แจ้งข้อหา ม.112 “ชูเกียรติ” เหตุปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ที่ MRT ท่าพระ

วันนี้ (23 ธ.ค. 2563) เวลา 11.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ ชูเกียรติ แสงวงค์ นักกิจกรรมจากจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แต่งกายคอสเพลย์เป็น “จัสติน” เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากเหตุการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 โดยคดีมีนายอานนท์ กลิ่นแก้ว อดีตหัวหน้าการ์ด กปปส. เป็นผู้กล่าวหา

พ.ต.ท.กิติ กิตประชุม รองผู้กำกับ (สอบสวน)  และ พ.ต.ท.ธรรมกฤต ศรีประเทือง สารวัตร (สอบสวน) สน.ท่าพระ ได้แจ้งข้อกล่าวหาโดยบรรยายพฤติการณ์การกระทำความผิดของชูเกียรติโดยสรุปว่า

ในการชุมนุมที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ในการชุมนุมดังกล่าว นายชูเกียรติ ได้ขึ้นพูดแสดงความคิดเห็นางการเมืองเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งมีข้อความคําพูดบางช่วงมีใจความว่า

เราไม่ได้ต้องการจะยึดอํานาจของท่าน เพียงแค่ลดอํานาจของท่าน เพียงแค่ลดสมบัติของท่านในท้องพระคลังของท่านมาแจกจ่ายราษฎร ให้ราษฎรได้ลืมตาอ้าปากครับ ไม่ใช่ท่านจะรับสามสี่ทาง

ท่านพูดมาเลยเสนอมาเลย ท่านต้องการเงินเดือนเท่าไร ประชาชนพร้อมจะจ่ายภาษีให้ท่านแน่นอน แต่อย่ามาเอาเปรียบประชาชนแบบนี้นะครับ ท่านมาเบียดเบียนราษฎรไม่ได้มันไม่ถูกต้อง,

ที่นาที่ทํากินของราษฎรบางที่เป็นขุมทรัพย์สมบัติของพวกเขา ท่านยังตีตกไปเป็นของหลวงของราษฎร ที่จริงๆ มันเป็นของราษฎร ไม่ใช่ของท่านคนเดียว ฯลฯ”

บันทึกข้อกล่าวหาระบุว่าคำพูดดังกล่าว “ฟังได้ว่าเป็นการดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาท ทําให้เสื่อมพระเกียรติ ทําให้ถูกเกลียดชังต่อ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” จึงแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  

ชูเกียรติได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอยื่นคำให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน เขายังปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เขียนข้อความประกอบว่า “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ เอวลอย คอยรัก” โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ปล่อยตัวชูเกียรติไปโดยไม่มีการควบคุมตัวไว้

 

ทั้งนี้ ‘จัสติน’ หรือชูเกียรติ ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 ครั้งนี้ถือเป็นคดีที่ 2 แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ถูกกล่าวหาจากเหตุจากปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นายลำไย จันทร์งาม ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางเข้ามาตามหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 เช่นเดียวกัน โดยนายลำไยได้รับหมายเรียกพยาน หลังจากเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับ กรณีชุมนุมหน้า MRT ท่าพระ เหตุใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากเหตุหลังการชุมนุมเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 จนถึงวันที่ 23 ธ.ค. 63 แล้วอย่างน้อย 37 รายใน 23 คดี

>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563

 

X