วันที่ 11 ม.ค. 2564 เวลา 11.00 น. ที่ สน.บุปผาราม “จัสติน” หรือ ชูเกียรติ แสงวงค์ นักกิจกรรมกลุ่มคณะราษฎร, วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ “ตี้” นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา และธนกร (สงวนนามสกุล) เยาวชนอายุ 17 ปี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากเหตุปราศรัยในการชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยในส่วนของธนกร เจ้าหน้าที่ตำรวจแยกดำเนินคดี เนื่องจากยังเป็นเยาวชน และต้องไปรายงานตัวที่สถานพินิจเยาวชนธนบุรีเพื่อสืบเสาะประวัติในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ชูเกียรติและธนกรได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนสน.บุปผาราม ลงวันที่ 30 ธ.ค. 63 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 โดยคดีมีนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา ส่วนวรรณวลีไม่ได้รับหมายเรียก แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่าได้มีการออกหมายเรียกในกรณีเดียวกันด้วย
พ.ต.ท.ปพนณัฏฐ์ สะอาดเอี่ยม พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ได้บรรยายพฤติการณ์ข้อกล่าวหาทั้งสามว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2563 เวลา 16.00-21.40 น. มีการชุมนุมของกลุ่มราษฎรฝั่งธน และฟันเฟืองธนบุรี ที่บริเวณวงเวียนใหญ่ ในระหว่างชุมนุม ชูเกียรติ, วรรณวลี และธนกร ต่างขึ้นปราศรัยมีข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
- ชูเกียรติ ถูกกล่าวหาจากคำปราศรัยหลายตอน มีเนื้อหากล่าวถึงการใช้มาตรา 112 เพื่อปิดปากประชาชน เหตุในการแต่งตัวเหมือน “จัสติน” และข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
- วรรณวลี ถูกกล่าวหาจากคำปราศรัยหลายตอน มีเนื้อหากล่าวถึงตำแหน่งจอมทัพไทย หลักการเรื่องสถาบันกษัตริย์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และเรื่องการรัฐประหาร
- ธนกร ถูกกล่าวหาจากเนื้อหาคำปราศรัยถึงการปกครองของไทยที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นระบอบสมบูรณญาสิทธิราชย์ รวมทั้งกล่าวถึงการรัฐประหาร และเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศ
ทั้งชูเกียรติและวรรณวลี ต่างให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัวไว้เนื่องจากมาตามหมายเรียก โดยให้พิมพ์ลายนิ้วมือและลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนปล่อยตัวไป
ขณะที่ในกรณีของธนกร (สงวนนามสกุล) ถูกดำเนินคดีแยกไปเป็นอีกคดีหนึ่ง เนื่องจากยังเป็นเยาวชน โดยในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวธนกร จาก สน.บุปผาราม ไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อยื่นขอควบคุมตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยที่ปรึกษากฎหมายได้แถลงด้วยวาจาคัดค้านการควบคุมตัวต่อศาลเยาวชนฯ
อย่างไรก็ดี ศาลอนุญาตตามคำร้องขอออกหมายควบคุมตัวธนกร ผู้ปกครองจึงยื่นประกันตัว โดยวางหลักประกันเป็นเงินสด 5,000 บาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จากการช่วยเหลือของกองทุนดาตอร์ปิโด กองทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในคดีทางการเมือง
กระทั่งศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ให้ความเห็นโดยสรุปว่า เนื่องจากผู้ต้องหามีอายุ 17 ปี ขณะนี้ประเทศอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และผู้ต้องหามาตามหมายเรียก ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างต่อสู้คดี
ทั้งนี้สำหรับธนกร ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองแล้วจำนวน 3 คดี โดยคดีมาตรา 112 นี้เป็นคดีที่ 2 ที่ถูกส่งตัวมาศาลเพื่อขอออกหมายควบคุมตัว หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ธนกรเคยถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.กฉุกเฉินฯ จากการชุมนุม #ม็อบ1พฤศจิกา บริเวณแยกอุดมสุข ครั้งนี้ศาลเยาวชนฯ จึงกำหนดให้วางหลักประกันด้วย
>> แจ้งข้อหาฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เยาวชน 17 ปีอีกราย หลังร่วมชุมนุม #ม็อบ1พฤศจิกา แยกอุดมสุข
>> รัฐต้องฟังเสียงของเยาวชน: บทสนทนากับ ‘ธนกร’ เยาวชนรายแรกที่ถูกตั้งข้อหา ม.116
นอกจากนั้นในวันที่ 20 ม.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้นัดหมายธนกรไปยังสถานพินิจเยาวชนธนบุรี เพื่อให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะ พินิจประวัติครอบครัว เพื่อประกอบสำนวนของพนักงานสอบสวน และนัดพบกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้คำปรึกษา ของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในวันที่ 16 มี.ค. 64 เพื่อพบที่ปรึกษาคดีเยาวชน และทำแบบสอบถามทางจิตวิทยาต่อไป
สำหรับการชุมนุมช่วงเย็นวันที่ 6 ธ.ค. 2563 ใกล้ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แกนนำคณะราษฎรฝั่งธนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนทั้งชายและหญิงสลับกันขึ้นรถกระจายเสียงปราศรัยต่อหน้ามวลชนอย่างต่อเนื่อง หัวข้อวันนั้นโจมตีการทำงานของรัฐบาล การถูกล่วงละเมิดทางเพศของสตรีในสถานศึกษา การแก้ไขกฎหมายแท้งไม่พร้อม และติติงการรับบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมของนายกรัฐมนตรี การชุมนุมยุติลงในช่วงเวลา 21.40 น. ก่อนที่ผู้ปราศรัยสามคนจะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในภายหลัง
สำหรับชูเกียรติถูกกล่าวหาในคดีมาตรา 112 คดีนี้เป็นคดีที่ 3 แล้ว ขณะที่วรรณวลีถูกกล่าวหาเป็นคดีที่ 2 ส่วนธนกร ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 คดีนี้เป็นคดีแรก
>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64