ผู้ต้องหาคดี UN62 ถูกจับกุมเพิ่ม 1 ราย หลังผ่านไปเกือบ 2 ปี

วานนี้ (16 เม.ย. 63) เวลา 21.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า อาอีซะห์ เสาะหมาน ผู้ต้องหาคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง UN62 ถูกตำรวจจาก สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง ร่วมกับ สน.ชนะสงคราม จับกุมตามหมายจับของศาลแขวงดุสิต ที่ 162/2561 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 61 ที่บริเวณตลาดนัดบ้านดอนแก้ว อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ก่อนจะนำตัวขึ้นรถมายัง สน.ชนะสงคราม กรุงเทพฯ โดยเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. และถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 23.00 น. โดยอาอีซะห์ถูกควบคุมตัวในห้องขังของ สน.ชนะสงครามเป็นเวลา 1 คืน

17 เม.ย. 63 เวลา 8.15 น. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางไปที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อร่วมฟังการสอบสวนและแจ้งกล่าวข้อหานางกนกวรรน อุดทังกันทา หรือชื่อเดิม อาอีซะห์ เสาะหมาน 

นางกนกวรรน อายุ 55 ปี ประกอบอาชีพแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรเสริมงาม เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมครบรอบ 4 ปี รัฐประหาร (หรือคดี UN62) ในส่วนของผู้ชุมนุม

เหตุที่ถูกออกหมายจับเนื่องจาก กนกวรรนไม่ได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ในคดี UN62 ซึ่งออกหมายในวันที่ 28 พ.ค. 61 อย่างไรก็ตาม กนกวรรนชี้แจงว่า เนื่องจากบ้านเดิมใน จ.ขอนแก่น ที่มีการส่งหมายไปได้ถูกรื้อแล้ว ทำให้ไม่ทราบว่ามีหมายเรียกและไม่ได้รับหมาย ประกอบกับตนได้แต่งงานใหม่และย้ายที่อยู่ รวมถึงเปลี่ยนชื่อใหม่ จนมาถูกจับในวันที่ 16 เม.ย. 63

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากนกวรรน โดยแบ่งข้อหาเป็น 2 ส่วน คือ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ได้แก่

  • มาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
  • มาตรา 216 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก

และข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ 

  • มาตรา 8 ชุมนุมกีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา
  • มาตรา 11 ชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุม
  • มาตรา 19 ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

เบื้องต้นกนกวรรนรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน  ทนายความยังได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่วางหลักประกัน อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้พิจารณาว่า ต้องใช้วงเงินประกันในชั้นสอบสวน จำนวน 50,000 บาท หรืออนุญาตให้ใช้ตำแหน่งราชการในการประกันตัว

เวลา 13.30 น. กนกวรรนจึงได้รับการประกันตัว โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนของเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ซึ่งเคยระดมทุนไว้ช่วยเหลือคดีของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งก่อนหน้านี้ และพนักงานสอบสวนนัดส่งสำนวนให้อัยการต่อไปในวันที่ 7 พ.ค. 63  

แม้จะได้รับการประกันตัว แต่กนกวรรนต้องประสบปัญหาเรื่องการเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากเธอไม่ได้มีญาติพี่น้องอยู่ในกรุงเทพฯ และการเดินทางกลับไปยังจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นบ้านที่พักของเธอในปัจจุบัน ก็พบว่า แทบไม่มีรถขนส่งสาธารณะ หรือแม้แต่สายการบินเปิดทำการ  ทำให้การเดินทางในช่วงเวลาที่มีการออกมาตรการป้องกันโควิด-19 ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเรื่องลำบากอย่างยิ่ง และกนกวรรนยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเดินทางกลับจังหวัดลำปางด้วยวิธีใด

นอกจากนั้น ในส่วนจังหวัดลำปางยังมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยให้บุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ต้องกักตัวเองในเคหสถานเป็นเวลา 14 วัน  เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ซึ่งรวมถึงการเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งหากกนกวรรนเดินทางกลับจังหวัดลำปางได้ ก็ต้องเผชิญกับมาตรการดังกล่าวด้วย


สำหรับคดี UN62 ทั้งในส่วนของแกนนำและผู้ชุมนุม มีเหตุมาจากการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ 

การชุมนุมทั้งสองวัน ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นโดยตลอด และจบลงที่การจับกุมแกนนำและผู้ชุมนุม 10 ราย ที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ ส่วนแกนนำที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวน 5 ราย ยินยอมเข้ามอบตัว  

นอกจากนี้ ภายหลังเหตุการณ์ ตำรวจยังออกหมายเรียกผู้ชุมนุมอีก 47 ราย ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดย 6 ราย ถูกแจ้งข้อหาเช่นเดียวกับกลุ่มแกนนำ (ย้อนดูเหตุการณ์ ที่นี่) ปัจจุบันคดีคนอยากเลือกตั้ง UN62 ในส่วนของผู้ชุมนุมนี้ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาล ล่าสุด ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 13 ก.ค. 63 เวลา 09.00 น. โดยเลื่อนจากวันนัดเดิมในวันที่ 22 เม.ย. 63 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 

 

X