ศาลไม่ถอนประกัน ตี้-พะเยา! ชี้ไม่ได้ผิดเงื่อนไขประกัน พร้อมนัดสืบพยาน ก.พ. 65 คดี 112 ม็อบ6ธันวา

วันนี้ (21 ก.ย. 64) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีมาตรา 112 ของ 2 นักกิจกรรม “จัสติน” ชูเกียรติ แสงวงค์ และ “ตี้ พะเยา” วรรณวลี ธรรมสัตยา จากการปราศรัยในการชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2563 หรือ #ม็อบ6ธันวา ในขณะเดียวกัน ศาลยังได้นัดไต่สวนกรณีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนประกันวรรณวลีอีกด้วย 

สำหรับคำร้องขอให้ศาลถอนประกันวรรณวลี อัยการอ้างเหตุว่า วรรณวลีได้ปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในการชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน” 

>> อัยการยื่นขอเพิกถอนประกัน “ตี้ พะเยา” เหตุร่วมชุมนุม #ราษฎรยืนยันดันเพดาน ศาลธนบุรีนัดไต่สวน 12 ก.ค.

ที่ห้องพิจารณาคดี 6 ชูเกียรติ พร้อมกับพี่สาว วรรณวลีและเพื่อน ผู้ร่วมมาให้กำลังใจ เดินทางมาถึง ขณะที่ในวันนี้มีตัวแทนจากสถานทูตสวีเดนเดินทางมาสังเกตการณ์การไต่สวนด้วย แต่เจ้าหน้าที่หน้าศาลอนุญาตให้เพียงคู่ความเข้าห้องพิจารณาคดีเท่านั้น ทำให้ตัวแทนสถานทูตไม่สามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์คดีได้  

ทนายความได้ยื่นคำให้การของ ชูเกียรติ (จำเลยที่ 1) และวรรณวลี (จำเลยที่ 2) โดยทั้งสองนั้นให้การปฏิเสธ และแถลงแนวทางการต่อสู้คดีว่า สิ่งที่ทั้งสองปราศรัยนั้นไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ ด้านโจทก์ได้ยื่นบัญชีพยาน และแถลงขอสืบพยานบุคคลทั้งหมด 11 ปาก ขณะที่ทนายจำเลยแถลงขอนำสืบพยานบุคคลทั้งหมด 6 ปาก โดยศาลได้กำหนดให้สืบพยานโจทก์ทั้งหมด 3 นัด และสืบพยานจำเลย 2 นัด ในวันที่ 8-10 ก.พ. และ 18, 22 ก.พ. 65 เวลา 09.00 น.

หลังเสร็จกระบวนการสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ศาลได้เริ่มไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนประกันวรรณวลี ทนายจำเลยแถลงว่า วรรณวลีได้ปราศรัยในการชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน” ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 จริง แต่คำถอดเทปคำปราศรัยของวรรณวลีที่พนักงานสอบสวนได้นำมายื่นประกอบคำร้องนั้นมีข้อความบางส่วนไม่ถูกต้อง เช่น “ที่มึงเย็ดเด็กอายุสิบสี่” แต่ความเป็นจริงแล้ววรรณวลีพูดว่า “ยัดเด็กอายุสิบสี่” เท่านั้น นอกจากนี้ วรรณวลียังเผยอีกว่า ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น

ด้านโจทก์ได้แถลงว่าที่ยื่นคำร้องขอเพิกถอนประกันตัววรรณวลีต่อศาลนั้น เป็นเพราะพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ได้มีหนังสือถึงพนักงานอัยการ โดยในวันนี้ ร.ต.อ. วสันต์ดิลก คำโสภา รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บุปผาราม ได้เดินทางมาศาลเพื่อให้ปากคำด้วย 

ร.ต.อ.วสันต์ดิลก เบิกความว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มีหนังสือถึงอัยการขอให้ยื่นคำร้องขอถอนประกันวรรณวลีต่อศาล สำหรับบันทึกการถอดเทปคำปราศรัยของวรรณวลีนั้นผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ถอดเทป และ ร.ต.อ.วสันต์ดิลก ไม่ได้ไปสังเกตการณ์การชุมนุมในวันดังกล่าว และหลังจากการชุมนุมวันที่ 24 มิ.ย. ก็ไม่ทราบว่า วรรณวลีได้เข้าร่วมการชุมนุมที่ใดอีก 

ด้านวรรณวลีเบิกความตอบศาลว่า ตนได้ปราศรัยตามข้อความในบันทึกถอดเทปว่า “แล้วหนูใส่เสื้อเหลืองแล้วเดินไปถวายตัวเองกับกษัตริย์ หนูก็จะไม่โดนคดี” จริง แต่ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองเท่านั้น 

ทั้งนี้ วรรณวลีได้รับต่อศาลว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจะไม่กล่าวถ้อยคำหรือกระทำการใด อันเป็นลักษณะดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อีก 

ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 น. ศาลมีคำสั่งไม่เพิกถอนประกัน ใจความว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่ปรากฏว่าวรรณวลีได้กระทำผิดเงื่อนไขของสัญญาประกันซ้ำอีก เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และให้โอกาสวรรณวลีต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ศาลจึงได้กล่าวตักเตือนให้วรรณวลีปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด 

จากคำสั่งไม่เพิกถอนประกัน ทำให้วรรณวลียังคงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี หลังเสร็จการไต่สวน วรรณวลีเผยความรู้สึกว่า ก่อนศาลมีคำสั่งไม่ถอนประกัน ตนได้เผื่อใจไว้แล้วอาจต้องเข้าเรือนจำ แม้จะคาดหวังลึกๆ ว่าจะได้รับการปล่อยตัว 

“พอศาลมีคำสั่งไม่ถอนประกัน รู้สึกดีใจมากเลย เหมือนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนไต่สวน ศาลได้ยกประโยคที่ว่า ‘แล้วหนูใส่เสื้อเหลืองแล้วเดินไปถวายตัวเองกับกษัตริย์ หนูก็จะไม่โดนคดี’ มาแล้วบอกว่า ประโยคนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทนะ แล้วบอกให้ทนายคุยกับลูกความ ก่อนท่านเดินลงจากบัลลังก์ไป และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลว่า ไม่ให้เราออกจากห้องพิจารณา

“เราคุยกับทนาย เราบอกว่า เราไม่ได้หมิ่น เราพูดถึงกลุ่มเสื้อเหลือง ทนายเลยบอกให้เราอธิบายให้ศาลฟัง พอเราอธิบายศาลว่า จริงๆ แล้วมันไม่หมิ่นกษัตริย์เลย ประโยคนี้เราพูดถึงกลุ่มคนเสื้อเหลือง เรากำลังเปรียบเทียบถึงกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่เขารักสถาบันกษัตริย์ หรือโหนสถาบันกษัตริย์ ทำให้สถาบันดูแย่ลง ไม่ได้บอกว่ากษัตริย์ใส่เสื้อเหลือง ศาลเขาก็รับฟังและพิจารณา”

“จริงๆ แล้วคำปราศรัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถอดเทปมามีส่วนที่ผิดเยอะมาก บางส่วนที่ถอดผิดเหมือนทำให้เราถูกกล่าวหาว่า นอกจากหมิ่นกษัตริย์แล้ว ยังไปกล่าวหาว่าไปว่าคนอื่นด้วย เช่น ตอนปราศรัยเราพูดถึง แน่งน้อย อัศวกิตติกร ที่แจ้งความเด็กอายุ 14 ปี แต่เจ้าหน้าที่ถอดเทปเป็นคำที่แปลว่ามีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเราไม่พูดคำนี้ในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ” 


ดูฐานข้อมูลคดี >> คดี 112 ชูเกียรติ-วรรณวลี ปราศรัย #ม็อบ6ธันวา วงเวียนใหญ่

X