เวลา 42 วันไปสอบ พร้อมกำหนด 5 เงื่อนไขเช่นเดียวกับศาลอาญา

สถิติผู้ถูกคุมขังคดีทางการเมืองในระหว่างต่อสู้คดี

X