‘โตโต้’ รับทราบข้อหาร่วมคาร์ม็อบ1สิงหา ส่วน 3 นักศึกษาถูกแจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากคาร์ม็อบสตูล #ขับรถไล่ตู่

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 นักกิจกรรมและประชาชนที่ถูกออกหมายเรียกจากการร่วมกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองยังคงเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งกรณี “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ที่ถูกกล่าวหาจากคดีเข้าร่วม #คาร์ม็อบ1สิงหา ที่แยกราชประสงค์, ประชาชนที่ถูกกล่าวหาจากการเข้าร่วม #คาร์ม็อบคนพันธุ์ R ของกลุ่มอาชีวะฯ และที่จังหวัดสตูลก็มีนักศึกษา 3 ราย ถูกกล่าวหาจากการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบในพื้นที่

ขณะที่คดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการชุมนุมรำลึกครบรอบ 10 ปี การสังหารเสธฯ แดง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เพิ่งมีนัดตรวจพยานหลักฐานผ่านพ้นไป และศาลแขวงปทุมวันกำหนดนัดสืบพยานในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2565

‘โตโต้’ รับทราบข้อหาชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วม #คาร์ม็อบ1สิงหา

ที่ สน.ลุมพินี “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่ม We Volunteer ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก กรณีร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ #ม็อบ1สิงหา เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่แยกราชประสงค์ และเคลื่อนขบวนไปทางประตูน้ำ สู่ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564

คดีนี้มีรายงานผู้ถูกออกหมายเรียกทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำผู้จัดกิจกรรม, ปิยรัฐ จงเทพ และ โชคดี ร่มพฤกษ์ นักดนตรีเสื้อแดง

ในส่วนของปิยรัฐ ได้ถูก ร.ต.อ.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ พนักงานสอบสวน แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันชุมนุมฯ ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหาร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยรายละเอียดพฤติการณ์ที่กล่าวหาระบุเพียงว่าตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สน.ลุมพินี ที่เข้าติดตามกิจกรรม พบว่านายปิยรัฐได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย

ปิยรัฐได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป และยังปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้นัดหมายมาส่งสำนวนให้อัยการต่อไปในวันที่ 7 ต.ค. 64

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่การเริ่มเคลื่อนไหวของเยาวชนปลดแอกในเดือนกรกฎาคม 2563 “โตโต้” ปิยรัฐ ได้ถูกกล่าวหาดำเนินคดีทางการเมืองไปแล้วรวม 15 คดี โดยเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 3 คดี และคดีที่ถูกเปรียบเทียบปรับ ทำให้คดีสิ้นสุดไปแล้ว 1 คดี

ตร.สน.มีนบุรี แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้ร่วมคาร์ม็อบคนพันธุ์ R ของกลุ่มอาชีวะฯ อีก 1 ราย

ในวันเดียวกัน ที่ สน.มีนบุรี นายประสิทธิ์ ปู่มั่นคง อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกิจกรรม “รวมพลังคนพันธุ์ R CAR MOB อาชีวะขับไล่เผด็จการ” จัดโดยกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมตัวที่หน้าวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เพื่อเคลื่อนขบวนรถไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 64

สำหรับคดีนี้ มีรายงานตำรวจออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย นำโดย “ม่อน อาชีวะ” หรือนายธนเดช ศรีสงคราม แกนนำกลุ่ม ซึ่งได้เข้ารับทราบข้อหาไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.ธนาเดช หนูเอียด รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.มีนบุรี ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อประสิทธิ์ใน 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ เรื่องการฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับรถเป็นขบวนแห่ในลักษณะกีดขวางการจราจร

พฤติการณ์ที่กล่าวหาระบุเพียงว่าประสิทธิ์ได้เข้าร่วมชุมนุมรวมตัวในวันดังกล่าว กับผู้เข้าร่วมประมาณ 70 คน โดยมีธนเดช เป็นแกนนำ ประสิทธิ์จึงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป

3 นักศึกษาร่วมคาร์ม็อบสตูล #ขับรถไล่ตู่ ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ส่วนที่สภ.เมืองสตูล ในวันเดียวกัน ยังมีกรณีของผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบสตูล #ขับรถไล่ตู่ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มราษฎรสตูล ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในคดีที่มี พ.ต.อ.สนธยา ธูปทอง เป็นผู้กล่าวหา

สำหรับผู้ถูกออกหมายเรียก 3 ราย ยังเป็นนักศึกษาทั้งหมด ได้แก่ ฮัสซาน ทิ้งปากถ้ำ ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา ส่วนธีระเทพ จิตหลัง และศุภวิชญ์ แซะอามา ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ทั้งสามได้เดินทางไปรับทราบข้อหาพร้อมอาจารย์และทนายความ โดยได้ถูกคณะพนักงานสอบสวน นำโดย พ.ต.ท.พิรุณ ถวัลย์ธัญญา เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา เรื่องการร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคระบาดฯ ตามข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และร่วมกันฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดสตูล เรื่องการจัดชุมนุมที่มีความเสี่ยงการการแพร่ระบาดของโรคมากกว่า 20 คนขึ้นไป

ทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป

คดีนี้นับเป็นคดีจากกิจกรรมคาร์ม็อบคดีที่ 12 ในพื้นที่ทางภาคใต้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีการดำเนินคดีมาแล้วทั้งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช, กระบี่, ภูเก็ต, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส

คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมรำลึกครบรอบ 10 ปี สังหารเสธฯ แดง ศาลนัดสืบพยานมิถุนา 65

ขณะเดียวกัน ที่ศาลแขวงปทุมวัน ยังมีนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีของ 8 ผู้ชุมนุมรำลึกครบรอบ 10 ปีการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 63 ที่บริเวณสวนลุมพินี ซึ่งถูกอัยการสั่งฟ้องในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

จำเลยในคดีนี้มีทั้งหมด 8 คน ได้แก่ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” อนุรักษ์ เจนตวนิชย์, เสาวนีย์ สมพิชัย, ธานี สะสม, สมจิตร สอนศรี, ธัญวลัย ฝรั่งทอง, นวพร เจริญลาภ, วลี ญานะหงสา และมณฑา แสงเปล่ง โดยอนุรักษ์ถูกจับกุมขณะเข้าร่วมกิจกรรม ขณะที่อีก 7 คนเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก

ในนัดนี้ ศาลได้ถามคำให้การของจำเลยอีกครั้ง ทั้งหมดยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อัยการโจทก์ได้แถลงว่าจะนำสืบพยานทั้งหมด 10 ปาก โดยขอเวลาทั้งหมด 3 นัด ส่วนฝ่ายจำเลยแถลงสืบพยานรวมกัน 13 ปาก ขอเวลาสืบทั้งหมด 4 นัด ศาลจึงได้ให้คู่ความตกลงกำหนดวันนัดสืบพยานดังกล่าวที่ศูนย์นัดความฯ ต่อไป

ต่อมา อัยการโจทก์และฝ่ายจำเลย ได้ตกลงวันนัดสืบพยานรวมทั้งหมด 7 นัด ในระหว่างวันที่ 16-17, 22-24 และ 29-30 มิถุนายน 2565 ในเวลา 9.00 น. เป็นต้นไปของแต่ละวัน