ฟ้องการ์ดวีโว่ครอบครองเสื้อเกราะ ขณะไปให้กำลังใจนักกิจกรรมรับทราบข้อหาที่ สภ.คลองหลวง ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัว

วันนี้ (24 พ.ค. 64) ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี นายปรณัท น้อยนงค์เยาว์ อายุ 25 ปี หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม We Volunteer (WeVo) ได้เดินทางไปรายงานตัวต่อศาลจังหวัดธัญบุรีตามนัดหมาย กรณีถูกกล่าวหาว่าครอบครองยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนรับทราบว่าพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้วตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังยื่นประกันโดยใช้หลักประกันเดิมในชั้นสอบสวน ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

มูลเหตุของคดีนี้คือ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ออกหมายเรียกนักกิจกรรม-นักศึกษา-เยาวชนจำนวน 22 คน ให้เข้ารับข้อกล่าวหาใน 2 คดี ได้แก่ คดีชุมนุมหน้า สภ.คลองหลวง เรียกร้องให้ปล่อยตัว “นิว” สิริชัย นาถึง ซึ่งถูกจับกุมในข้อหามาตรา 112 ยามวิกาลของวันที่ 13 ม.ค. 64 และคดีชุมนุมให้กำลังใจ “เดฟ” ชยพล ดโนทัย เข้ามอบตัวตามหมายจับในกรณีเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 64

ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมบริเวณสถานีตำรวจอย่างเข้มข้น ทั้งการปิดถนนหน้าสถานีตำรวจ การกั้นแบริเออร์ การนำกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนมาตรึงกำลัง พร้อมรถจีโน่ และการไม่อนุญาตให้ผู้อาศัยบริเวณดังกล่าวสัญจรผ่าน โดยที่ปรณัทได้เดินทางไปให้กำลังใจผู้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วย และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบวัตถุดังกล่าว

>> 21 นศ.-ปชช. รับทราบข้อหา สภ.คลองหลวง จัดเต็มกำลังจนท.-อุปกรณ์รับมือ ก่อนเปลี่ยนใจไม่ส่งฝากขัง

เปิดคำฟ้องของอัยการระบุ จำเลย “ครอบครองยุทธภัณฑ์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต”

ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ศาลได้แจ้งปรณัทว่า พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 64

พนักงานอัยการบรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 ที่ ตําบลคลองสอง อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เวลากลางวัน จำเลยได้มีเสื้อเกราะป้องกันกระสุนจำนวน 1 ตัว ซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ตามที่ประกาศกระทรวงกลาโหม ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 กำหนดไว้ว่าให้เสื้อเกราะป้องกันกระสุนหรือป้องกันสะเก็ดระเบิดอยู่ในชนิดยุทธภัณฑ์ที่ผู้ใดมีไว้ในครอบครองต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยประกาศดังกล่าวนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน และจําเลยได้ทราบประกาศเช่นกัน

ตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้อง เจ้าพนักงานตรวจยึดเสื้อเกราะป้องกันกระสุน จํานวน 1 ตัว ที่จําเลยมีไว้ในครอบครองเป็นของกลาง

ท้ายคำฟ้องอัยการไม่ได้คัดค้านการให้ประกันตัว โดยให้อยู่ในดุลพินิจของศาล

โดยข้อกล่าวหาที่จำเลยถูกฟ้องร้องมีเพียง 1 ข้อหา “ครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 15 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศาลอนุญาตให้ประกันตัว กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

ต่อมา ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวปรณัทระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักทรัพย์เดิมที่วางเป็นทรัพย์ประกันในชั้นสอบสวน คือเงินสดจำนวน 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์

ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และศาลได้นัดคุ้มครองสิทธิใน วันที่ 9 มิ.ย. 64 เวลา 13.00 น. และนัดพร้อมวันที่ 13 ก.ค. 64 เวลา 09.00 น.

คดีนี้ ปรณัทเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 แต่พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง นำตัวไปขอศาลจังหวัดธัญบุรีฝากขัง โดยอ้างว่าคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะหลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น

ทนายความจึงยื่นคำร้องขอประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า การครอบครองเสื้อเกราะที่ถูกระบุว่าเป็นยุทธภัณฑ์นั้นเป็นการป้องกันชีวิต ไม่ใช่เครื่องมือร้ายแรงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเสรีภาพ ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลอื่นแต่อย่างใด

>>การ์ดวีโว่รับทราบข้อกล่าวหาครอบครองเสื้อเกราะ ถูกส่งฝากขัง ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัว