วันนี้ (7 ก.ค. 64) เวลา 11.10 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า หรือ ‘สามเณรโฟล์ค’ อายุ 21 ปี นักศึกษาปริญญาตรีจากวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และ สมาชิกแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีร่วมปราศรัยในม็อบ #บ๊ายบายไดโนเสาร์ ที่จัดโดยกลุ่ม ‘นักเรียนเลว’ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 63 ขณะนี้ยังมีตัวแทนของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติไปรอสามเณร เพื่ออ้างมติมหาเถรสมาคม ให้สึกอีกด้วย
คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 64 นายรัฐธนภักษ์ สุวรรณรัตน์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีต่อสามเณรสหรัฐ โดยอ้างว่าตรวจสอบพบข้อความปราศรัยของสามเณรสหรัฐที่วิพากษ์วิจารณ์การบังคับใช้มาตรา 112 กับวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์
ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนมีการออกหมายเรียกครั้งแรก เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่สามเณรสหรัฐไม่เคยได้รับหมาย แต่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสอบถามมาทางทนายความ และระบุว่ามีการออกหมายเรียก ต่อมาสามเณรสหรัฐจึงได้รับหมายเรียกครั้งที่ 2 ลงวันที่ 30 มิ.ย. 64 จึงได้นัดหมายเข้ารับทราบข้อหาในวันนี้
.
ปชช. กล่าวโทษตาม “ม.112” ระบุวิพากษ์วิจารณ์การบังคับใช้ ม.112 ถือเป็นการดูหมิ่นกษัตริย์
เวลา 11.10 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน สามเณรสหรัฐ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ต.ปรวีร์ สุขพงษ์ สารวัตร (สอบสวน) สน.ปทุมวัน บก.น.6 บช.น. ได้เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์แก่สามเณรสหรัฐ โดยสรุปดังนี้
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 64 นายรัฐธนภักษ์ สุวรรณรัตน์ ผู้กล่าวหาได้ตรวจพบเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “SEND สดจากแหล่งข่าว” ได้มีการเผยแพร่เทปบันทึกคำปราศรัยของสามเณรสหรัฐ ซึ่งได้ปราศรัยบนเวทีที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ต่อหน้าผู้เข้าร่วมชุมนุมจํานวนมาก ในหัวข้อ “อํานาจที่มองไม่เห็น” ในการชุมนุมของกลุ่ม ‘นักเรียนเลว’ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 63 เมื่อเวลาประมาณ 20.50 น.
ผู้กล่าวหาอ้างว่าสามเณรสหรัฐได้กล่าวคำปราศรัย ซึ่งมีข้อความสำคัญว่า “ทำไมการพูดถึงพระราชานั้นจะต้องพูดถึงแค่ด้านดีอย่างเดียว ทำไมเราไม่พูดถึงภัยของพระราชาบ้างครับ”
และ “พลเอกประยุทธ์ บอกว่า เนี่ย จะมีการใช้กฎหมายทุกมาตรา แม้กระทั่ง 112 ถ้าคุณพูดแบบนี้ปุ๊ปเนี่ย พระมหากษัตริย์จะผิดคำสัญญาหรือคำสัตย์นะครับ เพราะกษัตริย์ตรัสว่าจะไม่ใช้ 112 กับมวลชน และมันมีที่มาบอกว่า กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ ถ้าคุณยังใช้ มาตรา 112 เนี่ย แสดงว่าคุณยังเป็นกษัตริย์อยู่หรือไม่”
ผู้กล่าวหาอ้างว่าข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย ต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาสามเณรสหรัฐ 1 ข้อหา ได้แก่ “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
สามเณรสหรัฐให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 2 ส.ค. 64 สามเณรยังปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย
หลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับทราบข้อหา พนักงานสอบสวนได้ให้ปล่อยตัวสามเณรสหรัฐไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้
.
ตัวแทนสำนักงานพุทธศาสนา ยื่นมติของมหาเถรสมาคม ให้สามเณรสึก
ทั้งนี้ ในการมารับทราบข้อกล่าวหาวันนี้ ได้มีตัวแทนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ถือหนังสือมติจากสำนักเลขาธิการมหาเถระสมาคม เข้ามาแจ้งให้สามเณรสหรัฐสึกอีกด้วย
หนังสือดังกล่าว ระบุมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 ว่าสามเณรสหรัฐได้เข้าร่วมชุมนุม กับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง ซึ่งเป็นการขัดคําสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณร เกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. 2538
ทั้งในระหว่างที่เข้าร่วมการชุมนุม ยังแสดงพฤติกรรมอันเป็นการละเมิด องค์แห่งพระวินัยปิฎก ภาค 1 เรื่องลงทัณฑกรรมแก่สามเณร และแห่งนาสนะ 10 กล่าวติพระธรรม กล่าวติพระสงฆ์ มีความเห็นผิด การปฏิบัติตนที่เหมาะสมในความเป็นสมณะแห่งพระพุทธศาสนา มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ใส่ความคณะสงฆ์ให้เสื่อมเสีย หรือแตกแยก เจ้าอาวาสวัดดอนไชย จังหวัดพะเยา ได้มีคําสั่งให้ออกจากวัดที่สังกัด เนื่องจากไม่อยู่ในโอวาท ไม่ให้ความเคารพเชื่อฟังเจ้าอาวาสแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563
ในการนี้ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนําเสนอมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดพิจารณาดําเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการลงทัณฑกรรมแก่สามเณร และแจ้งให้เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทราบ
หลังจากทราบรายละเอียดในหนังสือ ทางสามเณรสหรัฐยังไม่ได้ถูกจับสึกแต่อย่างใด แต่ทนายความได้เจรจาเบื้องต้นกับตัวแทนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกระบวนการอีกครั้ง ประเด็นการจับสามเณรที่เคลื่อนไหวทางการเมืองสึก จึงยังต้องจับตาสถานการณ์ต่อไป
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หลังการกลับมาบังคับใช้มาตรา 112 อีกระลอกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน (7 ก.ค. 64) พบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ไปแล้วอย่างน้อย 103 คน ใน 100 คดี โดยในจำนวนนี้มี 46 คดีแล้วที่มี “ประชาชน” เป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งนี้สามเณรสหรัฐถือเป็นนักบวชในพุทธศาสนารายแรกที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ด้วย
.
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64
.