ศาลนัดสืบพยาน ม.ค. 65 คดี ม.112 “ขนุน-จัสติน” ปราศรัยในชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์

วันนี้ (5 ก.ค. 64) เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีของ “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นิสิตภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แกนนำกลุ่ม มศว คนรุ่นเปลี่ยน และ “จัสติน” ชูเกียรติ แสงวงค์ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีการปราศรัยในชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63

ในนัดนี้ นักกิจกรรมทั้งสองเดินทางมาศาล พร้อมทนายความ ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้ฟัง จําเลยทั้งสองยืนยันให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทําความผิดตามฟ้อง และได้ยื่นคำให้การเป็นหนังสือประกอบ

ต่อมา ศาลสอบถามคู่ความเกี่ยวกับพยานวัตถุและพยานเอกสารที่จะให้คู่ความ

อีกฝ่ายหนึ่งตรวจดู อัยการโจทก์แถลงว่าประสงค์ที่จะส่งพยานเอกสารรวมทั้งสิ้น 19 ฉบับ ขณะที่ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำส่งพยานเอกสาร 1 ฉบับ ศาลได้รับไว้ และให้คู่ความตรวจดู

จากนั้น อัยการแถลงว่าจะนำสืบพยานบุคคลทั้งหมด 12 ปาก โดยขอใช้ระยะเวลาสืบพยานทั้งหมด 3 นัด

ขณะทนายจําเลยที่ 1 และที่ 2 แถลงว่าจะนำสืบพยานจำเลยทั้งหมด 5 ปาก ขอใช้ระยะเวลาสืบพยาน 2 นัด

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นควรให้กําหนดวันนัดสืบพยานตามที่ทั้งสองฝ่ายแถลงไว้ รวมเป็นทั้งหมด 5 นัด โดยให้พิจารณาคดีติดต่อกันไป และให้คู่ความไปกําหนดวันนัดที่ศูนย์นัดความ 

จากนั้น คู่ความได้ตกลงวันนัดสืบพยานที่ศูนย์นัดความของศาล เป็นวันที่ 18-21 และ 25 ม.ค. 2565 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ของแต่ละวัน

สำหรับคดีนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 สิรภพและชูเกียรติกับได้เข้าร่วมการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา บริเวณแยกราชประสงค์ ก่อนมีการเดินขบวนไปยังหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การชุมนุมดังกล่าวจัดขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่มีการใช้กำลังอย่างการฉีดน้ำความดันสูง สารเคมี และแก๊สน้ำตา เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ที่จะไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 17 พ.ย. 63

ในการชุมนุมดังกล่าว ผู้ชุมนุมผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง ระหว่างการเคลื่อนขบวน สิรภพและชูเกียรติถูกกล่าวหาว่าได้ปราศรัยเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 กรณีของสิรภพกล่าวถึงการบทบาทของกษัตริย์ที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยของไทย บทบาทที่เกี่ยวข้องกับการเมือง การโอนย้ายกองทัพเป็นของส่วนพระองค์ สถานะของประชาชนที่สัมพันธ์กับสถาบันกษัตริย์ ส่วนชูเกียรติได้กล่าวเรียกร้องให้กษัตริย์ประพฤติตัวดีขึ้น

สิรภพและชูเกียรติได้ถูกฟ้องร้องทั้งสิ้น 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ 

ก่อนหน้านี้ หลังถูกอัยการสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64 ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่อนุญาตให้ประกันตัวสิรภพ โดยให้เหตุผลว่าเป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ และคดีมีอัตราโทษจำคุกสูง หากปล่อยชั่วคราว อาจก่อเหตุลักษณะเดียวกันซ้ำ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 64 หลังการยื่นประกันตัวอีกครั้ง ศาลได้อนุญาตให้มีการไต่สวนคำร้อง ก่อนมีคำสั่งให้ประกันตัวสิรภพ โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่ชูเกียรติ ขณะนั้นถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 อีกคดีหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว และต่อมาได้รับการปล่อยตัวหลังทำการประกันตัวในคดีมาตรา 112 ทั้งสามคดีที่เขาถูกกล่าวหาและสั่งฟ้อง เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 64

อ่านข่าวก่อนหน้านี้

‘จัสติน’ – ‘ขนุน’ รับทราบข้อหา 112 เหตุปราศรัยพาดพิงกษัตริย์ชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์

ไม่ให้ประกัน ขนุน-สิรภพ! คดีม.112 ศาลอ้างทำผิดต่อ “สถาบันหลักของประเทศ” เสี่ยงก่อเหตุซ้ำ

ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว “ขนุน” สิรภพ มีเงื่อนไขห้ามทำหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ฯ

X